ลอบบึ้มรถทหารพรานเจาะไอร้อง กำลังพลบาดเจ็บเล็กน้อย 3 นาย ดักโจมตีขณะกลับจากทำงานมวลชนมัสยิดในพื้นที่ ฝ่ายความมั่นคงแจ้งเตือนทุกหน่วยเฝ้าระวังเหตุป่วนช่วงเดือนรอมฏอน พ่วงวันสถาปนาบีอาร์เอ็น 13 มี.ค. ส่วนเหตุควงเอ็ม 16 ยิงดับ อส. ภรรยาสาหัส คาดเป็นฆ่าล้างหนี้
เหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เริ่มปรากฏถี่ขึ้น แม้จะเป็นช่วงใกล้เข้าสู่เดือนรอมฎอน ซึ่งจะมีมาตรการ “รอมฎอนสันติสุข” ที่คณะพูดคุยสันติสุขฯฝ่ายรัฐบาลไทย ทำความตกลงกับกลุ่มบีอาร์เอ็น
โดยล่าสุดเมื่อเวลา 15.30 น.วันเสาร์ที่ 9 มี.ค.67 ก่อนวันนัดดูดวงจันทร์เพียง 1 วัน เพื่อกำหนดวันที่หนึ่งของเดือนรอมฎอน ปรากฏว่า พ.ต.อ.วิสันต์ รักมาก ผู้กำกับการ สภ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส รับแจ้งเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดรถกระบะของผู้บังคับกองร้อยทหารพรานที่ 4806 (ผบ.ร้อย ทพ.4806) ที่บริเวณใกล้คอสะพานบ้านโต๊ะเล็ง หมู่ 3 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง ทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหาย และมีเจ้าหน้าที่ในรถได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 3 นาย
หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.วิสันต์ ได้สั่งระดมกำลังเดินทางรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยฝ่ายทหารและปกครอง
ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ต้องจอดรถสังเกตการณ์ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร เพื่อป้องกันการดักโจมตีซ้ำ จากการสังเกตพบว่าบริเวณกลางถนนใกล้กับคอสะพานในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายลอบฝังระเบิดและจุดระเบิดขึ้นนั้น มีเศษผิวถนนและเศษซากชึ้นส่วนรถยนต์ตกกระจัดกระจาย โดยมีหลุมระเบิดขนาดกว้าง 1 เมตร ลึกประมาณ 0.5 เมตร เจ้าหน้าที่จึงกันพื้นที่โดยรอบ เพื่อรอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าเก็บหลักฐานอย่างละเอียดในวันรุ่งขึ้น
ส่วนรถยนต์ที่ถูกลอบวางระเบิด เป็นรถกระบะยี่ห้อนิสัน รุ่นนาวารา สีส้ม ป้ายทะเบียนยะลา สภาพรถได้รับความเสียหายบริเวณห้องเครื่อง พลขับได้นำรถไปจอดที่หน้าบ้านของชาวบ้าน ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร
สำหรับกำลังพลทหารพรานที่ได้รับบาดเจ็บมีจำนวน 3 นาย ประกอบด้วย
1.ร.ท.รอฮิง สาเม๊าะ รอง ผบ.ร้อย ทพ.4806 ปฏิบัติราชการแทน ผบ.ร้อย
2.อาสาสมัครทหารพราน (อส.ทพ.) ยะห์ยา บินมามะ
3.อส.ทพ.วุฒิพงษ์ อินอักษร
โดยทั้ง 3 นายมีอาการแน่นหน้าอกและหูอื้อ ซึ่งทางกองร้อย ทพ.4806 ได้ส่งเจ้าหน้าที่รับตัวไปปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่ฐานปฏิบัติการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ร.ท.รอฮิง รอง ผบ.ร้อย ทพ.4806 ได้นำกำลังรวม 3 นาย นั่งรถกระบะส่วนตัวของ ผบ.ร้อย ไปร่วมงานมวลชนที่มัสยิดบ้านโต๊ะเล็ง หลังเสร็จภารกิจจึงเดินทางกลับฐาน แต่เมื่อรถแล่นถึงจุดเกิดเหตุ มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ และจุดชนวนระเบิดที่ประกอบใส่ไว้ในถังแก๊ส น้ำหนักดินระเบิด 25 กิโลกรัม ฝังไว้ใต้ผิวถนน จนเกิดระเบิดขึ้นจากใต้ถนน เศษดินและฝุ่นฟุ้งกระจาย แรงระเบิดได้อัดใส่ห้องเครื่องของรถได้รับความเสียหาย ยังดีที่กำลังพลในรถได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่มุ่งก่อเหตุสร้างสถานการณ์ความไม่สงบ ในช่วงย่างเข้าเดือนรอมฎอน และใกล้ครบรอบวันสถาปนาขบวนการบีอาร์เอ็น ที่ตรงกับวันที่ 13 มี.ค.ของทุกปี
@@ หน่วยข่าวเตือนเฝ้าระวังเหตุป่วนวันสถาปนาบีอาร์เอ็น
เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองด้านความมั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า สมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ระดับ Kompi (หัวหน้ากองร้อย) และสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงรุ่นใหม่ ได้เตรียมก่อเหตุสร้างสถานการณ์ตามคำสั่งระดับแกนนำกลุ่มขบวนการแบ่งแยกดินแดนที่หลบหนีอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน โดยสั่งการให้เร่งก่อเหตุในห้วงก่อนวันคล้ายวันสถาปนาขบวนการบีอาร์เอ็น ซึ่งตรงกับวันที่ 13 มี.ค.ของทุกปี โดยเฉพาะในปีนี้อยู่ในช่วงเดือนรอมฎอนด้วย
เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่คาดการณ์ว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงจะก่อเหตุในห้วงวันที่ 8 – 17 มี.ค.67 ด้วยการลอบยิง ซุ่มโจมตี หรือประกบยิงเพื่อแย่งชิงอาวุธ และลอบวางระเบิดแสวงเครื่องในรูปแบบต่างๆ ต่อฐานปฏิบัติการ ด่านตรวจ จุดตรวจ และเส้นทางที่เจ้าหน้าที่รัฐใช้ในการปฏิบัติหน้าที่เป็นประจำ รวมถึงเส้นทางลาดตระเวน โดยมีเป้าหมายเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ทหาร ตำรวจ อส. ที่มีการระวังป้องกันตนเองต่ำ และอยู่ในความประมาท
ล่าสุดทางผู้บังคับหน่วยกำลังในพื้นที่ ได้แจ้งเตือนไปยังเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยให้ยกระดับเพิ่มความเข้มในการดูแลรักษาความปลอดภัย พร้อมฝ้าระวังและป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในพื้นที่
@@ ยิงดับ อส. - ภรรยาสาหัส ฟันธงฆ่าล้างหนี้
อีกด้านหนึ่งมีความคืบหน้าเหตุการณ์เหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิง สมาชิกเอก ฮาเซ็ม กาเด อายุ 31 ปั สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ประจำชุดคุ้มครองตำบลบาโงสะโต (ชคต.บาโงสะโต) อ.ระแงะ จ.นราธิวาส และ น.ส.ณัฐธยาน์ สาเมาะ อายุ 47 ปี ภรรยาของ อส.ฮาเซ็ม ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบนถนนสายบ้านเจ๊ะเก-บ้านลูโบ๊ะบาตู หมู่ 2 ต.บาโงสะโต เหตุเกิดเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 8 มี.ค.67 ที่ผ่านมานั้น
เวลา 09.00 น. วันที่ 9 มี.ค.67 พ.ต.อ.อาภากร วิรูปักษ์อารักษ์ ผู้กำกับการ สภ.ระแงะ พร้อมด้วย พ.อ.สุรศักดิ์ พึ่งแย้ม ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 (ผบ.ฉก.ทพ.45) และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด ตลอดจนเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ได้นำกำลังไปตรวจสอบ โดยเริ่มต้นจากการทำให้พื้นที่ปลอดภัย เพื่อความรอบคอบเต็มร้อย
ในที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า สีแดง ป้ายทะเบียนนราธิวาส จอดอยู่บริเวณไหล่ทาง ส่วนพื้นถนนและพงหญ้ารกทึบริมทางมีปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ตกอยู่จำนวน 5 ปลอก พร้อมกองเลือด
สำหรับศพของ อส.ฮาเซ็ม ถูกนำส่งโรงพยาบาลระแงะ แพทย์ได้ชันสูตรพลิกศพเรียบร้อยแล้ว พบว่า ถูกกระสุนปืนของคนร้ายเข้าที่บริเวณหน้าอก 1 นัด ส่วน น.ส.ณัฐธยาน์ ภรรยาของ อส.ฮาเซ็ม ถูกกระสุนปืนชนิดและขนาดเดียวกันที่บริเวณแขนและขา 2 นัด พทย์โรงพยาบาลระแงะได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้น และส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเมืองนราธิวาส
จากการสอบสวนพยานซึ่งเป็นเครือญาติของผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ได้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุ สมาชิกเอกฮาเซ็ม ได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้าน โดยมีภรรยานั่งซ้อนท้าย เพื่อไปส่งทำหน้าที่ที่ฐาน ชคต.บาโงสะโต โดยภรรยาของสมาชิกเอกฮาเซ็ม ได้ถือโอกาสนัดแนะลูกหนี้รายหนึ่งไปพูดคุยเรื่องการเคลียร์หนี้ที่ได้หยิบยืมไปด้วย
คาดว่าก่อนที่ภรรยาจะส่งสมาชิกเอกฮาเซ็ม ที่ฐาน ชคต.บาโงสะโต ได้มีการจอดรถพูดคุยกับลูกหนี้ แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ ลูกหนี้รายดังกล่าวจึงใช้อาวุธปืนยิงใส่สมาชิกเอกฮาเซ็มเสียชีวิต ส่วนภรรยาได้รับบาดเจ็บสาหัส
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า เหตุการณ์นี้มาจากปัญหาส่วนตัว ไม่เกี่ยวข้องกับคดีความมั่นคง เพียงแต่คนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามในการก่อเหตุเพื่อเบี่ยงเบนรูปคดี โยนความผิดให้กับสมาชิกกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง