สถานการณ์ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้กลับมาร้อนระอุอีกระลอก เมื่อมีคนร้ายนับสิบใช้อาวุธสงครามซุ่มยิงรถกระบะของทางราชการที่มีรองผู้การตำรวจภูธรนราธิวาสนั่งมาด้วย โชคดีไร้เจ็บ แต่รถพังยับ ยางแตก หวิดสิ้นชื่อ ขณะที่อีก 2 อำเภอปัตตานี "ทุ่งยางแดง-ปะนาเระ" มือมืดลอบเผา ทำลาย โจรกรรมกล้องวงจรปิดหลายจุด คาดเตรียมก่อเหตุร้าย
เหตุซุ่มยิงรถตำรวจระดับรองผู้การ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 15.30 น. วันจันทร์ที่ 31 ส.ค.63 ตำรวจ สภ.ยี่งอ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่รถกระบะของทางราชการ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไฮลักซ์ รีโว่ แบบ 4 ประตูสีดำ โดยเป็นรถของกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ขณะขับอยู่บนถนนในเทือกเขายือลาแป ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4066 ช่วงยี่งอ-ตะโละหะลอ (อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส ถึง อ.รามัน จ.ยะลา) จุดกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ บ้านยือลาแป หมู่ 3 ต.สุวารี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส หลังรับแจ้งจึงนำกำลังรุดตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุไม่พบรถกระบะคันที่ถูกซุ่มยิง เนื่องจากพลขับเร่งเครื่องรถไปขอความช่วยเหลือยังหน่วยทหารใกล้เคียงแล้ว จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่ารถกระบะคันนี้เป็นยานพาหนะที่พา พ.ต.อ.ธวัชชัย ดุกสุกแก้ว รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส (รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส) พร้อมกำลังพล 4 นายเดินทางกลับจากภารกิจการฝึกในพื้นที่ จ.ยะลา เพื่อกลับที่ตั้งใน จ.นราธิวาส แต่โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ มีเพียงตัวรถที่ได้รับความเสียหายบริเวณบังโคลนหน้า ยางหน้าซ้ายแตก กระจกด้านคนขับถูกกระสุนเจาะร้าวเกือบทั้งบาน บนตัวรถมีรอยกระสุนมากถึง 7 นัด
หลังถูกซุ่มยิง ด.ต.กำจร แซ่เหงียน พลขับ ได้ขับรถต่อไปทันทีโดยไม่จอด เพื่อไปขอความช่วยเหลือที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานนาวิกโยธินกองทัพเรือ (ฉก.ทพ.นย.ทร.) ในพื้นที่บ้านบลูกาสนอ หมู่ 4 ต.ตะปอเยาะ อ.ยี่งอ ซึ่งอยู่ห่างออกไปราวๆ 2.5 กิโลเมตร
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบบริเวณริมถนนช่วงขาขึ้นไปพื้นที่ อ.รือเสาะ มีรอยกระสุนบนพื้นถนน บริเวณรอยต่อพื้นที่หมู่ 4 บ้านบลูกาสะนอ ต.ตะปอเยาะ อ.ยี่งอ กับ บ้านยือลาแป ต.สุวารี อ.รือเสาะ และพบร่องรอยของคนร้ายที่ใช้เป็นพื้นที่ซุ่มโจมตีบริเวณเนินเขาริมถนน ซึ่งเป็นทางโค้ง
นอกจากนั้นยังพบปลอกกระสุนขนาด 5.56 มิลลิเมตร ตกในที่เกิดเหตุมากกว่า 50 ปลอก คาดว่าคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 10 คน รวมถึงคนดูต้นทาง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบที่ต้องการสร้างสถานการณ์ความรุนแรง โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังออกไล่ติดตาม แต่คนร้ายใช้ความชำนาญพื้นที่หลบหนีไปได้
เผา-ก่อกวน-โจรกรรมกล้องวงจรปิด 2 อำเภอปัตตานี
ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. วันเดียวกัน คนร้ายไม่ทราบจำนวนได้ลอบเผา, ทุบทำลาย และโจรกรรมกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือ ซีซีทีวี ในพื้นที่ ต.พิเทน ต.ตะโละแมะนา และ ต.น้ำดำ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้กล้องวงจรปิดได้รับความเสียหาย 4 ตัว และสูญหายอีก 2 ตัว พื้นที่เกิดเหตุแยกเป็น
- ในพื้นที่ ต.พิเทน คนร้ายลอบเผากล้องวงจรปิดบริเวณสี่แยกในพื้นที่บ้านบาแฆะ หมู่ 5 ทำให้กล้องเสียหาย 1 ตัว
- ในพื้นที่ ต.ตะโละแมะนา คนร้ายลอบเผากล้องวงจรปิด บริเวณจุดตรวจ ชรบ. (ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน) ในพื้นที่บ้านตะโละนิบง หมู่ 4 ทำให้กล้องได้รับความเสียหาย 1 ตัว
- ในพื้นที่ ต.น้ำดำ เกิดเหตุจำนวน 4 จุด โดยจุดแรกคนร้ายใช้สีน้ำมันลอบทากล้องวงจรปิด บริเวณหน้าบ้านของ นายสะรี มะแซ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านบาลูกาลูวะ หมู่ 1 ต.น้ำดำ ทำให้กล้องได้รับความเสียหาย ใช้การไม่ได้ 1 ตัว
จุดที่ 2 คนร้ายถอดกล้องวงจรปิด บริเวณสามแยกมัสยิด ในพื้นที่บ้านกำปงบือแง หมู่ 2 ต.น้ำดำ ทำให้กล้องสูญหาย 1 ตัว จุดที่ 3 คนร้ายใช้สีน้ำมันลอบทากล้องวงจรปิด บริเวณหน้าบ้านของ นายการียา อาแวกือจิ กำนันตำบลน้ำดำ ในพื้นที่บ้านกำปงบือแง หมู่ 2 ทำให้กล้องได้รับความเสียหาย 1 ตัว และจุดที่ 4 คนร้ายได้ถอดกล้องวงจรปิด บริเวณปากซอยในพื้นที่บ้านนัดฆอมิส หมู่ 5 ต.น้ำดำ ทำให้กล้องสูญหาย 1 ตัว
ในคืนเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยังได้รับแจ้งว่ามีกล้องวงจรปิดใน อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ถูกโจรกรรมไปอีก 4 ตัว
ต่อมาเวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปะนาเระ ได้นำกำลังลงพื้นที่ไปตรวจสอบการใช้งานของกล้องวงจรปิด ระบบ WiFi ของผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ที่ได้มอบให้ สภ.ท้องที่ ไปติดตั้งตามจุดเลี่ยงต่างๆ พบว่ากล้องวงจรปิดไม่สามารถใช้งานได้ จำนวน 2 จุด และมีทิศทางผิดปกติ จำนวน 1 จุด จึงมอบหมายให้ชุดปฏิบัติการสืบสวนเดินทางเข้าพื้นที่เพื่อตรวจสอบบริเวณจุดติดตั้ง
จุดที่ 1 บริเวณโรงเรียนบ้านน้ำบ่อ หมู่ 2 ต.บ้านน้ำบ่อ อ.ปะนาเระ พบว่ากล้องที่ติดตั้งบริเวณชั้น 2 ของอาคารเรียน สูญหายไป 2 กล้อง
จุดที่ 2 บริเวณเสาไฟฟ้า บ้านบ่ออิฐ หมู่ 6 ต.บ้านกลาง อ.ปะนาเระ กล้องวงจรปิดสูญหายไปอีก 2 ตัว
จุดที่ 3 บริเวณเสาไฟฟ้า บ้านโหนดแดง บ้านย่อยของบ้านพ่อมิ่ง หมู่ 3 ต.พ่อมิ่ง อ.ปะนาเระ ปรากฏว่ากล้องที่ติดตั้งบนเสาไฟฟ้ามีทิศทางการใช้งานผิดปกติ คาดว่ามีคนร้ายลอบขึ้นไปปรับทิศของกล้องให้ผิดไปจากเดิม เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการปรับให้เข้าที่
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า เหตุการณ์ลอบเผา ทำลาย ก่อกวนการใช้งาน และโจรกรรมกล้องวงจรปิดทั้งหมดที่เกิดขึ้นใน 2 อำเภอของ จ.ปัตตานี เป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
----------------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณ : ภาพประกอบบางส่วนจากเจ้าหน้าที่ชุดตรวจที่เกิดเหตุ