ผ่านไปแล้วกว่า 1 เดือน สำหรับเหตุการณ์ปล้นร้านทองครั้งมโหฬารที่ อ.นาทวี จ.สงขลา ซึ่งคนร้ายกวาดทองไปได้เกลี้ยงร้าน มูลค่าสูงถึง 85 ล้านบาท หลบหนีไปอย่างลอยนวล
ช่วงหลังเกิดเหตุใหม่ๆ คดีมีความคืบหน้าคึกคัก ทั้งการได้เบาะแสผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบที่มีหมายจับในคดีความมั่นคง เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ 4 อำเภอของ จ.สงขลา คือ จะนะ เทพา สะบ้าย้อย และนาทวี ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อกับ จ.ปัตตานี และสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงการออกหมายจับผู้ต้องหาได้จำนวนหนึ่ง
แต่หลังจากนั้นข่าวคราวก็เงียบหายไป และไม่มีความคืบหน้าของคดีปรากฏเป็นข่าวเท่าที่ควร กระทั่งเมื่อวันศุกร์ที่ 27 ก.ย.62 มีเหตุการณ์ยิงปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงกับกลุ่มติดอาวุธต้องสงสัยใน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา คาดว่ากลุ่มติดอาวุธน่าจะเกี่ยวข้องกับแก๊งปล้นร้านทองนาทวี เพราะปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่เป็นการเข้าพิสูจน์ทราบแหล่งซ่อนตัวของแก๊งปล้นร้านทอง ซึ่งขยายผลมาจากการสอบปากคำผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมได้
เหตุปะทะเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวันศุกร์ที่ 27 ก.ย. หน่วยปฏิบัติการพิเศษปัตตานี สนธิกำลังกับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 จัดกำลังเข้าพิสูจน์ทราบพื้นที่เป้าหมาย เพื่อขยายผลจากการซักถาม นายเดะแว อาแว ผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคงที่ถูกควบคุมตัวเมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 ก.ย.62 โดยนายเดะแวให้ข้อมูลแหล่งพักพิงหลบซ่อนของผู้ก่อเหตุรุนแรงกลุ่มของบ นายอับดุลเลาะ บาราเฮง บริเวณเทือกเขานางจันทร์ ในพื้นที่บ้านกระแซะ หมู่ 1 ต.บ้านโหนด อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
ระหว่างเจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าพิสูจน์ทราบ ได้พบบุคคลต้องสงสัยแต่งกายชุดสีดำจำนวน 4-5 คน เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอตรวจค้น ชายชุดดำไม่ยอม ซ้ำยังใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่เจ้าหน้าที่หลายชุด จนเกิดการยิงปะทะกันประมาณ 5 นาที ชายชุดดำเห็นสู้ไม่ไหว จึงหลบหนีลัดเลาะเข้าไปในป่า โดยที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ
เมื่อเข้าตรวจสอบพื้นที่ พบฐานที่พักชั่วคราว มีกระเป๋าใส่สัมภาระ เต็นท์นอน กระสอบใส่อุปกรณ์ทำครัว เตาแก๊ส และอื่นๆ เจ้าหน้าที่จึงยึดไปตรวจสอบ และสันนิษฐานว่ากลุ่มติดอาวุธชายชุดดำเกี่ยวโยงกับแก๊งปล้นร้านทองนาทวี เพราะกลุ่มคนร้ายบางส่วนน่าจะหลบหนีข้ามแดน แต่บางส่วนน่าจะหลบซ่อนอยู่ตามป่าเขา พื้นที่รอยต่อ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ต่อเนื่องกับ จ.ปัตตานี
สำหรับความคืบหน้าคดีปล้นร้านทอง เหตุเกิดเมื่อวันเสาร์ที่ 24 ส.ค.62 จากนั้นราวๆ 10 วัน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางลงไปติดตามความคืบหน้าคดีในพื้นที่ และได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 6 ราย ประกอบด้วย
1. นายแวอูเซ็ง ดือราเฮ็ง อายุ 33 ปี ชาว ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
2. นายไซฟูดดิน หะยีปูเต๊ะ อายุ 31 ปี ชาว ต.ป่าบอน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
3. นายรอซารี หลำโสะ อายุ 29 ปี ชาว ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
4. นายซอบรี หลำโสะ อายุ 29 ปี ชาว ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
สำหรับผู้ต้องหาคนที่ 5 และ 6 ที่ถูกออกหมายจับ เจ้าหน้าที่ยังไม่เปิดเผยชื่อ ส่วน นายรอซารี และนายซอบรี เป็นสองพี่น้องฝาแฝดตระกูลหลำโสะ เคยถูกออกหมายจับในคดีความมั่นคงหลายคดี ขณะที่ผู้ต้องหาอีก 2 คนที่เหลือก็อยู่ในเครือข่ายก่อความไม่สงบเช่นกัน
ส่วนการเสริมมาตรการเชิงป้องกัน ตำรวจได้ประสานไปทางเทศบาลตำบลนาทวีให้ตั้งป้อมตำรวจในพื้นที่ชั้นในของตัวอำเอนาทวี เพราะมีร้านขายทองถึง 11 ร้าน ธนาคารอีก 7 แห่ง
---------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 แผนที่จุดปะทะที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
2 สิ่งของและสัมภาระของกลุ่มติดอาวุธที่เจ้าหน้าที่ยึดได้
ขอบคุณ : เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเอื้อเฟื้อภาพประกอบ
อ่านประกอบ : พบหลักฐาน 3 พี่น้องตระกูล "หลำโสะ" ส่อร่วมปล้นทองนาทวี