ตั้งแต่วันพุธที่ 22 ม.ค.63 มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ ทั้งลอบยิงและลอบวางระเบิด โดยเป้าหมายส่วนใหญ่เป็น อส.และทหารพราน ซึ่งบางฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าเป็นความรุนแรงที่ปะทุขึ้นหลังมีข่าวคืบหน้ากระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะที่ฝ่ายทหารรีบแจง บางเหตุการณ์ไม่เกี่ยวกับกลุ่มบีอาร์เอ็น
วันศุกร์ที่ 24 ม.ค. เวลาประมาณ 11.00 น. พ.ต.อ.เดชาวุธ เจ๊ะเต๊ะ ผู้กำกับการ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกยิงเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน หรือ อส. ประจำที่ว่าการอำเภอกะพ้อ บริเวณบ้านที่เปิดเป็นร้านขายของชำ ริมถนนบ้านคอกวัว-ปล่องหอย ท้องที่หมู่ 6 ต.ปล่อยหอย อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี หลังรับแจ้งจึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบเพียงกองเลือด โดย อส.ที่ถูกยิงคือ อส.อำรัน จือนรา ถูกกระสุนปืนได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลปัตตานี
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า อส.อำรัน ออกเวรจากที่ว่าการอำเภอกะพ้อ และได้เดินทางกลับบ้านซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ จากนั้นมีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดบุกยิงใส่ ทำให้ อส.อำรัน บาดเจ็บสาหัส ส่วนคนร้ายได้หลบหนีไปหลังก่อเหตุ
พ.ต.อ.เดชาวุธ กล่าวกับ "ทีมข่าวอิศรา" ว่า เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนเพื่อหาสาเหตุของการลอบยิง อส.อำรัน โดยยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งเรื่องส่วนตัวหรือการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่
O เพื่อน อส.พ้อทำอาชีพเสริมยิ่งเสี่ยง
ทางด้านเพื่อน อส.ที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ อ.กะพ้อ กล่าวว่า เมื่อคืน อส.อำรัน ยังเข้าเวรพร้อมกัน เมื่อออกเวรก็แยกย้ายกลับบ้าน ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุกับเพื่อนได้ โดย อส.อำรัน มีตำแหน่งเป็นหัวหน้า อส.ของอำเภอกะพ้อด้วย
"ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะเกิดจากสาเหตุอะไร แต่ อส.อำรัน เปิดร้านขายของชำ ถือว่าเป็นเป้านิ่งที่คนร้ายสามารถเข้ามาก่อเหตุได้ เชื่อว่าก่อนเกิดเหตุคนร้ายต้องไปดูลาดเลาก่อนแล้ว เพราะการที่เราเปิดร้านขายของ ก็ยากที่จะระวังตัว ใครเป็นใครที่เข้ามาใกล้ตัวเราก็ต้องต้อนรับหมด คุยหมด การเป็นเจ้าหน้าที่ อส.ในพื้นที่เสี่ยงแบบนี้ต้องระวังตัวตลอดเวลา เงินเดือนก็น้อย ต้องมีอาชีพเสริม แต่พอเปิดร้านขายของก็ยากที่จะระวังตัว และเป็นเป้านิ่งให้ฝ่ายตรงข้ามก่อเหตุง่าย" เพื่อน อส.เปิดใจ
และว่า ถ้าเจ้าหน้าที่ อส.ไม่หาอาชีพเสริม ก็ยากที่จะดำรงชีวิตอยู่ได้ เพราะแทบทุกคนมีภาระครอบครัว ต้องการหารายได้เพิ่ม ยิ่งทุกวันนี้เศรษฐกิจไม่ดี ข้าวของแพง การมีอาชีพเสริมถือว่าดีที่สุด อะไรที่พอทำได้ก็ต้องทำ แต่ก็กลายเป็นมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นไปอีก
O ยิงทหารพรานดับต่อหน้าลูกสาว
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันพุธที่ 22 ม.ค. เวลาประมาณ 07.10 น. ร.ต.ท.ณัฐวุฒิ โยชน์สุวรรณ รองสารวัตรสอบสวน สภ.มายอ จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบยิงเจ้าหน้าที่ทหารพราน สังกัดกรมทหารพรานที่ 41 เหตุเกิดในท้องที่หมู่ 1 ต.ปะโด อ.มายอ ทำให้อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) ถึงแก่ความตาย หลังรับแจ้งจึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบร่าง อส.ทพ.มะสุกรี ดาโอ๊ะ อายุ 38 ปี สังกัดกรมทหารพราน 41 ค่ายวังพญา นอนจมกองเลือดอยู่ สภาพศพถูกยิงบริเวณลำตัวหลายนัด
สอบสวนทราบว่า อส.ทพ.มะสุกรี อยู่ในช่วงลาพัก จึงเดินทางกลับบ้านภรรยา และใช้ชีวิตตามปกติกับครอบครัว ก่อนเกิดเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์พร้อมกับลูกสาวก ไปซื้อกับข้าวที่ร้านค้าในหมู่บ้าน กำลังเดินทางกลับบ้านในพื้นที่บ้านเขาวัง หมู่ 3 ต.ตรัง อ.มายอ ระหว่างทางมีคนร้าย 2 คนขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ เมื่อสบโอกาสได้ใช้อาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดยิงใส่ ก่อนหลบหนีไป โดยเป็นการยิงต่อหน้าลูกสาว แต่ลูกสาวไม่ได้รับบาดเจ็บ
ร.ต.ท.ณัฐวุฒิ กล่าวว่า ได้ตั้งประเด็นสอบสวนไว้ทั้งเรื่องส่วนตัว และการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ แต่ให้น้ำหนักไปที่การสร้างสถานการณ์มากกว่า
ขณะที่ข้อมูลจากฝ่ายทหาร ระบุว่า สาเหตุของการยิงทหารพราน จากการพูดคุยกับพยานแวดล้อมเชื่อว่า เป็นประเด็นความมั่นคงค่อนข้างแน่นอน
O ผวาเจอถังแก๊สวางคอสะพาน ที่แท้ระเบิดปลอม
เวลา 09.26 น.วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา รับแจ้งจากผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 4713 ว่า มีผู้พบเห็นถังแก๊ส คล้ายเป็นวัตถุระเบิด ถูกนำไปวางไว้บริเวณคอสะพาน รอยต่อระหว่างบ้านซีรอ หมู่ 9 กับบ้านอุเบง หมู่ 4 ต.ปะแต อ.ยะหา หลังรับแจ้งจึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (อีโอดี)
ผลการตรวจสอบพบว่า วัตถุต้องสงสัยเป็นถังแก๊สสีส้ม 1 ถัง มีสายไฟฟ้ายาว10เมตร รีโมททีวี 1 อัน แต่ไม่สามารถทำให้เกิดระเบิดได้ เบี้องต้นคาดว่ากลุ่มผู้ไม่หวังดีนำมาวางใว้ เพื่อก่อกวนสร้างสถานการณ์ความวุ่นวาย
หลังเกิดเหตุ ชุดคุ้มครองตำบลปะแต (ชคต.ปะแต) ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย โดยส่งกำลังออกลาดตระเวนเดินเท้าในเขตพื้นที่รับผิดชอบ พร้อมตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อสกัดความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อความไม่สงบ
O ดักบึ้มรถ อส.ชุด รปภ.ครู เจ็บ 4
เวลา 15.15 น.วันเดียวกัน พ.ต.อ.กฤตชาติ พิณสุวรรณ ผู้กำกับการ สภ.กรงปินัง จ.ยะลา รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ อส. อำเภอกรงปินัง ขณะปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยครู (รปภ.ครู) ในท้องที่หมู่ 5 บ้านสะเอะใน ต.สะเอะ อ.กรงปินัง หลังรับแจ้งจึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณเชิงสะพาน ใกล้โรงเรียนบ้านสันติวิทยา พบหลุมระเบิดกว้าง 1 ฟุต ลึกครึ่งฟุต มีสะเก็ดระเบิดเป็นเหล็กเส้นตัดท่อน และวงจรอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งเศษซากวิทยุสื่อสารกระจายเกลื่อน
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่เจ้าหน้าที่ อส.อำเภอกรงปินัง จำนวน 1 ชุดปฏิบัติการ กำลังออกลาดตระเวนเพื่อรักษาความปลอดภัยให้คณะครู นักเรียน และผู้ปกครองในพื้นที่ในช่วงเลิกเรียน โดยใช้รถกระบะเป็นพาหนะ เมื่อรถแล่นถึงจุดเกิดเหตุ คนร้ายได้ใช้วิทยุสื่อสารกดจุดชนวนระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่กล่องเหล็ก น้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม ซึ่งลอบวางไว้แบบเร่งด่วน ทำให้เกิดระเบิดขึ้น โชคดีที่ทิศทางของสะเก็ดระเบิดและแรงอัดไม่ได้พุ่งใส่ตัวรถแบบเต็มๆ ทำให้ไม่มีกำลังพลเสียชีวิต แต่ก็ทำให้รถกระบะสีขาวของเจ้าหน้าที่ได้รับความเสียหาย และมีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย หูอื้อ แน่นหน้าอก 4 นาย
ทราบชื่อคือ อส.อับดุลเลาะห์ ดือราแม, อส.ซับรี โต๊ะขุนละใบ, อส.ฮากีม แวลาเต๊ะ และอาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) อุทิศ ปัญญาเจริญยิ่ง สังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 47
O เผย 22 ม.ค.ครบ 52 ปีพูโล
สำหรับวันที่ 22 ม.ค. มีข่าวแจ้งเตือนจากฝ่ายตำรวจว่า เป็นวันครบรอบ 52 ปีการก่อตั้งขบวนการพูโล อาจมีการก่อเหตุรุนแรงขึ้นได้ จึงประสานให้ทุกหน่วยเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย
O ผอ.ศูนย์สันติวิธี มั่นใจไม่ใช่น้ำมือบีอาร์เอ็น
เป็นที่น่าสังเกตว่า เหตุรุนแรงเกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ หลังจากมีข่าวความคืบหน้ากระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ระหว่างรัฐบาลไทยกับตัวแทนกลุ่มบีอาร์เอ็น ซึ่งเป็นกลุ่มที่ทางการไทยเชื่อว่ามีบทบาทมากที่สุดในสถานการณ์ความไม่สงบตลอด 16 ปีที่ผ่านมา ทำให้มีกระแสวิจารณ์ว่าการก่อเหตุรุนแรงหลายเหตุการณ์อาจเชื่อมโยงกับความเคลื่อนไหวนี้
พล.ต.ธิรา แดหวา ผู้อำนวยการศูนย์สันติวิธี กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า เหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นบางเหตุการณ์ ไม่น่าเกี่ยวกับขบวนการแบ่งแยกดินแดน โดยเฉพาะกลุ่มบีอาร์เอ็น และต้องเข้าใจว่าเหตุรุนแรงในพื้นที่อาจเกิดได้จากหลายกลุ่ม อย่างการพูดคุยเพื่อสันติสุขฯที่กำลังดำเนินการ แม้หัวหน้าคณะพูดคุยฝ่ายผู้เห็นต่างจากรัฐจะเป็นตัวแทนจากบีอาร์เอ็น แต่ก็บอกว่ายินดีให้กลุ่มอื่นเข้ามาร่วมพูดคุยด้วย เพียงแต่บีอาร์เอ็นเป็นหลัก แสดงว่ามีกลุ่มอื่นอยากคุย และแสดงว่าปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ได้เกิดจากบีอาร์เอ็นกลุ่มเดียว
"เป็นไปได้ว่าเหตุรุนแรงที่เกิดช่วงนี้ ไม่ได้เกิดจากกลุ่มบีอาร์เอ็น แต่น่าจะเกิดจากกลุ่มอื่น ถ้าให้ผมการันตีเวลานี้ ผมมั่นใจว่าบีอาร์เอ็นเขารักษาพันธะสัญญา เรามีพันธะสัญญามา 7 ข้อในการที่จะดำเนินการต่อไป แต่ขอไม่เปิดเผยตรงนี้" พล.ต.ธิรา กล่าว
----------------------------------------------------------------------------------
อ่านประกอบ :