หนีเกือบ 24 ชั่วโมง สุดท้ายยอมเดินเข้ามอบตัวเอง “ฮัมดี โตะมะ” ผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคงที่ยื้อแย่งพวงมาลัยรถเจ้าหน้าที่ระหว่างถูกคุมตัวส่งศูนย์ซักถาม จนเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง เจ้าตัวอ้างหมอบหลบจนเผลอหลับ กระทั่งตื่นเช้า เดินไปเรื่อยๆ จนหิว เหนื่อย ตัดสินใจเข้ามอบตัว
ความคืบหน้าปฏิบัติการปูพรมค้นหาตัว นายฮัมดี โตะมะ อายุ 32 ปี ผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคงที่ก่อเหตุอุกอาจ ต่อสู้ขัดขืนดึงพวงมาลัยรถ ขณะถูกคุมตัวส่งศูนย์ซักถามฯ จนทำให้รถยนต์เสียหลักพุ่งชนกับราวสะพาน ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 418 ในพื้นที่ ต.คอลอตันหยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บ 3 นายนั้น ล่าสุดเจ้าหน้าที่พบตัว นายฮัมดี แล้ว หลังหลบหนีได้เกือบ 24 ชั่วโมง
เวลา 18.00 น.ประมาณ วันพฤหัสบดีที่ 26 ธ.ค.67 เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองด้านความมั่นคงในพื้นที่เปิดเผยว่า พบตัวนายฮัมดีแล้ว โดยนายฮัมดีเดินเข้าไปมอบตัวเองที่ฐานปฏิบัติการ ชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) คอลอตันหยง อ.หนองจิก พร้อมกับแจ้งเจ้าหน้าที่ใน ชคต.ว่า ตนเองคือนายฮัมดี และต้องการมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ อส.ชคต.คอลอตันหยง
จากการตรวจร่างกายนายฮัมดีเบื้องต้น พบมีบาดแผลจากเหตุที่ก่อ บริเวณแขนข้างขวา เจ้าหน้าที่ อส.จึงได้ปฐมพยาบาลให้ในเบื้องต้น พร้อมรายงานผู้บังคับบัญชา ก่อนนำตัวส่งเจ้าหน้าที่ที่ค่ายอิงคยุทธบริหารต่อไป โดยเจ้าหน้าที่เห็นนายฮัมดีมีท่าทีอิดโรย จึงให้รับประทานอาหารและน้ำ ก่อนส่งตัวเข้าศูนย์ซักถาม
นายฮัมดี ได้เล่าถึงเหตุการณ์หลังขัดขืนจนหนีออกจากรถมาได้ว่า ขณะหลบหนีได้เห็นแสงไฟสปอตไลต์ของเจ้าหน้าที่ที่ออกค้นหาตน จึงได้หมอบเพื่อหลบซ่อนตัว แล้วเกิดหลับไป ตื่นตอนเช้าจึงออกเดินไปเรื่อยๆ จนถึงมัสยิดในพื้นที่ หมู่ 2 ต.ดาโต๊ะ อ.หนองจิก จึงไปหยิบเสื้อผ้าจากในมัสยิดมาสวมทับเสื้อผ้าของตัวเอง แต่ด้วยอาการบาดเจ็บ อ่อนเพลียและหิวกระหายจากการหลบหนี จึงตัดสินใจเดินเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ อส.ชคต.คอลอตันหยง
@@ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพ “พลขับทหารพราน”
เวลา 13.00 น.วันเดียวกัน ที่วัดสุวรรณากร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก พล.ต.วรเดช เดชรักษา รองแม่ทัพภาคที่ 4 และรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เป็นประธานในพิธีรดน้ำศพ และพิธีส่งศพ อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) ไพโรจน์ ปราบปราม อายุ 40 ปี เจ้าหน้าที่ทหารพราน ชุดปฏิบัติการพิเศษหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 ซึ่งเสียชีวิต จากเหตุนายฮัมดี ผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคง ต่อสู้ขัดขืนยื้อแย่งดึงพวงมาลัยรถ ทำให้รถยนต์เสียหลักพุ่งชนกับราวสะพานริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 418
โอกาสนี้ รองแม่ทัพภาคที่ 4 ได้วางพวงหรีดเคารพศพในนามของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.รมน.), นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก และรอง ผอ.รมน. และวางพวงหรีดเคารพศพในนามของ พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4
พร้อมกันนี้ยังได้มอบเหรียญบางระจัน, ใบประกาศนียบัตร และมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ทายาทครอบครัวของ อส.ทพ.ไพโรจน์ เพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณ เชิดชูเกียรติ ในการประกอบคุณงามความดี ความเสียสละ โดยมีผู้แทนศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และหัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ เพื่อนข้าราชการ ร่วมแสดงความอาลัยจำนวนมาก
จากนั้นเวลา 14.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พล.ต.วรเดช เชิญน้ำหลวงอาบศพแก่วีรชนทหารกล้า พร้อมด้วย นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เชิญพวงมาลาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พวงมาลาขอ งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพวงมาลาของพระบรมวงศานุวงศ์ วางหน้าหีบศพวีรชนทหารกล้าผู้วายชนม์ ยังความปลื้มปีติในพระมหากรุณาธิคุณแก่ครอบครัวเป็นล้นพ้น
ต่อมาเวลา 15.30 น. ได้เคลื่อนขบวนเพื่อทำพิธีส่งศพไปประกอบพิธีฌาปนกิจ ที่ท่าอากาศยานทหาร กองกำลังทางอากาศเฉพาะกิจที่ 9 ( กกล.ทอ.ฉก.9 ) ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลตามหลักศาสนายังภูมิลำเนา ณ วัดทุ่งชุมพล หมู่ 3 ต.ลานข่อย อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง