เปิดถ้อยแถลง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ระหว่างปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ในการประชุมระดับสูงของการประชุมคณะกรรมาธิการยาเสพติด หรือ CND สมัยที่ 67 ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย
พ.ต.อ.ทวี กล่าวตอนหนึ่งว่า ประเทศไทยมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายพื้นฐานตามพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาการควบคุมยาเสพติดระหว่างประเทศทั้งสามฉบับ โดยเมื่อไม่นานนี้ ประเทศไทยได้ดำเนินการปฏิรูปกฎหมาย คือ ประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ เมื่อปลายปี 2564 ให้เป็นไปตามแนวทางหลักสาธารณสุขนำ เพื่อจัดการกับสถานการณ์ยาเสพติดในประเทศได้ดียิ่งขึ้น
รัฐบาลภายใต้การนำของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะทำงานร่วมกับประชาชนทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึดหลักการ “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” สนับสนุนให้ผู้เสพเข้ารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง เพื่อเพิ่มจำนวนทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพให้กลับเข้าสู่สังคม และพัฒนาความสามารถให้เข้าสู่ภาคแรงงาน
ส่วนผู้ผลิตและผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมายอย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการ “ยึดทรัพย์” เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติด พร้อมดำเนินการเจรจาทางการทูตกับประเทศตามแนวชายแดน เพื่อควบคุมการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย และดึงประชาชนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร
นอกจากนี้ รัฐบาลไทยจะดำเนินตามแนวทางที่อิงหลักฐานวิชาการ เพื่อสามารถใช้กัญชาเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะทางการแพทย์ การรักษาและการวิจัยเท่านั้น โดยยืนยันว่าจะมีมาตรการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องขึ้นมาเพื่อป้องกันการใช้กัญชาเพื่อวัตถุประสงค์ทางสันทนาการ
พ.ต.อ.ทวี ยังให้คำมั่นในนามของประเทศไทย บนเวทีคณะกรรมาธิการยาเสพติดโลก ว่า จะลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติดภายในประเทศให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมภายในระยะเวลา 1 ปี กล่าวคือ
1.โดยการส่งเสริมให้ผู้ใช้ยาเสพติด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่มีอาการจิตเวช ได้เข้าถึงบริการบำบัดรักษาและฟื้นฟูอย่างเหมาะสม
และ 2.จะเพิ่มความเข้มข้นในความพยายามสกัดกั้นตามแนวชายแดน เพื่อหยุดยั้งการลักลอบค้ายาเสพติดและสารเคมี และเพิ่มความร่วมมือระหว่างประเทศในทุกระดับเพื่อจัดการกับความท้าทายในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ และสร้างสังคมที่ปลอดภัยและมั่นคงอย่างยั่งยืน
----------------