ศาลนราธิวาสออกหมายจับ 6 จำเลยคดีตากใบ ในอายุความ หลังหลบหนีไม่มาตามนัดสอบคำให้การ ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงประธานสภา ขออนุญาตจับ “พล.อ. พิศาล ” จำเลยที่ 1 จี้แถลงสละเอกสิทธิ์คุ้มกัน เพื่อขึ้นศาลนัดหน้า 15 ต.ค.
วันพฤหัสบดีที่ 12 ก.ย.67 ที่ศาลจังหวัดนราธิวาส ศาลนัดสอบคำให้การ คดี อ578/2567 ที่ นางสาวฟาตีฮะห์ ปะจูกูเล็ง ผู้แทน นายอาแวเลาะ ปะจูกูเล็ง ผู้ตายที่ 1 กับพวกรวม 48 คน เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตเเม่ทัพภาค 4 กับพวกรวม 9 คน จำเลยข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยทารุณโหดร้าย, พยายามฆ่า, หน่วงเหนี่ยวหรือกักขัง, ข่มขืนใจ โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ
จากเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่ สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ต.ค.47 จนทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 78 คน
คดีนี้ศาลพิจารณาเเล้วเห็นว่ามีมูล มีคำสั่งประทับฟ้องในส่วนจำเลยที่ 1, 3-6 และ 8,9 มีมูลความผิดในความผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงเเก่ความตาย, หน่วงเหนี่ยวกักขังเป็นเหตุให้ถึงเเก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบมาตรา 83 มาตรา 288 ประกอบมาตรา 80, 83 มาตรา 310 วรรคสอง ประกอบมาตรา 290, 83
เเละให้ยกฟ้องในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือกระทำทารุณโหดร้าย, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือกระทำทารุณโหดร้าย, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขื่นใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้าย จนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยมีอาวุธ หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย เป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นรับอันตรายสาหัสโดยกระทำทารุณโหดร้าย
และยกฟ้องจำเลยที่ 2 เเละ 7
โดยนัดสอบคำให้การจำเลยที่ 1, 3-6, 8, 9 เเละตรวจพยานหลักฐานเพื่อกำหนดวันนัดสืบพยานวันนี้ (12 ก.ย.)
ทนายโจทก์ทั้ง 48 คน, ทนายโจทก์ที่ 1, 2, 3, 5, 6, 8 , 37, 26 และพนักงานอัยการในฐานะทนายจำเลยที่ 8, 9 มาศาล ส่วนจำเลยทั้งศาลประทับฟ้องทั้งหมด ไม่มา
ศาลรอจนกระทั่งเวลา 10.30 น. จำเลยที่ 1, 3, 6, 8, 9 เเละทนายจำเลยที่ 1, 8, 9 เเละทนายจำเลยที่ 2, 4, 5 ทนายจำเลยที่ 3, 6, 7 ไม่มา
ศาลสอบพนักงานอัยการในฐานะทนายจำเลยที่ 8 และที่ 9 แถลงว่า หลังจากศาลมีคำสั่งว่าคดีมีมูล ก็ไม่ได้รับการติดต่อจากจำเลยที่ 8 และที่ 9 อีกเลย ศาลให้เจ้าหน้าที่โทรศัพท์ติดต่อทนายฝ่ายจำเลยตามหมายเลขที่เคยให้ไว้ ได้ความในลักษณะเดียวกันว่า หลังจากศาลอ่านคำสั่งว่าคดีมีมูลในนัดที่แล้วก็ ไม่ได้รับการติดต่อจากตัวความอีกเลย จึงไม่ทราบความประสงค์ว่าจะให้เป็นทนายความในคดีต่อไปหรือไม่ และจะให้การอย่างไร
@@ ศาลสั่งออกหมายจับ เชื่อ 6 จำเลยเจตนาหลบหนี
พิเคราะห์แล้ว จำเลยที่ 1 ที่ 3 ถึงที่ 6 และที่ 8 กับที่ 9 ทราบนัดโดยชอบแล้วไม่มาศาล โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง และไม่ได้รับอนุญาตจากศาลให้เลื่อนคดี มีพฤติการณ์หลบหนี จึงให้ออกหมายจับจำเลยที่ 3 ถึงที่ 6 และที่ 8 กับที่ 9 เพื่อนำตัวมาศาลภายในอายุความ 20 ปี นับแต่วันกระทำ ความผิด คือ ภายในวันที่ 25 ต.ค.67
@@ ส่งหนังสือด่วนถึงประธานสภา ส่งตัว “พล.อ.พิศาล”
ส่วนจำเลยที่ 1 เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ซึ่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 125 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า "ในระหว่างสมัยประชุม ห้ามมิให้จับ คุมขัง หรือหมายเรียกตัวสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือสมาชิกวุฒิสภาไปทำการสอบสวนในฐานะที่สมาชิกผู้นั้นเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากสภาที่ผู้นั้นเป็นสมาชิก หรือเป็นการจับในขณะกระทำความผิด"
เมื่อขณะนี้มีพระราชกฤษฎีกาเรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง พ.ศ. 2567 ตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. 2667 เป็นต้นไป จำเลยที่ 1 จึงได้รับความคุ้มกันตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญมาตราดังกล่าว ศาลไม่มีอำนาจออกหมายจับ จึงให้ดำเนินการดังต่อไปนี้
1.มีหนังสือด่วนที่สุดถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้สภาผู้แทนราษฎรอนุญาตให้จับจำเลยที่ 1 โดยให้ถ่ายสำเนาคำฟ้องคดีนี้ คำสั่งคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ578/2567 (คดีนี้) และรายงานกระบวนพิจารณาฉบับนี้อย่างละ 1 ฉบับ รับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับแนบไปด้วย
2.หมายเรียกจำเลยที่ 1 มาศาลในนัดหน้า
@@ สะกิด “พิศาล” สละเอกสิทธิ์คุ้มกัน มาศาล 15 ต.ค.
3.มีหนังสือด่วนที่สุดถึงจำเลยที่ 1 แจ้งว่า ศาลนี้ได้ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญมาตรา 125 วรรคหนึ่ง และขอเชิญให้จำเลยที่ 1 แถลงต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อสละความคุ้มกัมกัน และมาศาลในนัดหน้าเพื่อเข้าสู่การพิจารณาคดีนี้
การส่งหนังสือตามข้อ 1 ให้ส่งผ่านทางสำนักงานศาลยุติธรรม การส่งหมายเรียกตามข้อ 2 ให้ส่งทางเจ้าพนักงานศาล หากไม่มีผู้รับโดยชอบให้ปิดและมีผลทันทีทางหนึ่ง กับส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับอีกทางหนึ่ง เป็นหมายศาล
และการส่งหนังสือตามข้อ 3 ให้ส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับอย่างหนังสือราชการของศาลนี้
การดำเนินการตามหมายจับในส่วนของจำเลยที่ 3-6, 8, 9 ให้เจ้าพนักงานตำรวจศาลเป็นผู้จัดการตามหมายจับ และเห็นสมควรให้พนักงานฝ่ายปกครองและตำรวจเป็นผู้จัดการตามหมายจับด้วย โดยมีเจ้าพนักงานตำรวจศาลเป็นผู้สนับสนุน ตามพระราชบัญญัติเจ้าพนักงานตำรวจศาล พ.ศ. 2562 มาตรา 5 (5)
ให้เลื่อนไปนัดพร้อมเพื่อสอบคำให้การจำเลยที่ 1 ที่ 3-6 และที่ 8 กับที่ 9 ตรวจพยานหลักฐาน และกำหนดวันนัดสืบพยาน กับติดตามผลการจับกุมจำเลยที่ 3-6, 8, 9และฟังผลการขออนุญาตจับกุมจำเลยที่ 1 ต่อสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 15 ต.ค.เวลา 09.00 น. ปิดประกาศที่หน้าศาล แจ้งวันนัดให้คู่ความที่ไม่มาศาลทราบ
สำหรับคดีนี้จำเลยที่ถูกยื่นฟ้องทั้ง 9 และจำเลยที่ศาลรับฟ้อง 7 ราย ยกฟ้อง 2 ราย สามารถติดตามได้ในรายงานที่ผ่านมาของ “ทีมข่าวอิศรา”
อ่านประกอบ : เปิดชื่อ “7 จำเลย - 4 ข้อหาคดีตากใบ” หลังศาลประทับฟ้อง
เปิดข้อเท็จจริงอีกด้านเหตุการณ์ “ตากใบ” อดีตบิ๊ก ขรก.เปิดวอร์สู้คดี!