พบรถยนต์บริษัทหาดทิพย์ที่ถูกปล้นชิง จอดทิ้งริมถนนเชิงเขาเมาะแต อ.ศรีสาคร นราธิวาส เจ้าหน้าที่อีโอดีตรวจเข้ม หวั่นซุกระเบิด ขณะที่กองพิสูจน์หลักฐานเก็บลายนิ้วมือแฝงคนร้าย ด้านเจ้าหน้าที่เชื่อกลุ่มป่วนใต้ลงจากเขามาก่อเหตุปล้นหาเสบียงช่วงรอมฎอน เร่งเช็คมือถือทำหล่น ขยายผลติดตามจับกุมยกทีม
ความคืบหน้าเหตุการณ์คนร้ายประมาณ 7 คน แต่งกายคล้ายทหารพราน แต่มีหมวกไหมพรมอำพรางใบหน้า พร้อมอาวุธปืนครบมือ ดักปล้นรถยนต์กระบะของ บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) พร้อมจี้บังคับคนขับให้ลงจากรถ แล้วชิงรถไป เหตุเกิดบริเวณถนนสายชนบท 4011 บ้านกูแบกูตง หมู่ 1 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส
จากนั้นคนร้ายนำรถไปก่อเหตุปล้นกล่องพัสดุจากเจ้าของร้านอัครวัสดุภัณฑ์ ในเขตเทศบาลตำบลตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาสแล้วขับหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 11 มี.ค.67 ที่ผ่านมา
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกโรงพักใน จ.นราธิวาส และกำลังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยได้ติดตามไล่ล่าและตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ตามถนนทั้งสายรอง และสายหลักตลอดทั้งคืน แต่ก็ไม่พบรถกระบะที่ถูกกลุ่มคนร้ายปล้นและนำไปก่อเหตุปล้นต่อเนื่องแต่อย่างใด
ต่อมาเวลา 07.00 น. วันอังคารที่ 12 มี.ค. พ.ต.อ.อาภากร วิรูปักษ์อารักษ์ ผู้กำกับการ สภ.ระแงะ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบรถกระบะของ บริษัท หาดทิพย์ ที่ถูกคนร้ายปล้นชิง จอดทิ้งอยู่บริเวณริมถนนเชิงเขาเมาะแต ในพื้นที่รอยต่อ อ.ศรีสาคร กับ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ท้องที่บ้านตะเคียนต้นเดียว หมู่ 1 ต.ศรีบรรพต อ.ศรีสาคร จึงรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยฝ่ายทหาร เจ้าหน้าที่หน่วยทำลายวัตถุระเบิดอโณทัย และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส
เมื่อไปถึง เจ้าหน้าที่พบรถกระบะคันดังกล่าวจอดอยู่ในลักษณะชิดขอบไหล่ถนน หน้ารถเบี่ยงเข้าไปในป่า ช่วงบริเวณเนินสูงของเขาเมาะแต จึงได้ใช้สุนัขทหารดมกลิ่นทำการตรวจสอบรอบรถ ก่อนเปิดทางให้เจ้าหน้าที่อีโอดีใช้เครื่องตรวจจับโลหะตรวจสอบซ้ำ ทั้งภายในห้องโดยสาร ในกระบะบรรทุก รวมไปถึงห้องเครื่องของรถยนต์
จากการตรวจสอบไม่พบสิ่งแปลงปลอมหรือวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดแต่อย่างใด ทั้งในตัวรถยังพบกุญแจรถเสียบคาพวงมาลัยไว้ เมื่อมั่นใจว่าปลอดภัยแล้ว จึงได้ให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบคราบลายนิ้วมือแฝงตามบริเวณต่างๆ รอบตัวรถ ทั้งภายในและภายนอก โดยเฉพาะพวงมาลัยและมือจับประตูเปิดปิดรถ เพื่อนำไปตรวจสอบตามกระบวนการนิติวิทยาศาสตร์ โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ ก่อนจะนำรถยนต์กระบะคันดังกล่าวกลับไปจอดยัง สภ.ระแงะ
แหล่งข่าวหน่วยความมั่นคงในพื้นที่ เผยว่า เหตุที่คนร้ายนำรถยนต์กระบะไปจอดในบริเวณดังกล่าว เนื่องมาจากคนร้ายน่าจะนำกำลังหลบหนีขึ้นไปบนเทือกเขาเมาะแต หรืออาจจะมีการนัดแนะสมาชิกในกลุ่ม รวมทั้งแนวร่วมขับรถอีกคันมารับเพื่อหลบหนี หลังจากร่วมก่อเหตุแล้วเสร็จ
จากการประเมินเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความน่าเป็นไปได้คือ กลุ่มคนร้ายต้องการประสงค์ต่อทรัพย์สินหรือเงินสด จึงได้ก่อเหตุปล้นรถยนต์เพื่อใช้เป็นพาหนะในการอำพรางตัว โดยทรัพย์สินหรือเงินสดที่ได้จะนำไปใช้จ่ายซื้อหาเสบียงอาหารยังชีพในป่า โดยเฉพาะในช่วงเดือนรอมฎอน ซึ่งในอดีต 2-3 ปีที่ผ่านมาในช่วงระหว่างคาบเกี่ยวเดือนรอมฎอน หรือถือศีลอด กลุ่มคนร้ายก็เคยก่อเหตุปล้นทรัพย์ในลักษณะนี้มาแล้ว
แหล่งข่าวรายเดียวกันยังเผยถึงแนวทางในการสืบสวนสอบสวนว่า เจ้าหน้าที่ได้หลักฐานสำคัญ คือ โทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่องที่คนร้ายได้ทำตกไว้บริเวณหน้าร้านอัครวัสดุภัณฑ์ ที่คนร้ายบุกปล้น ซึ่งสามารถตรวจสอบหาผู้ใช้หมายเลขโทรศัพท์เบอร์นี้ได้ และตรวจสอบประวัติลายนิ้วมือทางทะเบียนราษฎร ว่ามีลายนิ้วมือแฝงที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบตามบริเวณต่างๆ ของตัวรถกระบะหรือไม่ หากตรงกันก็สามารถทราบได้ว่าใครเป็นผู้ร่วมก่อเหตุ และการติดต่อโทรศัพท์มือถือหมายเลขนี้ที่ผ่านมา ได้โทรไปพูดคุยกับใครบ้างในอีกชั้นหนึ่ง ซึ่งคดีนี้ถือว่าไม่ลำบากที่จะสาวไปถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด