ผู้การตำรวจนราธิวาสสั่งทุกโรงพักตั้งด่านตรวจ จุดสกัด ไล่ล่ารถกระบะบริษัทหาดทิพย์ หลังถูกคนร้ายแต่งกายคล้ายทหารพรานดักปล้นในพื้นที่ อ.จะแนะ ก่อนขับไปปล้นร้านวัสดุก่อสร้างในเขตเทศบาลตันหยงมัส แล้วหนีหายไป หวั่นถูกนำไปประกอบระเบิดเป็น “คาร์บอมบ์”
เมื่อเวลา 18.00 น. วันจันทร์ที่ 11 มี.ค.67 พ.ต.อ.นราวี บินแวอารง ผู้กำกับการ สภ.จะแนะ จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายจำนวน 6 คน แต่งกายในชุดสีดำคล้ายทหารพราน มีอาวุธปืนครบมือ ก่อเหตุปล้นรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ แบบตอนเดียว รุ่นดีแมกซ์ สีขาว ป้ายทะเบียนสงขลา ข้างประตูรถเขียนข้อความภาษาอังกฤษว่า “โคคา-โคล่า” โดยเป็นรถยนต์ของ บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) ตั้งอยู่เลขที่ 87/1 ถนนกาญจนวนิช ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยมี นายอุทัย สุกสีแดง ภูมิลำเนาอยู่ อ.เมือง จ.นราธิวาส เป็นคนขับ
นายอุทัย ให้การกับตำรวจว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถกระบะของบริษัทไปติดต่อลูกค้าในพื้นที่หมู่ 1 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ จากนั้นได้ขับรถกลับบริษัท โดยไปที่สาขาใน อ.เมืองนราธิวาส แต่ระหว่างทางมีคนร้าย 6-7 คน แต่งกายด้วยชุดสีดำคล้ายเจ้าหน้าที่ทหารพราน และสวมหมวกไอ้โม่งปิดบังใบหน้า มีอาวุธปืนครบมือ ยืนอยู่ริมถนน แล้วโบกรถของตน ทำทีขอตรวจค้น ตนจึงตัดสินใจจอดรถ เนื่องจากคิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริงๆ
แต่เมื่อจอดรถแล้ว หนึ่งในคนร้ายได้บอกว่าขอยืมใช้รถยนต์หน่อย หลังจากนั้นคนร้ายอีก 3 คนพร้อมอาวุธปืนครบมือได้พาตัวนายอุทัยเดินเข้าไปในป่าข้างทาง และกำชับว่าห้ามหนีหรือตะโกนขอความช่วยเหลือ ไม่อย่างนั้นจะยิงทิ้ง
จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง คนร้ายได้พากันหลบหนีเข้าป่า ส่วนคนร้ายบางส่วนคาดว่าขับรถหนีหายไปแล้ว นายอุทัยจึงออกเดินถามชาวบ้านเพื่อไปยังบ้านกำนัน และได้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้รับทราบเหตุการณ์ โดยนายอุทัยถูกคนร้ายจับตัวไว้ตั้งแต่เวลาประมาณ 16.00 น. กว่าจะแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ก็ผ่านไปนานนับชั่วโมง
เวลา 17.10 น.วันเดียวกัน ระหว่างที่เหตุปล้นรถบริษัทหาดทิพย์ยังไม่ชัดเจน ปรากฏว่า พ.ต.อ.อาภากร วิรูปักษ์อารักษ์ ผู้กำกับการ สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งจาก นายอัครวิทย์ โสภณวิริยา อายุ 65 ปี เจ้าของร้านอัครวัสดุภัณฑ์ ซึ่งจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง ตั้งอยู่เลขที่ 6 ถนนเทศบาล 3 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ ว่ามีคนร้ายจำนวน 3 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือ ใช้รถกระบะของบริษัทหาดทิพย์ เป็นพาหนะ เข้าปล้นร้านนายอุทัย โดย 1 ใน 3 คนร้ายสวมเสื้อลายพรางและใส่กางเกงยีนส์ได้ลงจากรถ แล้วใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 ขู่บังคับให้ตนส่งเงินให้
จังหวะนั้นตนถือกล่องพัสดุอยู่ คนร้ายคิดว่าเป็นกล่องเงิน แต่จริงๆ เป็นกล่องขนม คนร้ายให้ตนส่งกล่องให้ แล้ววิ่งขึ้นรถไป อารามรีบร้อน คนร้ายทำโทรศัพท์มือถือตกไว้ 1 เครื่อง แต่ก็ขับรถออกจากร้านของตนไป
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ คาดว่ารถที่คนร้ายใช้เป็นพาหนะในการปล้น เป็นรถคันเดียวกับที่ถูกปล้นจาก อ.จะแนะ โดยหลังปล้นร้านวัสดุก่อสร้างของนายอุทัย คนร้ายได้ขับรถคันนี้ผ่านจุดตรวจดารุลสลาม มุ่งหน้าไปยังพื้นที่ ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ
ต่อมา ผู้กำกับการ สภ.ระแงะงได้สั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกติดตามไล่ล่ารถคันดังกล่าว โดยให้แยกย้ายกันตามหา พร้อมประสานไปยัง สภ.ข้างเคียง ให้ตั้งจุดตรวจจุดสกัด เพื่อตรวจสอบบุคคลและยานพาหนะทุกชนิด เพราะเกรงคนร้ายจะแฝงตัวหลบหนีออกนอกพื้นที่
ด้าน พล.ต.ต.ไมตรี สันตยากุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ได้สั่งการไปยัง สภ.ในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ตั้งจุดตรวจจุดสกัด และให้เจ้าหน้าที่ประจำฐานปฏิบัติการต่างๆ ออกตรวจสอบตามท้องถนน โดยเน้นไปที่รถยนต์กระบะตามลักษณะที่คนร้ายปล้นและใช้ก่อเหตุ เนื่องจากเกรงว่า คนร้ายจะลอบนำไปจอดตามฐานปฏิบัติการต่างๆ โดยบรรทุกระเบิดเป็นคาร์บอมบ์เพื่อโจมตีเจ้าหน้าที่ให้ได้รับอันตราย