ตำรวจกองปราบแกะรอยจับกุม 3 แกนนำสำคัญที่อ้างตัวเป็น "คณะปฏิรูปยุทธศาสตร์แห่งราชอาณาจักรไทสยาม" พร้อมตั้งข้อหาหนัก "ฉ้อโกงประชาชน" หลังเดินสายอ้างโครงการหลวงหาสมาชิก ลวงว่ามีเงินทุนสูงถึง 6.6 ล้านล้านบาท หวังให้เหยื่อตายใจ ทั้งที่จริงๆ เช่าห้องอยู่ เป้าหมายดูดข้อมูลส่วนบุคคลนำไปใช้ประโยชน์ในทางมิชอบ
พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ รองผู้บังคับการปราบปราม ได้แถลงผลการจับกุม นางสาว กัณฑ์ภิดา (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี, นายชัยบูรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี และ นางกมลชนกสรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดสกลนคร ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแต่ละคนมีหมายจับอย่างน้อยคนละ 2-5 หมาย
พฤติการณ์ของบุคคลกลุ่มนี้ คือร่วมกันใช้ชื่อกลุ่มไลน์ว่า "คณะปฏิรูปยุทธศาสตร์แห่งราชอาณาจักรไทสยาม" ออกเคลื่อนไหวในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อชักชวนให้ประชาชนสมัครเข้าเป็นสมาชิก มีการตั้งแอคเคานท์ไลน์ ชื่อ "ดี" และ "คุณแผ่นดิน" เพื่อหลอกลวงประชาชนว่ามีความตั้งใจระดมทุนจากสมาชิกในหลายจังหวัดเพื่อนำเงินไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ยากไร้ ผู้ป่วยติดเตียง และผู้พิการ
ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนพยายามสร้างความน่าเชื่อถือ โดยอ้างว่ามีเงินทุนของมูลนิธิสูงถึง 6.6 ล้านล้านบาท สำหรับจ่ายเป็นเงินตอบแทนรายเดือนให้กับสมาชิกทุกคน ทำให้กลุ่มไลน์ของผู้ต้องหาเริ่มมีประชาชนเข้าร่วมเป็นสมาชิก และยังหลอกว่าจะมีการเปิดตัวกลุ่มอย่างเป็นทางการวันที่ 5 ก.พ.นี้
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้ความว่า เป็นเครือข่ายร่วมกันทำงานกับ นายกำจรเกียรติ (สงวนนามสกุล) ลูกศิษย์แก๊งต้มตุ๋นระดมทุน "น้าหลุยส์ ตาทิพย์" และ นายยุทธนา (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นอดีตทหารสังกัดกองทัพบก มีความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์ แล้วริเริ่มคิดจัดตั้ง "คณะปฏิรูปฯ" ขึ้นมา พร้อมตั้งแอคเคาทไลน์ เป็นช่องทางในการรวบรวมสมาชิก และตกลงจะจ่ายค่าตอบแทนให้กับสมาชิกตั้งแต่เดือนละ 15,000–20,000 บาทต่อคน ตามตำแหน่งแต่ละระดับใน "คณะปฏิรูปฯ" ซึ่งมีตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด เพื่อเป็นแรงจูงใจให้คนทั่วไปเข้าร่วมและเร่งหาสมาชิกต่อเนื่อง พร้อมส่งข้อมูลบัตรประจำตัวประชาชน, รูปถ่าย, หมายเลขโทรศัพท์ และเลขบัญชีธนาคารมาให้พวกตน เพื่อนำไปใช้ในทางมิชอบ ขณะที่โครงการช่วยเหลือชาวบ้านที่อุปโลกน์มาทั้งหมด ไม่เป็นความจริง (อ่านประกอบ : ทหารสั่งสอบกลุ่มอ้างเบื้องสูงหลอกชาวบ้านตั้ง "คณะปฏิรูปไทสยาม")
ผู้ต้องหากลุ่มนี้พักอยู่ด้วยกันที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งใน อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เจ้าหน้าที่แกะรอยกระทั่งนำกำลังเข้าจับกุมได้ 3 คน เพราะอีก 2 คนไม่มีหมายจับ และยังได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากกลุ่มผู้ต้องหาว่า ได้ประยุกต์แผนดำเนินการและโครงสร้างการทำงานของ "คณะปฏิรูปยุทธศาสตร์แห่งราชอาณาจักรไทสยาม" มาจากเครือข่ายเดิมของ นางสาวกัณฑ์ภิดา ที่ถูกจับพร้อมกัน ซึ่งเคยก่อเหตุในลักษณะใกล้เคียงกันนี้มาแล้ว เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่ง สภ.สว่าง จังหวัดสกลนคร เพื่อดำเนินคดีตามหมายจับของศาลต่อไป ซึ่งมีรายงานว่าในวันเดียวกันนี้ได้มีการนำตัวทั้ง 3 คนไปยื่นคำร้องต่อศาลขอฝากขังครั้งแรกด้วย
สำหรับ นายกำจรเกียรติ ซึ่งไม่มีหมายจับ จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยถูกจับกุมในข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกง" ในพื้นที่ สน.หัวหมาก เมื่อต้นปี 61 แต่คดีถึงที่สุดแล้ว ทว่าจากพฤติการณ์ของนายกำจรเกียรติ ค่อนข้างชัดเจนว่าพยายามก่อเหตุฉ้อโกงอีกครั้ง โดยอยู่ในขั้นตอนรวบรวมสมาชิก ยังไม่ปรากฏพฤติการณ์ที่ถึงขั้นเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ทางตำรวจจึงทำได้แค่เพียงหยุดพฤติกรรมเอาไว้ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน จึงดำเนินคดีได้เฉพาะผู้ต้องหาที่มีหมายจับอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งก็คือ 3 คนจาก 5 คนที่พบตัว
----------------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณ : ภาพการแถลงข่าว และกราฟฟิกโครงข่ายการกระทำความผิดจากกองบังคับการปราบปราม