สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ พื้นที่ที่มีปัญหาความมั่นคงมาตลอด 16 ปี มีนักเรียนร่วมกิจกรรม "ชู 3 นิ้ว" ทั้งในโรงเรียนรัฐบาล และโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ในบรรยากาศที่คักคักไม่แพ้ภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศ ท่ามกลางสายธารการวิจารณ์ทั้งเข้าใจและไม่เข้าใจ ระหว่างเด็ก ครู รวมถึงผู้ปกครอง
โรงเรียนที่มีนักเรียนจัดกิจกรรม "ชู 3 นิ้ว" ก็เช่น โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา, โรงเรียนพัฒนาวิทยา จังหวัดยะลา นอกจากนั้นยังมีสถาบันอุดมศึกษาร่วมกิจกรรมด้วย อย่างเช่นที่มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา เป็นต้น
โรงเรียนเอกชนอึดอัด - โรงเรียนรัฐเสรีมากกว่า
ครูในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามชื่อดัง ย่านตลาดเก่า จ.ยะลา ซึ่งมีเด็กนักเรียนจัดกิจกรรม "ชู 3 นิ้ว" แต่ไม่ได้คึกคักมากนัก กล่าวว่า เห็นด้วยกับนักเรียนที่ชู 3 นิ้ว และผูกโบว์ขาวแสดงสัญลักษณ์ เพราะเป็นการเรียกร้องเสรีภาพที่แท้จริง เนื่องจากทุกวันนี้ประชาขนยังไม่มีเสรีภาพ โดยเฉพาะในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีการใช้กฎหมายพิเศษหลายฉบับ โดยมีทหารเป็นผู้ถืออำนาจเหนือกว่าหน่วยปกติ ทำให้ชาวบ้านรู้สึกลำบากใจที่ต้องใช้ชีวิตแบบไม่ปกติ
ครูโรงเรียนเอกชนสอนศาสนารายนี้ ยอมรับว่า กิจกรรมชู 3 นิ้วของเด็กในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาจะไม่ชัดเจนพร้อมเพรียงเท่าโรงเรียนของรัฐ เพราะเมื่อเป็นโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา จะทำอะไรต้องคิดหลายชั้น เกรงว่าฝ่ายความมั่นคงจะตีความเป็นอย่างอื่น ส่วนโรงเรียนรัฐบาล มีเด็กชู 3 นิ้วช่วงเคารพธงชาติ ทหารก็ไม่มองในมิติความมั่นคง เท่าที่ตรวจสอบกับเพื่อนครูโรงเรียนอื่น ทราบว่าโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาในพื้นที่ มีนักเรียนร่วมกิจกรรมหลายแห่ง แต่เน้นการผูกโบว์สีขาวมากกว่า ส่วนการชู 3 นิ้วจะทำกันแบบหลบๆ
ด้านครูโรงเรียนรัฐบาลใน จ.ปัตตานี กล่าวว่า เห็นนักเรียนชู 3 นิ้ว และผูกโบว์ขาวแล้วก็รู้สึกเฉยๆ ถือว่านักเรียนสามารถทำได้ ถ้าอยู่ในกรอบและระเบียบ เด็กสามารถแสดงความคิดเห็นได้ นักเรียนมาเรียนตามปกติ เข้าห้องเรียนปกติ แต่เวลาจะแสดงออกทางการเมืองก็ไปทำเวลาอื่นที่ไม่ใช่เวลาเรียน แบบนี้ก็ไม่เห็นว่าเป็นความผิดอะไร และการชู 3 นิ้วไม่ได้เกิดเฉพาะในโรงเรียน แต่ยังมีข้างร้านสะดวกซื้อ ข้างร้านอาหารริมทาง เด็กๆ เจอกันก็คุยกัน ส่วนที่กระเป๋าก็มีโบว์ขาวติดอยู่แทบทุกคน แสดงว่าทุกคนต้องการแสดงความคิดเห็น ต้องการชูความต้องการของตัวเองว่าพวกเขาต้องการอะไร ฉะนั้นอยากให้มีการรับฟังมากกว่าที่จะไปห้าม
แต่ก็ยอมรับว่ามีหลายโรงเรียนที่ห้ามนักเรียนไม่ให้แสดงออกในเรื่องนี้ ซึ่งส่วนตัวไม่เห็นด้วย เพราะจริงๆ แล้วไม่สามารถห้ามเด็กได้ โดยเฉพาะเด็กยุคนี้ แต่ครูสามารถสอนให้คิดเป็น และเป็นเด็กดี อยู่ในกรอบ มีระเบียบได้
นักเรียนเผยครูขอร้องอย่าออกตัวแรง
ด.ช.นัท (สงวนชื่อ-นามสกุลจริง) นักเรียนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามใน จ.ปัตตานี กล่าวถึงการร่วมกิจกรรมชู 3 นิ้วว่า ครูสอนให้กล้าเเสดงออก แต่พอเด็กกล้าแสดงออก ครูกลับมาห้ามไม่ให้ชู 3 นิ้ว ส่วนตัวมองว่าการชู 3 นิ้วเป็นแค่สัญลักษณ์เรียกร้องให้มีสิทธิ์แสดงออก จริงๆ แล้วส่วนตัวรู้สึกเฉยๆ กับเรื่องนี้ แต่พอมีการห้าม ทำให้รู้สึกว่าอยากทำ อยากแสดงออก ตนรู้ว่า 3 นิ้วแปลว่าอะไร ผูกโบว์ขาวแปลว่าอะไร แต่ครูบอกว่าโรงเรียนเราเป็นโรงเรียนสอนศาสนา จะทำอะไรเปิดเผยไม่ได้ เพราะมีคนจ้องจะเล่นงานอยู่ ปล่อยให้โรงเรียนอื่นทำไป
ด้านนักเรียนโรงเรียนรัฐบาลในตัวเมืองปัตตานี กล่าวว่า ตอนนี้เพื่อนๆ ที่โรงเรียนไม่กล้าชู 3 นิ้ว ต้องทำแบบแอบๆ และห้ามโพสต์โซเชียลฯ เพราะถูกครูขอร้องเอาไว้ นักเรียนจึงหันมาผูกโบว์สีขาวแทน สำหรับตนเองไม่ได้ร่วมทั้งชู 3 นิ้วและผูกโบว์สีขาว แต่ยอมรับว่าตอนนี้เพื่อนๆ นักเรียนกล้าแสดงออกมากกว่าช่วงที่ผ่านมา เช่น ตั้งแต่เปิดเทอมหลังโควิด มีการเปิดแมสเสจคุยกันทางโซเชียลฯ ในเรื่องที่ไม่พอใจโรงเรียน ทั้งประเด็นเงินบริจาค และเรื่องอื่นๆ ที่ไม่เคยถกเถียงกันในที่สาธารณะมาก่อน นักเรียนนำเรื่องเหล่านี้มาโพสต์คุยในโซเชียลฯ จนครูต้องออกมาขอโทษนักเรียน และขอร้องให้หยุด
ครูเกร็ง - ผู้ปกครองกังวล
นอกจากนี้ สิ่งที่นักเรียนออกมาแสดงท่าทีเรื่องของการเรียกร้องสิทธิ์ต่างๆ ทำให้ครูบางคนปรับพฤติกรรมในการสอน เช่น เคยสอนแบบกันเอง หยอกล้อกัน ก็จะเปลี่ยนเป็นสอนแบบแข็งๆ เกร็งๆ ไม่กล้าวิจารณ์ ไม่กล้าวิเคราะห์อะไรมาก จนนักเรียนต้องถามครูว่าทำไมถึงต้องสอนแบบนี้ ครูก็ตอบว่าครูไม่กล้าสอนแบบเดิม เดี๋ยวนักเรียนจะมาเรียกร้องสิทธิ์โน่นนี่กับครู ส่วนตัวเห็นว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
ขณะที่เสียงจากผู้ปกครองนักเรียน นายอำนาจ (สงวนนามสกุล) ซึ่งมีลูกเรียนอยู่ในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา ในจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า ตอนนี้ลูกๆ ออกมาแสดงสิทธิเสรีภาพ ก็รู้สึกกังวล แต่ก็ต้องดูอยู่ห่างๆ เพราะเราจะไปห้ามลูกก็ไม่ได้ แต่ขอให้ลูกอยู่ภายใต้กรอบที่ไม่ล้ำเส้นคนอื่นมากเกินไป ซึ่งลูกก็ตอบกลับมาว่า การชู 3 นิ้วไม่ได้เป็นการกระทำอะไรที่นอกกรอบ
เบตงราบรื่น นักเรียนชู - ครูเข้าใจ
ที่ อ.เบตง จ.ยะลา อำเภอใต้สุดแดนสยาม บรรดานักเรียนของโรงเรียนเบตงวีระราษฎร์ประสาน ต่างพร้อมใจกันชู 3 นิ้วขณะเข้าแถวหลังเคารพธงชาติ พร้อมเปล่งเสียง "เราต้องการประชาธิปไตย" รวมถึงใช้ริบบิ้นสีขาวเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ทางการเมือง ต่อต้านอำนาจของรัฐบาล เรียกร้องการมีสิทธิและเสรีภาพ โดยกิจกรรมนี้ใช้เวลาเพียงสั้นๆ ก่อนที่นักเรียนจะแยกย้ายเข้าห้องเรียนตามปกติ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ อส. (อาสารักษาดินแดน) เข้าไปสังเกตการณ์
น.ส.วีอามร์ การือมอ ตัวแทนนักเรียน กล่าวว่า ถือเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ทางการเมืองที่ไม่ได้มุ่งหวังที่จะสร้างความรุนแรงใดๆ เพียงแต่ต้องการแสดงจุดยืน แสดงพลังประชาธิปไตย ต้องการให้ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ให้มีการพัฒนาด้านการศึกษา และพัฒนาประเทศไปพร้อมๆ กัน ยืนย้นว่ากิจกรรมนี้ไม่มีแกนนำ ไม่มีปราศรัย แต่เป็นสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ
ขณะที่ นายนพปฎล มุณีรัตน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเบตง "วีระราษฎร์ประสาน" กล่าวว่า ทางโรงเรียนทราบว่ามีการจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ทางการเมืองของนักเรียนผ่านการเชิญชวนทางโซเชียลมีเดีย แต่ทางโรงเรียนไม่ได้มีการห้ามปราม เพียงแต่เน้นย้ำให้นักเรียนรู้จักแยกแยะความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ซึ่งนักเรียนมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออก แต่ต้องมีขอบเขต และควรระมัดระวังการแสดงออกที่อาจทำให้เกิดความแตกแยก จึงอยากให้ทุกฝ่ายพิจารณาอย่างเหมาะสม