คนไทยที่ตกค้างในมาเลเซีย โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานร้านต้มยำกุ้งแห่หนีกลับไทยผ่านช่องทางธรรมชาติมากกว่าปฏิบัติตามขั้นตอนด้วยการข้ามแดนผ่านด่านศุลกากรที่รัฐบาลเปิดให้เป็นกรณีพิเศษแบบจำกัดจำนวน ตัวเลขแค่ 2 วันจับกุมพวกลักลอบได้มากกว่าครึ่งพัน
การเปิดด่านพรมแดนทางบก 5 ช่องทางเป็นกรณีพิเศษ เพื่อรับคนไทยในมาเลเซียที่ตกค้างอยู่เป็นจำนวนมากช่วงปิดประเทศนั้น เป้าหมายสำคัญเพื่อช่วยเหลือแรงงานหรือลูกจ้างร้านต้มยำกุ้ง ซึ่งหมายถึงร้านอาหารไทยในมาเลเซีย รวมถึงแรงงานรากหญ้าสาขาอื่นๆ ได้เดินทางกลับภูมิลำเนา เนื่องจากได้รับความลำบากในการดำเนินชีวิตเพราะไม่มีงานทำในช่วงปิดเมือง ล็อกดาวน์ โดยเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ 18 เม.ย.63 เป็นต้นมา
ด่านพรมแดนทางบก 5 ด่าน ได้แก่ ด่านสุไหงโกลก อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส, ด่านเบตง อ.เบตง จ.ยะลา, ด่านสะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา, ด่านตำมะลัง อ.เมือง จ.สตูล และด่านวังประจัน อ.ควนโดน จ.สตูล โดยรัฐบาลอนุญาตให้คนไทยเดินทางแผ่นแดนได้ทั้ง 5 ด่าน 350 คนต่อวัน แต่ด่านที่กลุ่มแรงงานนิยมเดินทางกลับมากที่สุด คือด่านสุไหงโกลก ซึ่งจำกัดจำนวน 100 คนต่อวัน เนื่องจากเป็นชายแดนติดต่อกับรัฐกลันตัน ต่อเนื่องตรังกานู และสามารถเดินทางต่อไปยังกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซียได้สะดวก ซึ่งทั้งรัฐกลันตัน ตรังกานู ตลอดจนกัวลาลัมเปอร์ มีร้านต้มยำกุ้งของคนไทยจำนวนมาก
สำหรับตัวเลขการเดินทางผ่านด่านพรมแดนในวันที่ 2 คือวันอาทิตย์ที่ 19 เม.ย. ปรากฏว่าบริเวณจุดผ่านแดนถาวรสุไหงโกลก มีคนไทยในมาเลเซียเดินทางเข้ามาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จำนวน 59 คน จากรายชื่อที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มีหนังสือแจ้งบัญชีมาทั้งหมด จำนวน 96 คน (จากยอดรวมที่อนุญาตให้เข้าได้ต่อวัน 100 คน) เป็นประชาชนที่มีภูมิลำเนาใน จ.ปัตตานี 41 คน จ.ยะลา 7 คน จ.นราธิวาส 10 คน และ จ.พระนครศรีอยุธยา จำนวน 1 คน
เป็นที่น่าสังเกตว่า มีคนไทยในประเทศมาเลเซียที่รอเข้าจุดผ่านแดนโดยไม่มีเอกสารประกอบการอนุญาตเดินทาง (เอกสารรับรองจากสถานทูตหรือสถานกงสุล และใบรับรองแพทย์ fit to travel ประมาณ 300 คน โดยเจ้าหน้าที่จะทยอยให้บุคคลกลุ่มนี้เดินทางเข้าจุดผ่านแดนชุดละประมาณ 20-30 คน แต่ถือว่าเป็นบุคคลลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ต้องเปรียบเทียบปรับแล้วนำตัวเข้ากระบวนการตรวจคัดกรองควบคุมโรคและกักกันตัวสังเกตอาการต่อไป
แค่ 2 วันลอบเข้าเมืองกว่าครึ่งพัน
มีรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากด่านพรมแดนสุไหงโกลกปิดลงเมื่อเวลา 14.00 น. ได้มีแรงงานและคนไทยในมาเลเซียลักลอบหนีข้ามแม่น้ำโกลกซึ่งเป็นช่องทางข้ามธรรมชาติ เพื่อเข้าสุ่เขตแดนไทยอีกถึง 300 คน โดยแรงงานกลุ่มนี้ไม่มีหลักฐานรับรองจากสถานทูตและไม่มีใบรับรองแพทย์ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารจับกุมและส่งไปยังจุดคัดกรอง 3 จุด 5 ขั้นตอนที่เตรียมไว้
แยกเป็น 3 กลุ่ม 3 สี คือ สีแดง กลุ่มมีอาการส่อติดเชื้อโควิด-19, สีเหลือง กลุ่มที่เดินทางมาจากพื้นที่แพร่ระบาด และสีเขียว ไม่ได้เดินทางมาจากพื้นที่ระบาด และไม่มีอาการส่อติดเชื้อ โดยทั้งหมดจะต้องเข้ากระบวนการตรวจร่างกาย จากนั้นจะถูกส่งตัวไปกักดูอาการ 14 วันในศูนย์กักกันตามภูมิลำเนาของแต่ละบุคคล โดยเจ้าหน้าที่ได้เปรียบเทียบปรับคนละ 800 บาทด้วย
ก่อนหน้านี้เมื่อวันเสาร์ที่ 18 เม.ย. มีคนไทยที่ไม่ได้ขออนุญาตเดินทางเข้าประเทศถูกจับปรับ จำนวน 294 คน เมื่อรวมกับวันอาทิตย์ที่ 19 เม.ย.อีก 300 คน รวม 2 วันมีคนไทยข้ามแดนผิดกฎหมายและถูกจับปรับแล้วถึง 594 คน
เผยเหตุแห่หนีข้ามแดนยอมโดนจับ
สำหรับการลักลอบเดินทางข้ามพรมแดนผ่านช่องทางธรรมชาติมีมาอย่างต่อเนื่องหลายวันแล้ว สาเหตุเพราะไม่ต้องเดินทางและไปต่อคิวลงทะเบียนที่สถานทูต สามารถข้ามแดนได้ตลอดเวลา หากถูกจับกุมก็จะโดนปรับแค่ 800 บาท ซึ่งถูกกว่าการเดินทางไปลงทะเบียนที่สถานทูตในมาเลเซียและจ่ายค่าใบรับรองแพทย์ เมื่อถูกจับกุมแล้วก็เข้ากระบวนการกักตัวเหมือนกัน แต่หากเล็ดลอดเข้ามาได้โดยไม่ถูกจับ ก็จะไม่ต้องเข้ากระบวนการกักกันตัว แต่ก็อาจจะนำเชื้อโรคไประบาดในชุมชนของตนเอง
ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่รับผิดชอบบริเวณแนวชายแดน ได้ทำรายงานชี้แจงสถานการณ์ที่มีคนไทยลอบเข้าเมืองจำนวนมากในช่วงนี้ว่า การที่เจ้าหน้าที่ยินยอมให้กลุ่มคนไทยในมาเลเซียที่ไม่มีเอกสารประกอบการอนุญาตเดินทางผ่านจุดผ่านแดนได้นั้น สืบเนื่องจากปัญหาเมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่กลุ่มบุคคลที่ไม่มีเอกสารฯ ได้พยายามลักลอบข้ามพรมแดนทางช่องทางและท่าข้ามธรรมชาติ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องพิจารณาว่าหากมุ่งปฏิบัติการจับกุมอย่างเข้มงวด อาจมีบางส่วนที่สามารถหลบหนีการตรวจจับของเจ้าหน้าที่แล้วเดินทางเข้าสู่หมู่บ้านหรือชุมชนตามภูมิลำเนา ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่หมู่บ้านหรือชุมชนเหล่านั้นได้
ด้วยเหตุนี้เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องปล่อยให้ผู้ไม่มีเอกสารประกอบการอนุญาตเดินทาง สามารถเข้าประเทศไทยโดยผ่านจุดผ่านแดนสุไหงโกลกช่องทางปกติได้ เพื่อนำตัวไปกักกันตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงสาธารณสุข อันจะส่งผลถึงการควบคุมป้องกันโรคระบาด
แต่ผลข้างเคียงที่อาจเกิดตามมาก็คือ อาจเกิดปัญหากลุ่มคนไทยในมาเลเซียอีกจำนวนมากที่ไม่มีเอกสารประกอบการอนุญาตเดินทาง จะมุ่งเดินทางมาเข้าทางจุดผ่านแดนสุไหงโกลก และช่องทางธรรมชาติต่างๆ จนเกินขีดความสามารถของระบบตรวจคัดกรองควบคุมโรค และสถานที่กักกันตัวจะรองรับได้
รองแม่ทัพลุยเอง! คุมเข้มสกัดหนีข้ามแดนแพร่โควิด
ด้าน พล.ต.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองแม่ทัพภาค 4 พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร ได้ร่วมเดินทางตระเวนตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหารพราน กรมทหารพรานที่ 48 ที่รับภารกิจคุมเข้มบริเวณช่องทางข้ามแดนทางธรรมชาติของแม่น้ำโกลก โดยมีการตั้งจุดตรวจที่บ้านลูโบ๊ะฆง หมู่ 3 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโกลก เพื่อเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดกวดขันในการเฝ้าสังเกตการณ์ หลังทราบเบาะแสมีคนไทยที่ตกค้างอยู่ในรัฐต่างๆ ของประเทศมาเลเซียเป็นจำนวนมาก กำลังแยกย้ายกันฉวยโอกาสลักลอบเดินทางข้ามจากช่องทางข้ามธรรมชาติเพื่อเข้ามายังฝั่งประเทศไทย
พร้อมทั้งได้ประสานไปยังหัวหน้าชุดปฏิบัติการทั้ง 36 ชุดที่ถูกส่งตัวมาปฏิบัติหน้าที่ตลอดแนวพรมแดนทั้ง 3 อำเภอ คือ อ.ตากใบ อ.สุไหงโกลก และ อ.แว้ง ให้เพิ่มความเข้มงวด ซึ่งผลการปฏิบัติทำให้คนไทยในมาเลเซียจำนวนนับร้อยคน ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง และเด็ก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาว จ.ปัตตานี ต้องจำยอมเดินทางผ่านด่านพรมแดนสุไหงโกลก และถูกเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวไปทำคัดกรองตรวจโรคตามกระบวนการ และต้องถูกเปรียบเทียบปรับคนละ 800 บาท ในข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พร้อมทั้งได้จัดรถยนต์ส่งตัวกลับภูมิลำเนาของแต่ละบุคคล เพื่อให้ทางจังหวัดแต่ละจังหวัดกักตัวเพื่อดูอาการ 14 วัน
กลุ่มบุคคลที่ถูกจับกุมส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมง และเป็นลูกจ้างตามสวนปาล์ม สวนยางพารา ที่เจ้าหน้าที่ทางการประเทศมาเลเซียได้วางมาตรการเข้มข้นในการลงพื้นที่เพื่อสุ่มตรวจบุคคลที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้กลุ่มคนไทยเหล่านี้ซึ่งส่วนใหญ่เดินทางเข้าไปขายแรงงานผิดกฏหมาย ต้องลักลอบเดินทางข้ามประเทศเพื่อกลับภูมิลำเนา
-------------------------------------------------------------------------------------------------------
อ่านประกอบ :
แรงงานต้มยำเจอมาตรการรัฐ มึนโดนสกัดเข้าประเทศ ต้องนอนริมถนน
3,000 ลูกจ้างร้านต้มยำตกค้างในมาเลย์ วอนรัฐช่วย-อยากกลับบ้าน
ปิดด่านยาว...แรงงานต้มยำนับแสนกระอัก มท.2 เร่งหาทางช่วย
มท.2 ระดมสมองช่วยแรงงานต้มยำกุ้ง จ่อแจกเงินยังชีพ
จ่อเปิด 5 ด่านชายแดนใต้รับ 350 คนไทย/วัน เปิด 67 ศูนย์รอกักกัน
ทบทวนมาตรการเข้ม มท.-ชายแดนใต้ เปิดด่านรับคนไทยกลับบ้าน
เช็คพร้อมรอบสุดท้าย! ชายแดนใต้เปิดด่านรับคนไทยจากมาเลย์
ยอดกลับไทย 5 ด่านชายแดนใต้วันแรกต่ำกว่าเป้า - จับลักลอบเข้าเมืองได้อีก 3