คำประกาศของรัฐบาลซาอุดิอาระเบียที่ให้การประกอบพิธีฮัจย์อันศักดิ์สิทธิ์ในปีนี้จำกัดเฉพาะชาวซาอุดี และคนต่างชาติที่อาศัยอยู่ในประเทศเท่านั้น เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ผู้แสวงบุญชาวไทย โดยเฉพาะพี่น้องมุสลิมจากชายแดนใต้รู้สึกเสียใจ แต่ก็ต้องยอมรับ และเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางในปีหน้า
สถานกงสุลใหญ่ไทย ณ นครเจดดาห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย แจ้งข่าวเมื่อวันอังคารที่ 23 มิ.ย.63 ว่า กระทรวงฮัจย์และอุมเราะห์ของซาอุดิอาระเบีย ประกาศว่า การประกอบพิธีฮัจย์ในปีนี้ ซึ่งตรงกับฮิจเราะห์ศักราช 1441 จะถูกจัดขึ้นโดยมีผู้แสวงบุญจำนวนจำกัดเฉพาะชาวซาอุดี และชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในซาอุฯเท่านั้น พร้อมจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมพิธีเหลือระดับพันคน จากที่ทุกปีมีมุสลิมจากทั่วโลกไปร่วมพิธีอันศักดิ์สิทธิ์เกือบ 2 ล้านคน
สาเหตุสำคัญของคำประกาศนี้ มาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 ที่ยังคงกระจายอยู่ใน 180 ประเทศทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อมากกว่า 9 ล้านคน และยอดเสียชีวิตใกล้จะแตะ 5 แสนคน ขณะที่ในซาอุดิอาระเบียเอง ก็เป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อสูงเป็นอันดับที่ 15 ของโลก ตัวเลขล่าสุด ณ วันที่ 23 มิ.ย.อยู่ที่ 164,144 คน และเสียชีวิต 1,346 คน
"การตัดสินใจครั้งนี้มีขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าฮัจย์ดำเนินการอย่างปลอดภัยจากมุมมองด้านสุขภาพของประชาชน ในขณะเดียวกันก็ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและพิธีสารทางสังคมที่จำเป็นเพื่อปกป้องมนุษย์จากความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการระบาดครั้งนี้ และสอดคล้องกับคำสอนของศาสนาอิสลาม" เป็นตอนหนึ่งของถ้อยแถลงจากกระทรวงฮัจย์และอุมเราะห์ของซาอุดิอาระเบีย
การแสวงบุญด้วยการประกอบพิธีฮัจย์ที่ซาอุดีอาระเบียเป็นความปรารถนาของมุสลิมทั่วโลกที่ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องร่วมพิธีฮัจย์ ชาวมุสลิมจำนวนมากจึงเก็บออมเงินเพื่อโอกาสในการเดินทางไปแสวงบุญใหญ่ และจำนวนมากต้องลงทะเบียนรอการเดินทางไปฮัจย์เป็นเวลาหลายปี ซึ่งรวมถึงมุสลิมในประเทศไทย
แต่ในปีนี้มีสัญญาณข่าวร้ายเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น ในช่วงต้นเดือน มิ.ย. อินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมุสลิมมากที่สุดในโลก เป็นประเทศแรกที่ประกาศไม่ให้ชาวอินโดนีเซีย 221,000 คนเดินทางไปร่วมพิธีฮัจย์ และมีหลายประเทศประกาศยกเลิกตามมา กระทั่งสุดท้ายมีคำประกาศจากซาอุดิอาระเบีย
สถานการณ์แบบนี้กระทบจิตใจของพี่น้องมุสลิมในประเทศไทยไม่น้อยเลย โดยเฉพาะพี่น้องในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
นายมูฮำหมัดยูโซป มามะสาและ ชาว จ.ปัตตานี บอกว่า ก่อนหน้านี้ซาอุดิอาระเบียก็ส่งสัญญาณถึงประชาคมมุสลิมล่วงหน้ามาประมาณ 2 เดือนแล้ว ให้ผู้แสวงบุญทั่วโลกชะลอแผนการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ในปีนี้ และเมื่อเดือน มี.ค. ทางการซาอุดีอาระเบียก็ประกาศยกเลิกอุมเราะห์ (การแสวงบุญเล็ก)
นางนาปีซะ สะตำ ชาว จ.ปัตตานี เล่าว่า ตนเป็นคนหนึ่งที่จ่ายเงินให้บริษัทผู้ประกอบกิจการฮัจย์ (ชาวบ้านเรียกว่า แซะห์) เพื่อเดินทางไปทำฮัจย์ปีนี้ในราคา 180,000 บาท แต่เมื่อทางซาอุฯประกาศไม่ให้เดินทางไปทำฮัจย์ ก็ไม่เป็นไร ถือว่าอัลลอฮ์กำหนดมาแบบนี้ เราต้องยอมรับ ถ้าถามว่าเสียใจไหม ก็เป็นเรื่องปกตที่จะต้องเสียใจ แต่ก็ไม่เป็นไร ถือว่าเป็นความประสงค์ของอัลลอฮ์
ส่วนเงินที่จ่ายไปแล้วกับบริษัทฯ ทางบริษัทฯประกาศแล้วว่า ถ้าใครต้องการไปปีหน้า ก็สามารถแจ้งชื่อได้เลยโดยไม่ต้องรับเงินคืน ตนยืนยันว่าจะไปปีหน้าแน่นอน ก็ไม่รับเงินคืน รอไปปีหน้าเราก็ไม่ต้องจ่ายอะไรแล้ว แต่ถ้ารับเงินคืนก็จะต้องหักส่วนต่างที่บริษัทได้จองที่พักล่วงหน้า ซึ่งก็เป็นจำนวนที่สูงอยู่ ยอมไปปีหน้าดีกว่า
ผู้รู้ให้ข้อมูลว่า การยกเลิกการประกอบพิธีฮัจย์ในปีนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ตามประวัติศาสตร์ 1,400 กว่าปี มีการยกเลิกการประกอบพิธีฮัจย์มาแล้วอย่างน้อย 40 ครั้ง ส่วนใหญ่มาจากสถานการณ์โรคระบาดและการสู้รบ
"เราไม่ได้ไปปีนี้ก็เสียใจ จะบอกว่าไม่เสียใจก็โกหก แต่ก็ยอมรับกับสิ่งที่ถูกกำหนด และเมื่อฟังประวัติศาสตร์ก็สบายใจขึ้น เพราะเคยเกิดมาแล้วหลายครั้ง ก็เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในปีนี้" ชาวบ้านรายหนึ่งกล่าว