พบปลอกกระสุนปืนคนร้ายเพิ่มอีก 3 ปลอกในตลาดนัดดุซงญอ จุดเกิดเหตุยิงทหารพรานหญิงเสียชีวิต ด้านผู้ตายรู้ถูกปองร้าย ขอไปช่วยราชการ กอ.รมน. ค่ายสิรินธร แต่ไม่วายถูกตามยิงระหว่างลาพัก แม่ทัพภาค 4 จี้องค์กรสิทธิฯร่วมประณามความโหดเหี้ยมไร้มนุษยธรรม ทำลายรอมฎอนสันติ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันศุกร์ที่ 29 มี.ค.67 พ.ต.อ.นราวี บินแวอารง ผู้กำกับการ สภ.จะแนะ จ.นราธิวาส พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่อีโอดี หรือชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปยังตลาดนัดดุซงญอ หมู่ 1 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ เพื่อตรวจที่เกิดเหตุ และหาหลักฐานเพิ่มเติม จากเหตุการณ์คนร้ายแฝงตัวปะปนกับชาวบ้าน ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.จ่อยิง อาสาสมัครทหารพรานหญิง (อส.ทพ.หญิง) นูรีซัน พรหมศรี อายุ 30 ปี สังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 ช่วยราชการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ค่ายสิรินธร จ.ปัตตานี จนเสียชีวิต เหตุเกิดขณะกำลังผู้ตายกำลังช่วยญาติและลูกชายขายซุปเนื้ออยู่ในตลาดนัด
เจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ในการกระจายกำลังกันตรวจสอบและเคลียร์พื้นที่เกิดเหตุ เพื่อรวมรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ปรากฏว่าพบปลอกกระสุนปืนพกขนาด 9 มม. อยู่บนทางเดินห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 20 เมตร อีกจำนวน 3 ปลอก จึงเก็บเป็นหลักฐานรวมกับปลอกกระสุนปืนขนาดเดียวกันอีก 1 ปลอก ที่พบตกอยู่ใกล้ศพผู้ตายในวันเกิดเหตุ และเก็บไปตรวจพิสูจน์ก่อนหน้านี้แล้ว
จากการสอบถามพยานบุคคลทราบว่า กลุ่มคนร้ายมากัน 3 คน ไม่ใช่คนเดียว แฝงตัวเดินปะปนกับชาวบ้าน โดยเดินมาจากด้านหลังของปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง ใกล้กับพื้นที่ตลาดนัด
โดยระหว่างที่ อส.ทพ.หญิงนูรีซัน กำลังยืนขายซุปเนื้อกับ น.ส.อามีเนาะ มะมิง ซึ่งเป็นญาติและนายกฤษฎา ศรีแก้ว บุตรชาย คนร้ายได้เดินลัดจากด้านหลังของปั๊มน้ำมัน อ้อมมาทางด้านหลังของ อส.ทพ.หญิง นูรีซัน ที่ยืนขายซุปเนื้ออยู่ที่เพิงขายของ จากนั้น 2 ใน 3 คนร้าย ได้เดินแยกออกไปดูต้นทาง เมื่อแน่ใจว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ จึงได้ส่งสัญญาณให้คนร้ายที่ทำหน้าที่เป็นมือปืน ใช้อาวุธปืนพก ขนาด 9 มม.จ่อยิงศีรษะของ อส.ทพ.หญิงนูรีซัน จำนวน 1 นัด จนล้มทั้งยืน และเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ
หลังก่อเหตุซึ่งมีเสียงปืนดังสนั่น ทำให้ประชาชนที่เดินตลาดแตกฮือ วิ่งหนีตายกันอลหม่าน คนร้ายจึงได้อาศัยจังหวะความชุลมุนหลบหนีออกจากตลาดไป พร้อมใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าอีก 3 นัดเพื่อเปิดทาง จนสามารถหลบหนีไปทางหลังปั๊มน้ำมันเชื้อเพลิง ทางเดียวกับที่เดินเข้ามา
ขณะที่ญาติและบุตรชายของ อส.ทพ.หญิงนูรีซัน ยังอยู่ในอาการตกใจ และร้องไห้อยู่ข้างศพ จนพ่อค้าแม่ค้าได้เข้ามาช่วยกันปลอบ และทางกำนันตำบลดุซงญอ ได้ประสานแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
@@ รู้ตัวถูกปองร้าย ขอไปช่วยราชการค่ายสิรินธร
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ที่ได้ลอบติดตามความเคลื่อนไหวของ อส.ทพ.หญิงนูรีซัน มาตลอด โดยล็อกเป้าเพราะเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายกองกำลัง จากนั้นเมื่อเฝ้าดูพฤติกรรมจนแน่ใจ จึงวางแผนก่อเหตุ โดยเลือกยิงกลางตลาด ซึ่งผู้ตายไปช่วยขายอาหารเป็นประจำในช่วงนี้ และอาจไม่ค่อยระวังตัว เพราะเป็นพื้นที่คนพลุกพล่าน
เจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ให้ข้อมูลว่า “อส.ทพ.หญิงนูรีซัน ก็ทราบดีว่าถูกปองร้ายจากกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ จึงได้ทำเรื่องขอย้ายจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ไปช่วยราชการที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร จ.ปัตตานี และในช่วงวันหยุด หรือผลัดพัก ส่วนใหญ่จะไม่กลับไปเยี่ยมบ้าน เพื่อความปลอดภัย แต่ในช่วงลาพักครั้งนี้ เจ้าตัวเห็นว่าไม่ได้เดินทางกลับบ้านนานแล้ว ประจวบเหมาะเป็นช่วงรอมฎอนพอดี จึงถือโอกาสไปเยี่ยมบ้านและลูกชาย โดยใช้เวลาว่างไปช่วยญาติขายซุปเนื้อที่ตลาดนัด และด้วยความชะล่าใจ อาจจะเห็นว่าคนพลุกพล่าน จึงถูกคนร้ายจ่อยิงจนเสียชีวิต”
@@ จี้องค์กรสิทธิฯช่วยประณาม ทำลายรอมฎอนสันติ
พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 แถลงเรื่องนี้ว่า ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต และได้กำชับให้ส่วนงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการด้านสิทธิกำลังพลแก่ครอบครัวเป็นการด่วน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงยังคงก่อเหตุในห้วงเดือนรอมฎอนอันประเสริฐของพี่น้องมุสลิม ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการทำความดี ละเว้นความชั่วทั้งปวง แต่กลับมุ่งสร้างสถานการณ์ทำลายชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ขัดกับหลักศาสนาอย่างร้ายแรง นับว่าเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม และละเมิดสิทธิมนุษยชน
จึงขอให้ทุกภาคส่วน องค์กรสิทธิมนุษยชน รวมถึงองค์กรภาคประชาชนสังคมต่างๆ ได้รวมพลังต่อต้านปฏิเสธความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้หน่วยที่เกี่ยวข้องรวบรวมวัตถุพยานหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุ เพื่อเร่งสืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุดต่อไป
@@ รุดเยี่ยม-มอบเงินเยียวยาครอบครัวทหารพรานหญิง
วันเดียวกัน แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เดินทางไปที่บ้านของครอบครัวทหารพรานหญิง ตำบลดุซงญอ อ.จะแนะ เพื่อเข้าเยี่ยมให้กำลังใจสมาชิกในครอบครัว ซึ่งทุกคนยังคงอยู่ในอาการเศร้าเสียใจอย่างหนัก
โอกาสนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้นให้กับ นายนิมิต พรหมศรี และ นางซีตีอามีเน๊าะ สะอะ ซึ่งเป็นบิดาและมารดาของผู้เสียชีวิตด้วย พร้อมนำความห่วงใยจาก พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก แจ้งให้ครอบครัวได้รับทราบ