วันจันทร์ที่ 16 ธ.ค.67 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทย และ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม (Dato’ Seri Anwar Ibrahim) นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีทั้งฝ่ายไทยและมาเลเซีย ร่วมประชุมหารือประจำปี (Annual Consultation: AC) ครั้งที่ 7 ณ ห้องประชุม Bilik Mesyuarat Perdana ชั้น 3
การประชุมดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการเดินทางเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการของนายกฯแพทองธาร ชินวัตร
ภายหลังการประชุม นายกรัฐมนตรีไทยและนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แถลงข่าวร่วมกัน สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
1.รัฐบาลไทยมุ่งมั่นที่จะเพิ่มพูนความสัมพันธ์และความร่วมมือเพื่อสร้างสันติสุขและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน ทั้งไทยพร้อมให้การสนับสนุนการเป็นประธานอาเซียนของมาเลเซีย ในปี 2025
2.ทั้ง 2 ประเทศให้ความสำคัญในความร่วมมือครอบคลุมทั้งเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และด้านอาหารฮาลาล ความเชื่อมโยงด้านคมนาคม พลังงาน ยางพารา และความมั่นคงในภูมิภาค รวมถึงความร่วมมือด้านอาชีวศึกษาของนักเรียนนักศึกษาจากชายแดนใต้
3.ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือและเสนอมาตรการป้องกันอุทกภัยในระยะยาวอย่างยั่งยืน โดยสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติของประเทศไทยพร้อมทำงานร่วมกับฝ่ายมาเลเซีย
4.รัฐบาลไทยให้ความสำคัญการฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยหวังว่ากระบวนการพูดคุยจะเริ่มต้นใหม่ได้เร็วๆ นี้ มีมาเลเซียเป็นผู้อำนวยความสะดวกในกระบวนการพูดคุย ทั้งเชื่อมั่นว่ามาเลเซียจะให้ความสนับสนุนไทยในเวทีระหว่างประเทศ (OIC หรือ องค์การความร่วมมืออิสลาม)
5.หน่วยงานความมั่นคงของทั้ง 2 ประเทศพร้อมที่จะทำงานร่วมกันในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติที่เร่งด่วน เช่น การค้ามนุษย์ ยาเสพติด การเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย และการหลอกลวงทางออนไลน์
6.ทั้ง 2 ประเทศเห็นพ้องร่วมกันในการบรรลุเป้าหมายการค้าที่ 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2570 ซึ่งการค้าชายแดนมีสัดส่วนถึงร้อยละ 30 ของการค้าทวิภาคี
@@ “อันวาร์” ตั้ง “ทักษิณ” นั่งที่ปรึกษาส่วนตัวประธานอาเซียน
เว็บไซต์ freemalaysiatoday รายงานว่า นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เผยในการแถลงข่าวร่วมกับ น.ส.แพทองธาร ระหว่างเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการ เรื่องการแต่งตั้งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯของไทย เป็นที่ปรึกษาส่วนตัว โดยมีทีมงานมาจากชาติอาเซียนหลายชาติคอยสนับสนุน ซึ่งเป็นการแต่งตั้งอย่างไม่เป็นทางการ
“ผมตกลงแต่งตั้ง (ทักษิณ) เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวในฐานะประธานอาเซียน ขอบคุณที่ยอมรับการแต่งตั้งนี้ เพราะเราต้องการประโยชน์จากประสบการณ์ของรัฐบุรุษแบบนี้” นายอันวาร์ กล่าว
สำหรับอดีตนายกฯทักษิณ นอกจากเป็นอดีตนายกฯ 2 สมัยของประเทศไทย เป็นระยะเวลาราวๆ 5 ปีเศษ ก่อนถูกรัฐประหารเมื่อปี 2549 แล้ว ยังเป็นบิดาของนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ผู้นำไทยคนปัจจุบันด้วย
@@ เชื่อ “คุณพ่อ” ช่วยพัฒนาภูมิภาคได้
น.ส.แพทองธาร ให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ว่า นายกฯอันวาร์มีกลุ่มผู้นำทั้งอดีตและปัจจุบันที่ท่านสนิทอยู่ และมีการคุยปรึกษากันระหว่างประเทศ รวมถึงเรื่องภายในประเทศของตัวเองอยู่แล้ว ถือเป็นการช่วยทุกประเทศในอาเซียนให้เกิดการรวมพลังสมองเกิดขึ้น คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศในกลุ่มอาเซียน
เมื่อถามว่า การที่นายทักษิณไปมีบทบาทตรงนี้ จะพัฒนาภูมิภาคอาเซียนอย่างไรได้บ้าง นายกฯแพทองธาร ตอบว่า ต้องได้แน่นอน เพราะจริงๆ แล้วอดีตนายกฯทักษิณ เคยเป็นนายกฯ และนายทักษิณ สนิทกับนายดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม ตั้งแต่ตอนนั้น มีการพูดคุยอัพเดทต่อเนื่องเรื่องเศรษฐกิจมาโดยตลอด และมาเลเซียเป็นเพื่อนบ้านของไทย มีทั้งเหมือนและแตกต่างก็ช่วยสนับสนุนกันได้ อย่างการเยือนในวันนี้ก็มีเรื่องที่จะสนับสนุนการเรื่องเศรษฐกิจ ท่องเที่ยวและเรื่องชายแดน คุยกันได้ในรายละเอียดเยอะ
“โดยการเยือนครั้งนี้ได้คุยกันในระดับผู้นำ ได้พูดถึงความช่วยเหลือต่างๆ เต็มที่ การที่อดีตนายกฯทักษิณ เป็นที่ปรึกษาคงได้รายละเอียดอีกเยอะ นอกจากนี้ยังมีประเทศอื่นๆ อีกที่เข้ามาเป็นที่ปรึกษา คงได้ช่วยกัน เพราะอยากได้แง่มุมหลายๆประเทศมาร่วมกัน”
@@ ถกสันติสุขรอบใหม่ต้นปีหน้า
เมื่อถามว่า การเยือนมาเลเซียครั้งนี้จะส่งผลดีกับสันติสุขชายแดนใต้อย่างไร นายกฯ แพทองธาร กล่าวว่า อันนี้ทำตั้งแต่สมัยนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ว่าจะให้ทางมาเลเซียช่วยสนับสนุนการพูดคุย ซึ่งทำมาโดยตลอด ยังคงมีการประสานเรื่องนี้กันมาต่อเนื่อง
เมื่อถามว่าการพูดคุยสันติสุขรอบใหม่จะเกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้หรือไม่ นายกฯ แพทองธาร ตอบว่า ที่คุยไว้ เราตั้งใจให้เกิดสันติสุขให้เร็วที่สุดในปีนี้ โดยต้นปีหน้ามีการนัดแนะกับนายกฯ มาเลเซีย ว่าจะมาเจอกันช่วงเดือน ก.พ. หรือ มี.ค. ที่ประเทศไทย เพื่อผลักดันเรื่องนี้ต่อ เพราะจะมีขั้นตอนที่ต้องผลักดันระหว่างกัน
“ผู้นำทั้งสองประเทศต้องช่วยกันเพื่อผลักดันเรื่องนี้ และแน่นอนว่าทั้งสองประเทศพูดคุยกันว่าเราจะไม่สนับสนุนความรุนแรง อันนี้คือสิ่งที่ยืนยันด้วยกันทั้งคู่”