เหตุป่วนที่ชายแดนใต้เมื่อกลางดึกของวันที่ 3 ส.ค.62 เป็นการลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็มถึง 3 จุด โดยเป้าหมายอยู่หน้าสถานศึกษาทั้งหมด
ตู้เอทีเอ็มที่ถูกลอบวางระเบิด ประกอบด้วย 1. ตู้เอทีเอ็มธนาคารอิสลาม หน้ามหาวิทยาลัยฟาฏอนี หมู่ 3 ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี 2. ตู้เอทีเอ็มของธนาคารอิสลาม หน้าโรงเรียนอาซิซสถาน หมู่ 7 ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี และ 3. ตู้เอทีเอ็มธนาคารอิสลาม หน้าโรงเรียนศาสนศึกษา หมู่ 1 ต.ตะบิ้ง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี โดยทุกจุดเป็นระเบิดที่มีอานุภาพสูง ทำให้ตู้เอทีเอ็มเสียหายอย่างหนัก
พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี พร้อมด้วยย พล.ต.ปิยพงษ์ วงศ์จันทร์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี นำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณหน้ามหาวิทยาลัยฟาฏอนีด้วยตนเอง พบเศษซากตู้เอทีเอ็มโดนระเบิดพังยับเยิน และพบอุปกรณ์ประกอบระเบิด ทั้งแบตเตอรี่ แผงวงจร สายไฟ กระจายเกลื่อน โดยขณะก่อเหตุคนร้ายได้ข่มขู่และมัดพนักงานรักษาความปลอดภัย หรือ รปภ.เอาไว้ พร้อมชิงปืนไปด้วย
รปภ.ชื่อ นายฟารุต สาเฮาะ ให้การว่า เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึก มีคนร้าย 5 คนเดินเข้าไปที่ป้อมยาม พบตนกำลังเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ คนร้ายทั้งหมดสวมชุดดำ ปิดหน้า ใช้ปืนจี้และจับมัดมือไพล่หลัง โดยคนร้ายใช้เท้าเหยียบหลังกดเอาไว้เพื่อไม่ให้ตนขยับตัว จากนั้นคนร้ายได้รื้อค้นภายในป้อม พบอาวุธปืนลูกซอง 1 กระบอก จึงหยิบไปด้วย ก่อนจะพากันเดินไปที่ตู้เอทีเอ็ม นำระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในถังแก๊ส น้ำหนักประมาณ 15 กิโลกรัม แล้วต่อชนวนระเบิดด้วยลากสาย จากนั้นคนร้ายได้ถอยห่างและกดชนวนระเบิดขึ้น ทำให้ตู้เอทีเอ็มได้รับความเสียหาย ก่อนที่จะพากันหลบหนีไป
ต่อมา พล.ต.ต.ปิยวัฒน์ ได้เรียกประชุมด่วนเพื่อติดตามไล่ล่าคนร้ายอย่าง โดยเชื่อว่ากลุ่มที่ก่อเหตุแต่ละจุดเป็นชุดเดียวกัน สันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มแนวร่วมที่ต้องแสดงศักยภาพสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่