
แม้จะยังไม่ถึงสิ้นปี และยังมีความเสี่ยงของอุทกภัยอีกระลอกก่อนผ่านปี 2568 แต่สถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ 9 จังหวัดภาคใต้ที่เพิ่งจะผ่านพ้นไป ปรากฏว่าสามจังหวัดชายแดนได้รับผลกระทบน้อย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ “ยะลาโมเดล” และการปิดจุดอ่อน ช่องโหว่ ของการบริหารจัดการในปีที่ผ่านมา
ล่าสุด วันจันทร์ที่ 1 ธ.ค.68 นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี ได้นำคณะลงพื้นที่ จ.ยะลา เพื่อทำกิจกรรมจิตอาสา “Big Cleaning Day” ฟื้นฟูตลาดเมืองใหม่ เทศบาลนครยะลา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากอุทกภัย
กิจกรรมดังกล่าวมีเป้าหมายในการขจัดโคลนตมและสิ่งปฏิกูล เพื่อฟื้นฟูสุขอนามัยและความสะอาดเรียบร้อย

โดยมี นายก้องสกุล จันทราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา, นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา ข้าราชการ และประชาชนจิตอาสาเข้าร่วมอย่างคึกคัก
นายโสภณ กล่าวถึงคำให้สัมภาษณ์ของ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และอดีต สส.ยะลาหลายสมัย ที่ยกย่อง จ.ยะลาให้เป็น “แบบอย่าง (โมเดล) แห่งความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาอุทกภัยในครั้งนี้” โดยยอมรับว่า คำกล่าวของประธานรัฐสภาถือว่าถูกต้อง และเป็นผลมาจากความสามารถและการบูรณาการการทำงานของทุกภาคส่วนในพื้นที่ที่สามารถแก้ไขปัญหาและให้ความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วและน่าพอใจ
อ่านรายละเอียด “ยะลาโมเดล” ได้ใน… สยบวิวาทะตัวเลข “ดับครึ่งพัน” ยันยอดสูญเสียรวม 131 ราย
@@ ปาเลสไตน์บริจาคเงินช่วยผู้ประสบอุทกภัยใต้

วันเดียวกัน มีกิจกรรมที่ประชาชนชาวปาเลสไตน์มอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในภาคใต้ ผ่านผู้แทนเอกอัครราชทูตรัฐปาเลสไตน์ประจำประเทศไทย ถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ และมอบต่อให้กลุ่มอาสาลงพื้นที่ไปแจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมใน จ.สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
นายมูฮัมหมัดรุสดี เชคฮารูณ ตัวแทนกลุ่มอาสา ผู้รับมอบเงินช่วยเหลือจากผู้แทนเอกอัครราชทูตรัฐปาเลสไตน์ประจำประเทศไทย ถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ กล่าวว่า ทางตัวแทนเอกอัครราชทูตรัฐปาเลสไตน์ฯ ได้ติดต่อมาแสดงความห่วงใยต่อประชาชนไทยในภาคใต้ ได้สอบถามถึงสถานการณ์น้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่มีเหตุการณ์น้ำท่วมวันแรก
กระทั่งวันที่ 26 พ.ย.68 ทราบว่าสถานการณ์วิกฤตมาก จึงได้โอนเงินบริจาคจากชาวปาเลสไตน์จำนวน 200,000 บาท ตนจึงได้ระดมทีมอาสามาช่วยกันซื้ออาหารนำไปบรรจุถุงยังชีพ ที่มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย กรุงเทพฯ และได้รีบเดินทางลงพื้นที่มอบให้ผู้ประสบภัยทันที ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย.68
โดยทีมอาสาได้กระจายมอบถุงยังชีพหลายจุด เช่น ที่มัสยิดบ้านเหนือ ต.คูเต่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา , บ้านนัดกุโบร์ บ้านนีปิสกูเละ ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี , บ้านบลูกายามู บ้านกอแล บ้านบลีกู ต.ละหาร อ.สายบุรี จ.ปัตตานี , บ้านนัดมอลี ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี และยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ได้ประสานให้ทีมประชาชนอาสานำรถบรรทุกมารับสิ่งของยังชีพไปกระจายมอบให้พื้นที่ต่างๆอย่างเร่งด่วนด้วย
@@ ชาวยะลาแห่ลงทะเบียนรับเงินเยียวยาน้ำท่วม

ด้านบรรยากาศเปิดรับลงทะเบียนขอรับเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ยะลา ปรากฏว่าเป็นไปอย่างคึกคัก โดยเฉพาะที่เทศบาลนครยะลา ซึ่งเริ่มเปิดรับลงทะเบียนเป็นวันแรก เพื่อมอบเงินเยียวยาครัวเรือนละ 9,000 บาท ครอบคลุมทั้งกรณีบ้านตนเอง บ้านเช่าที่มีเลขที่ และบ้านที่ไม่มีเลขที่ ซึ่งมีประชาชนจาก 41 ชุมชน ทยอยเดินทางนำหลักฐานประกอบด้วยบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน และภาพถ่ายบ้านที่ประสบอุทกภัย เข้ามาลงทะเบียนอย่างต่อเนื่อง โดยเทศบาลนครยะลาจะเปิดรับลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 1-5 ธ.ค.68
ในส่วนของเทศบาลเมืองสะเตงนอก บรรยากาศก็คึกคักไม่แพ้กัน มีผู้ได้รับผลกระทบเดินทางมาลงทะเบียนจำนวนมาก เจ้าหน้าที่เทศบาล พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้านได้ตั้งจุดคอยอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบเอกสารและเซ็นรับรองบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบ
คุณสิริกร สุระคำแหง นักประชาสัมพันธ์ชำนาญการ เทศบาลเมืองสะเตงนอก เปิดเผยว่า การลงทะเบียนเยียวยาวันแรก (1 ธ.ค.) เป็นคิวของหมู่ 9 และในวันถัดไปจะเป็นหมู่ 6 ซึ่งทางเทศบาลจะเร่งนำเข้าที่ประชุม กพชอ. (คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพชีวิตระดับอำเภอ) ชุดแรก คือ หมู่ 9 และหมู่ 6 โดยจะมีการจัดทำประชาคมในวันที่ 3 ธ.ค. เพื่อให้ทันดำเนินการในวันที่ 4 ธ.ค.
@@ เงินเยียวยาน้ำท่วมเข้าบัญชีแล้ว 26,571 ครัวเรือน

ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้รายงานการโอนเงินเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 68 และวันที่ 18, 25 พ.ย.68 ซึ่งจะช่วยเหลือเยียวยาให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 แบบเหมาจ่ายในอัตราครัวเรือนละ 9,000 บาท ให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย
โดยวันที่ 1 ธ.ค. ธนาคารออมสินได้โอนเงินช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 ครัวเรือนละ 9,000 บาท ให้แก่ผู้ประสบภัยที่ได้ลงทะเบียนและผ่านการตรวจสอบข้อมูลเรียบร้อยแล้วในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ รวมจำนวน 26,571 ครัวเรือน ได้แก่
- จังหวัดสงขลา 4,563 ครัวเรือน (41,067,000 บาท)
- จังหวัดสตูล 8,772 ครัวเรือน (78,948,000 บาท)
- จังหวัดปัตตานี 13,236 ครัวเรือน (119,124,000 บาท)
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 239,139,000 บาท โอนผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกไว้กับหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน
@@ แจงตัวเลขผู้เสียชีวิต 140 ราย จบดราม่า “พันศพ”

ที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินอุทกภัย (ศป.กฉ.) ทำเนียบรัฐบาล นพ.สมฤกษ์ จึงสมาน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ศักดา อัลภาชน์ และ นพ.เอกชัย เพียรศรีวัชรา รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ร่วมแถลงข่าวในประเด็นการดำเนินงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขในสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่ภาคใต้
โดยระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ ณ วันที่ 1 ธ.ค.68 เวลา 16.00 น. มีจำนวนทั้งสิ้น 140 ราย ส่วนอีก 7 จังหวัดที่เหลือได้แก่ นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล ยะลา ปัตตานี และ นราธิวาส ให้ติดตามตรวจสอบและรายงานเข้ามาในระบบต่อไป
มีการสอบถามกรณี “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ออกมาให้ข่าวมีผู้เสียชีวิตมากถึง 500-1,000 รายว่า ประชาชนกลับเข้าไปในพื้นที่เกือบครบ 100% แล้วขณะที่เจ้าหน้าที่ ก็ได้เข้าไประดมทำความสะอาด ซึ่งหากจะพบศพเพิ่มก็คงจะเพิ่มไม่มาก อาจจะพบเล็กน้อยในจุดที่เข้าไม่ถึง แต่ไม่น่าจะพบจำนวนมากอย่างที่เป็นข่าว ไม่น่าเป็นไปได้
"หากไม่เชื่อก็ไปดูที่หน้าตู้ อยากจะเปิดให้ดู แต่เป็นสถานที่หวงห้าม สำหรับกระบวนการชันสูตรพลิกศพ ซึ่งมีข้อจำกัดของการเข้าถึง อยากจะให้ดูทุกอย่าง และอยากจะบอกพี่น้องประชาชนทุกท่าน ความจริงหน้างาน หากอยากรู้หรือมีข้อสงสัย ไปหาข้อมูลพื้นที่หน้างานจะดีที่สุด" รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุ

ส่วนโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบทุกแห่งกลับมาเปิดบริการได้ แต่บางแห่งยังไม่เต็มรูปแบบ จึงได้เปิดโรงพยาบาลสนามช่วยเพิ่มการดูแลประชาชน รวม 11 แห่ง ได้แก่
1.สนามบินหาดใหญ่
2.หอประชุมเทศบาลนครหาดใหญ่
3.โรงเรียนหาดใหญ่รัฐประชาสรรค์
4. บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน)
5.โรงพยาบาลรัตภูมิ
6.โรงเรียนเทศบาล 4 (วัดคลองเรียน)
7.โรงพยาบาลสงขลานครินทร์
8.ศูนย์บริการสาธารณสุข เทศบาลเมืองคลองแห
9.วัดคลองแห
10.โรงพยาบาลค่ายเสนาณรงค์
11.โรงเรียนนานาชาติเซาท์เทิร์น หาดใหญ่
