สกัดจับกันวุ่นทั้งเมืองปัตตานี หนุ่มชาวกัมพูชาเสพยาจนหลอน ก่อเหตุปล้นชิงรถกระบะ มอเตอร์ไซค์ชาวบ้าน ขับหลบหนีข้ามอำเภอ สุดท้ายจนมุมถูกรวบตัวในพื้นที่ อ.ยะรัง ขณะที่เหตุร้ายรายวันยังเกิดต่อเนื่อง พบฐานพักกลุ่มป่วนใต้บนเขาที่ อ.ศรีสาคร นราธิวาส ด้าน สมช.ขยายเวลา พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ รอบที่ 62
จากเหตุการณ์ชายชาวกัมพูชาก่อเหตุปล้นชิงรถยนต์กระบะแล้วขับหลบหนี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา จนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องวิทยุสกัดจับกันวุ่นวายทั้งเมืองปัตตานี เพราะเกรงจะเป็นการชิงรถไปทำคาร์บอมบ์เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ท่ามกลางกระแสความหวาดกลัวแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองนำเชื้อโควิด-19 เข้ามาแพร่ระบาด
ล่าสุดวันจันทร์ที่ 14 ธ.ค.63 พ.ต.อ.ญาณพงศ์ อุบลบาน ผกก.สภ.เมืองปัตตานี กล่าวถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า ผู้ก่อเหตุเป็นแรงงานชายชาวกัมพูชา 1 คน ได้ปล้นชิงรถกระบะมิตซูบีชิ รุ่นไทรทัน สี่ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน กง 7398 ปัตตานี ในขณะที่เจ้าของรถจอดรถลงไปซื้อของ โดยติดเครื่องยนต์เอาไว้ เมื่อสบโอกาส แรงงานกัมพูชารายดังกล่าวจึงแอบเข้าไปในตัวรถแล้วขับรถกระบะออกไป และได้ไปจอดรถทิ้งไว้บริเวณพื้นที่ ต.ตะลุโบะ อ.เมืองปัตตานี หลังจากนั้นจึงได้ไปจี้ชิงรถจักรยานยนต์จากหญิงชาวบ้านขับหลบหนีไปทางพื้นที่ อ.ยะรัง เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ยะรังสามารถสกัดจับไว้ได้
"หลังสอบสวนทราบชาวกัมพูชาที่ก่อเหตุ ทราบว่าเป็นลูกเรือประมง ก่อนเกิดเหตุได้เสพยาบ้าเข้าไป 3 เม็ด ทำให้เกิดอาการประสาทหลอน โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยืนยันว่า ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของขบวนการก่อความไม่สงบ เพราะลักษณะของคนร้ายที่ก่อเหตุและจากการตรวจสอบภาพในกล้องวงจรปิด ยืนยันว่าถูกตัวแน่นอน ถ้าเป็นกลุ่มขบวนการจะแต่งกายอำพรางมิดชิดกว่านี้" ผกก.สภ.เมืองปัตตานี กล่าว
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเย็นของวันอาทิตย์ที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุคนร้ายชิงทรัพย์รถรถยนต์กระบะ มิตชูบิชิ ไทรทัน 4 ประตู สีขาว ทะเบียน กง 7398 ปัตตานี เหตุเกิดริมถนนสายบานา-แหลมนก ห่างจากจุดตรวจแยกบานาประมาณ 500 เมตร ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่ผู้เสียหายได้จอดรถยนต์กระบะโดยติดเครื่องยนต์เอาไว้ ริมถนนสายบานา-แหลมนก เพื่อลงไปซื้อของ เมื่อจะเปิดประตูขึ้นมาบนรถ เจอคนร้ายขึ้นมานั่งที่เบาะเก้าอี้คนขับ และใช้เท้าถีบผู้เสียหาย แล้วปิดประตูพร้อมขับรถยนต์หลบหนีออกไป มุ่งหน้าไปยังพื้นที่ทางตัวเมือง
ต่อมาคนร้ายได้นำรถไปจอดทิ้งไว้ ริมถนนสาย 410 (ปัตตานี- ยะลา) บริเวณหน้าโรงไฟฟ้าตะลุโบะ แล้วได้ก่อเหตุชิงทรัพย์รถจักรยานยนต์ของ นางรอมือละ บากา อยู่บ้านเลขที่ 34/4 หมู่ 3 ต.บาราเฮาะ อ.เมือง จ.ปัตตานี แล้วขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไปทางพื้นที่ อ.ยะรัง แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสกัดจับตัวได้ในพื้นที่ ต.ประจัน อ.ยะรัง
@@พบฐานกลุ่มป่วนใต้บนเขาบีโล๊ะ จุดยิงหนุ่มล่าหมูป่าดับ
ส่วนที่ จ.นราธิวาส มีความคืบหน้าเหตุการณ์ที่ นายโสภณ ทาสุข ถูกยิงเสียชีวิตปริศนา บนเขาบีโล๊ะ ท้องที่บ้านบีโล๊ะ หมู่ 3 ต.ซากอ อ.ศรีสาคร ขณะขึ้นเขาไปล่าหมูป่ากับพรรคพวกเมื่อวันศุกร์ที่ 11 ธ.ค.63
ต่อมาวันเสาร์ที่ 12 ธ.ค. กำลังผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร จ.นราธิวาส นำโดย พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส (ผบก.ภ.จว.นราธิวาส) พร้อมกำลังชุดสืบสวนติดตามคดีความมั่นคง ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ตรงจุดที่ นายโสภณ ทาสุข ถูกยิงเสียชีวิต
หลังจากตรวจพื้นที่เกิดเหตุโดยรอบ ห่างจากจุดที่พบศพนายโสภณประมาณ 10 เมตร เจ้าหน้าที่พบฐานพักชั่วราว คาดว่าเป็นของกลุ่มก่อความไม่สงบ เป็นเต็นท์ที่ถูกกางทิ้งไว้จำนวน 13 หลัง และอุปกรณ์ดำรงชีพในป่าหลายรายการ ทั้งยังพบปลอกกระสุนปืนอาก้า จำนวน 3 ปลอก และระเบิดแสวงเครื่องแบบขว้าง (ไปป์บอมบ์) จำนวน 1 ลูก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บหลักฐานทั้งหมดเอาไว้ตรวจสอบ คาดว่าบริเวณฐานดังกล่าว เป็นแหล่งพักพิงของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ขณะที่นายโสภณได้แยกย้ายกับเพื่อนเพื่อล่าหมูป่าบนเขาบีโล๊ะ ได้บังเอิญไปเจอกับฐานของกลุ่มก่อความไม่สงบเข้า และถูกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบยิงจนเสียชีวิต หลังก่อเหตุกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้ทิ้งฐานแล้วรีบหลบหนี โดยไม่ได้เก็บข้าวของไป เพราะกลัวว่าจะมีเจ้าหน้าที่พบและติดตามไล่ล่าได้ทัน
@@คนร้ายขับ จยย.ประกบยิงหนุ่มนราฯ บาดเจ็บ
ช่วงเช้าของวันจันทร์ที่ 14 ธ.ค.63 พ.ต.ท.จารุกิตติ์ ศรีเดช รอง ผกก.สส.สภ.ตากใบ ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นายอาซัน มามะ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ 7 ต.ศาลาใหม่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลตากใบ เหตุเกิดบนถนนภายในหมู่บ้านคลองตัน หมู่ 4 ต.ศาลาใหม่ อ.ตากใบ
จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่นายอาซันกำลังขับขี่รถจักรยานยนต์เพื่อเดินทางกลับบ้าน ได้มีคนร้ายจำนวน 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ตามประกบ เมื่อสบโอกาสได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม.ยิงใส่จำนวน 5 นัด กระสุนถูกหัวเข่าซ้าย 1 นัด ทำให้ได้รับบาดเจ็บ หลังก่อเหตุคนร้ายได้เร่งเครื่องรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ส่วนนายอาซัน พลเมืองดีช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลตากใบ
ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่จำนวน 2 ปลอก จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ และเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ
@@ สมช.เห็นชอบต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ชายแดนใต้ ครั้งที่ 62
วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมวิจิตรวาทการ ตึกสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้รับทราบผลการปฏิบัติงานตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.-12 พ.ย.63 ซึ่งภาพรวมมีสถานการณ์ที่ดีขึ้น เหตุการณ์การก่อเหตุร้ายมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ประชาชนในพื้นที่ได้รับการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง พร้อมทั้งมีความเข้าใจในความจำเป็นของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยได้ให้การสนับสนุนและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
จากการประเมินสถานการณ์ด้านการข่าวพบว่า ผู้ก่อเหตุรุนแรงยังมีศักยภาพในการปฏิบัติการ และยังมีสิ่งบอกเหตุที่จะก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงในรูปแบบต่างๆ ในพื้นที่ จึงยังมีความจำเป็นที่จะต้องคงการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ต่อไปอีก
ทั้งนี้ ที่ประชุม ยังได้รับทราบเรื่องที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) จะดำเนินการจัดทำแผนการปรับลดพื้นที่การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงการส่งเสริมให้มีการสร้างงาน สร้างอาชีพ แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ด้วย
คณะกรรมการฯได้พิจารณาเห็นชอบตามที่ กอ.รมน.ภาค 4 สน.เสนอขอขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยกเว้น อ.แม่ลาน, อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี, อ.เบตง จ.ยะลา และ อ.สุไหงโก-ลก, อ.สุคิริน, อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ออกไปอีกเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ 20 ธ.ค.63 ถึง 19 มี.ค.64 (ครั้งที่ 62) เพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบให้มีความต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพต่อไป