(ไม่) มีความคืบหน้ากรณีพบ “วัตถุบินต้องสงสัย” บินอยู่เหนือฐานปฏิบัติการของตำรวจ ในพื้นที่ต.ตะลุโบะ อำเภอเมืองปัตตานี เมื่อช่วงค่ำของวันพุธที่ 8 พ.ค.67 ที่ผ่านมา
เหตุการณ์นี้ เมื่อกำลังพลประจำฐานพบ “วัตถุบินต้องสงสัย” ก็เชื่อว่าเป็น “โดรนสอดแนม” จึงใช้ปืนไล่ยิง ไม่แน่ชัดว่าบินหนีไปได้หรือไม่
แต่เมื่อเดินสำรวจรอบฐาน ก็พบ “วัตถุต้องสงสัยคล้ายว่าวประดับไฟ” ตกอยู่ จึงยังสรุปไม่ได้ว่าเป็น “Homemade Drone” คือ โดรนผลิตเองแบบบ้านๆ หรือเป็น “ว่าวจริงๆ” ที่ผู้ไม่หวังดีนำมาป่วนกันแน่
ต่อมา พ.อ.เอกวริทธิ์ ชอบชูผล โฆษก กอ.รนม.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวเรื่องนี้ว่า จนถึงขณะนี้ยังสรุปไม่ได้ว่า “วัตถุบินต้องสงสัย” ที่ตรวจพบ เป็นโดรนสอดแนม หรือชาวบ้านนำวัตถุ เช่น ว่าว หรือแม้แต่เครื่องบินบังคับ หรือโดรน มาบินเล่นเฉยๆ ความชัดเจนจะเกิดขึ้นเมื่อจับกุมได้ แต่ถ้ายังจับไม่ได้ ก็พิสูจน์ทราบยาก
แต่สิ่งที่พิสูจน์ได้แน่ๆ และได้ดำเนินการไปแล้ว คือการออกประกาศ กอ.รมน. เมื่อปี 2561 ห้ามใช้โดรนในพื้นที่ทุกกรณี เพราะถือว่ากระทบต่อความมั่นคง
พ.อ.เอกวริทธิ์ ยังขอเคลียร์ด้วยว่า ที่เคยมีข่าวว่า ตนปฏิเสธว่าไม่เคยพบโดรนในพื้นที่ชายแดนใต้นั้น หมายถึงว่าไม่เคยพบโดรนโจมตี หรือโดรนทิ้งระเบิด ส่วนโดรนสอดแนม มีรายงานว่าพบมาหลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่เคยจับได้ จึงยังไม่สามารถยืนยัน
วันเดียวกัน ในเพจของ กอ.รนม. ได้มีการ “รีโพสต์” ประกาศ กอ.รมน. เรื่องมาตรการควบคุมการใช้โดรน ซึ่งเคยประกาศมาหลายปีแล้ว / เสมือนหนึ่งยอมรับว่า กำลังมีการใช้โดรนกันอย่างแพร่หลายพื้นที่จริงๆ แม้จะยังไม่ยอมรับอย่างเป็นทางการก็ตาม
@@ ปืนปล้นจากรัฐ กล้องสไนเปอร์ซื้อตลาดมึด
อีกกรณีหนึ่ง คือเหตุการณ์พบปืนยาวติดกล้องวัดระยะ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ “สไนเปอร์” หรือ “พลซุ่มยิง” นิยมใช้ โดยเป็นการพบจากปืนของกลางของคนร้ายที่เสียชีวิตจากการปะทะที่ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์ว่า ในพื้นที่มีการฝึกยิงสไนเปอร์ เด็ดชีพเจ้าหน้าที่นั้น
เรื่องนี้ อดีตเจ้าหน้าที่อีโอดี หรือ ชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด ซึ่งเคยปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ข้อมูลว่า อุปกรณ์กล้องวัดระยะที่ยึดได้ เป็นอุปกรณ์ที่หาซื้อได้ทางอินเทอร์เน็ตและตลาดมืดทั่วไป แต่ไม่ใช่ว่าคนร้ายนำมาจากปืนหรือยุทโธปกรณ์ที่ปล้นชิงไปจากเจ้าหน้าที่ เพราะเจ้าหน้าที่ไม่เคยมีอุปกรณ์พวกนี้
อดีตอีโอดี บอกต่อว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่เคยเรียกร้องกับผู้บังคับบัญชามาตลอด ขอให้จัดหากล้องวัดระยะไกล และปืนส่องแสง ซึ่งใช้ในเวลากลางคืน แต่สุดท้ายก็ไม่เคยรับฟัง ไม่เคยจัดหาให้ ทุกวันนี้ก็ยังแทบไม่มีใช้ นอกจากเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษบางหน่วยเท่านั้นที่มี เท่ากับว่ากำลังพลของเรามียุทโธปกรณ์ด้อยกว่าผู้ก่อความไม่สงบเสียอีก
ด้านเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองทางทหาร ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า อาวุธปืนสงครามที่ยึดได้จากเหตุปะทะครั้งล่าสุดที่อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี และพบอุปกรณ์กล้องวัดระยะนั้น เฉพาะตัวปืน คนร้ายปล้นจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่ถูกลอบโจมตี โดยเป็นเหตุการณ์เมื่อปี 2559 แล้วนำไปฝึกใช้ จนกลายเป็นปืนประจำกายของฝ่ายคนร้าย ตามยุทธศาสตร์ “ปืนของรัฐคือปืนของเรา” ส่วนอุปกรณ์กล้องวัดระยะ คนร้ายน่าจะหามาติดเอง
-----------------
ขอบคุณ : กราฟฟิกจากรายการข่าวข้นคนข่าว