พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พร้อมด้วย “หมอหนุ่ย” สุรพงษ์ ปิยโชติ รมช.คมนาคม ลงพื้นที่ จ.ปัตตานีพร้อมกัน ไปประชุมที่ศาลากลางจังหวัด รับฟังการรายงานข้อมูลการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง เพื่อศักยภาพทางเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในพื้นที่ของจังหวัดปัตตานี 5 ด้าน
หนึ่งในนั้นก็คือการพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยว “อันซีน” ปัตตานี นั่นก็คือ “แหลมตาชี” ที่ อ.ยะหริ่ง
“แหลมตาซี” มีลักษณะเป็นชายหาดสวย ทรายละเอียด เป็นปลายแหลมโค้งคล้ายรูปตัว C เกิดจากการก่อตัวของสันทรายที่ยื่นออกไปในทะเลในลักษณะ “สันดอนจะงอย” โดยปลายแหลมจะงอกเพิ่มขึ้นทุกปี กลายเป็นแหลมกั้นอ่าวปัตตานีที่เรียกว่า “ทะเลใน” กับอ่าวไทย ที่เรียกว่า “ทะเลนอก”
โดยที่แหลมตาชีสามารถชมทัศนียภาพได้ทั้งในเวลาพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก จึงถือว่า “อันซีนสุดๆ”
ปลายแหลมตาชี ยื่นไปทางอำเภอเมืองปัตตานี แต่การเดินทางโดยรถยนต์กลับมีระยะทางไกล เนื่องจากต้องไปอ้อม อ.ยะหริ่ง หลายสิบกิโลเมตร ที่ผ่านมาจึงมีแนวคิดสร้างระบบขนส่งเพิ่มเติม นอกเหนือจากการเดินทางด้วยเรือจากอ่าวปัตตานีไปแหลมตาชี ซึ่งแม้จะสะดวกกว่า แต่ก็ยังขาดแคลนท่าเรือท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ
งานนี้จึงมีการศึกษาความเป็นไปได้การให้บริการ Seaplane หรือที่รู้จักกันในชื่อ “อากาศยานทะเล” หรือ “อากาศยานลอยน้ำ” โดยมอบหมายให้ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย หรือ บวท. ไปศึกษาความเป็นไปได้
สำหรับประโยชน์ที่จะได้รับจากการให้บริการ Seaplane ได้แก่ ลดระยะเวลาการเดินทาง, ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูง (Premium/Luxury), ส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวในเส้นทางใหม่ๆ, เพิ่มมูลค่าการขนส่ง และประยุกต์ใช้ Seaplane ในกิจการอื่นๆ
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ตามนโยบายของนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ช่วงลงพื้นที่ค้างคืนที่ชายแดนใต้ ได้มีแนวคิดการเชื่อมโยงสนับสนุนการเดินทางไปสู่สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญบนถนนสายวัฒนธรรมในย่านการค้าดั้งเดิมของเมืองท่าปัตตานี
ชื่อเส้นทาง ‘อา-รมย์-ดี’ ย่อมาจากชื่อถนน 3 สาย คือ อาเนาะรู, ปัตตานีภิรมย์ และฤดี ให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยวทางพหุวัฒนธรรม เรียนรู้เกี่ยวกับเมืองท่าปัตตานี,การติดต่อค้าขาย และความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรมมลายูผ่านอาคารบ้านเรือน ศิลปะ สถาปัตยกรรม และวิถีชีวิตของผู้คน
รวมทั้งยกระดับการอนุรักษ์เมืองเก่า พร้อมเสนอเป็นเมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรม เชื่อมโยงระหว่างไทย จีน และมุสลิม
การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อรับฟังข้อมูลการให้บริการสาธารณะ และแนวทางการพัฒนาระบบรถโดยสารเพื่อรองรับการท่องเที่ยว โดยมอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. พัฒนาสถานีที่เชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวได้แก่ สถานีเทพา สถานีวัดช้างให้ สถานีสะพานดำยะลา และสถานีสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นไปตามข้อเสนอแนะแผนท่องเที่ยวโครงการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยสามารถเดินทางไป-กลับได้ในวันเดียว เรียกว่า วันเดย์ทริป
โอกาสนี้ นายสุรพงษ์ และ พ.ต.อ.ทวี ยังได้ลงพื้นที่พบปะประชาชนและผู้นำศาสนาที่มัสยิด อัล - นูร์ ปลายแหลมตาชี อ.ยะหริ่ง ด้วย