สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องบอกว่าร้อนแรงไม่มีแผ่ว
ล่าสุดคนร้ายเปิดปฏิบัติการใหญ่ โจมตีตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ หรือ นปพ. ขณะปฏิบัติหน้าที่ใน อ.สุุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส อำเภอชายแดนไทย-มาเลเซีย
ข้อเท็จจริงที่ต้องบันทึกไว้ก็คือ...
- คนร้ายใช้กำลังร่วม 20 คน
- แบ่งงานกันทำ 4 ชุด ทั้งวางระเบิด ปาไปป์บอมบ์ ซุ่มยิง โปรยตะปูเรือใบ
- หลังก่อเหตุ ขี่มอเตอร์ไซค์หลบหนี บางส่วนข้ามฝั่งไปประเทศเพื่อนบ้าน
เหตุโจมตีอย่างอุกอาจเกิดขึ้นเมื่อกลางดึกคืนวันอาทิตย์ที่ 28 เม.ย.67 ต่อเนื่องเช้ามืดวันจันทร์ที่ 29 เม.ย.
เป้าหมายคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษนราธิวาส 33 โดยล็อกเป้าบริเวณทางออกฐานปฏิบัติการ ตั้งอยู่หมู่ 7 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 4 นาย
คนร้ายแบ่งกำลังแยกกันก่อเหตุ 4 จุดด้วยกัน
จุดแรก ที่โคนเสาไฟฟ้าด้านขวา ทางออกจากฐานปฏิบัติการ พบเสาไฟฟ้าหัก 1 ต้น จากอานุภาพของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ถังแก๊ส มีรถกระบะของตำรวจที่โดนอานุภาพของระเบิด เสียหลักตกถนน สภาพพังเสียหาย
จุดเกิดเหตุบริเวณนี้ ยังพบหลุมระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์กระจายอยู่ทั่วบริเวณกว่า 10 จุด แสดงว่าคนร้ายใช้ระเบิด 2 ชนิดพร้อมกัน ทั้งระเบิดถังแก๊ส ดักโจมตีรถยนต์ แล้วปาไปป์บอมบ์ซ้ำ แถมยังพบไปป์บอมบ์ที่ไม่ทำงานอีก 3 ลูก เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงยิงทำลาย
จุดที่ 2 ถนนสายตากใบ-สุไหงโก-ลก เยื้องสำนักงานขนส่งนราธิวาส สาขาสุไหงโก-ลก ห่างจากจุดแรก 800 เมตร คนร้ายได้โปรยตะปูเรือใบ และเผายางรถยนต์ เพื่อสกัดเจ้าหน้าที่ชุดอื่น ไม่ให้เข้าสนับสนุนช่วยเหลือชุดที่ถูกโจมตีได้
จุดที่ 3 ห่างจากจุดที่ 2 บนถนนสายเดียวกัน ประมาณ 1 กิโลเมตร คนร้ายได้โปรยตะปูเรือใบสกัดกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสนับสนุนช่วยเหลืออีกแห่งหนึ่ง
จุดที่ 4 บริเวณป่ารกทึบตรงข้ามประตูทางออกฐานปฏิบัติการ ใกล้จุดเกิดเหตุที่ 1 ซึ่งมีแม่น้ำสุไหงโก-ลก เป็นเส้นแบ่งพรมแดนไทย-มาเลเซีย เจ้าหน้าที่พบร่องรอยของคนร้ายที่ใช้เส้นทางดังกล่าวบุกโจมตีเจ้าหน้าที่ มีร่องรอยกิ่งไม้หัก และรอยเท้าเป็นทางยาวจำนวนมาก
ทั้งยังพบปลอกกระสุนปืนสงครามเอ็ม 16 ตกอยู่จำนวนกว่า 50 ปลอก รวมทั้งสลักนิรภัยของระเบิดไปป์บอมบ์ตกอยู่จำนวนหนึ่ง จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายมีจำนวนเกือบ 20 คน แบ่งกำลังออกเป็น 4 กลุ่ม
กลุ่มที่ 1 ลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ บริเวณเสาไฟฟ้าหน้าประตูทางออกของฐานปฏิบัติการ
เมื่อคนร้ายจุดชนวนระเบิด ทำให้รถเสียหลักตกไหล่ทาง กลุ่มคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 ยิงถล่มซ้ำ และยิงสกัดเจ้าหน้าที่ในฐานที่จะออกมาช่วยเหลือ ทำให้เกิดการยิงปะทะกันนาน 15 นาที
จังหวะนั้น คนร้ายกลุ่มที่ 2 และกลุ่มที่ 3 ทำหน้าที่โปรยตะปูเรือใบบนถนน เพื่อสกัดการสนับสนุนช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่หน่วยอื่น
คนร้ายกลุ่มที่ 4 ยืนคุมเชิงและบล็อกเส้นทางอยู่ที่บริเวณทางเข้าฐานปฏิบัติการ เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ตีวงโอบล้อมมาให้ความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ 4 นายที่ถูกลอบวางระเบิดและยิงถล่ม
มีรายงานด้วยว่า ก่อนหลบหนี คนร้ายกลุ่มที่ 4 ได้ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า เพื่อเป็นสัญญาณให้กลุ่มคนร้ายอีก 3 กลุ่มถอนกำลัง โดยคนร้ายกลุ่มที่ 1 ได้หลบหนีข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนคนร้ายกลุ่มที่ 2-4 หลบหนีโดยรถจักรยานยนต์ที่เตรียมมา ขับหนีไปทาง อ.ตากใบ
หลังเกิดเหตุ พล.ต.เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ได้มีคำสั่งปิดช่องทางข้ามพรมแดนทางธรรมชาติทั้งหมดในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก รวมทั้งเขตรอยต่อ อ.ตากใบ และ อ.แว้ง เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ฟันธงว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบที่ต้องการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ และกำลังตรวจสอบว่าเกี่ยวโยงกับช่วงการพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ของ “คณะทำงานเทคนิค” ซึ่งเป็นคณะพูดคุยชุดเล็ก ร่วมกับกลุ่มบีอาร์เอ็นหรือไม่
โดยฝ่ายรัฐบาลไทยมีแผนเสนอแก้ไขเนื้อหาใน JCPP หรือ “แผนปฏิบัติการร่วมเพื่อสร้างสันติสุขแบบองค์รวม” ซึ่งถูกมองว่าเป็นประโยชน์กับฝ่ายบีอาร์เอ็น