“เที่ยวใต้ สุดใจ” วันที่ 3 นายกฯเศรษฐาพาคณะชิม “ติ่มซำไทซีฮี้” ร้านดังเมืองเบตง ก่อนเดินทางข้ามไปนราธิวาส สักการะพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล เยือนพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลาม ชมอัลกุรอานโบราณอายุนับพันปี เผยชายแดนใต้มีศักยภาพดึงดูดนักท่องเที่ยว สั่งยกเลิก ตม.6 ขุดอุโมงค์ขยายถนนรับการท่องเที่ยว
วันพฤหัสบดีที่ 29 ก.พ.67 ภารกิจการลงพื้นที่ตรวจราชการสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ วันที่ 3 ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ เพื่อร่วมกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว ภายใต้แคมเปญ “เที่ยวใต้ สุดใจ” ที่จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ยังคงเดินหน้าต่อไปแบบเต็มสูบ และนายกฯเดินสายอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
เริ่มกิจกรรมแรก เวลา 07.30 น. นายกรัฐมนตรีไปรับประทานทานอาหารเช้าที่ร้านติ่มซำไทซีฮี้ อ.เบตง จ.ยะลา พร้อมด้วย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)
โดยนายกฯเศรษฐา ได้โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “เช้านี้ที่เบตง ต้องติ่มซำร้อนๆ ครับ ที่นี่นักท่องเที่ยวมาจากมาเลเซียเยอะเลย หลังทานอาหารเสร็จก็ได้เจอพี่น้องชาวเบตงและนักท่องเที่ยวหลายคน ขอบคุณที่พี่น้องมารอเจอและให้กำลังใจ บรรยากาศคึกคักแบบนี้ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมผู้คนถึงอยากมาเที่ยว มาเบตงครั้งนี้อบอุ่นมากครับ”
@@ สักการะพระพุทธทักษิณมิ่งมงคล นราธิวาส
เวลา 10.30 น.นายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางไปยังจังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นจังหวัดสุดท้ายของภารกิจในวันที่ 3 ของกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว “เที่ยวใต้ สุดใจ” โดยนายกฯเศรษฐา และคณะได้ใส่เสื้อ ผ้าลายเมอนารอ สีบานเย็น ซึ่งเป็นการผสมผสานอัตลักษณ์ของผ้าพื้นถิ่นกับลวดลายพระราชทาน ซึ่งมีคำว่า NARATHIWAT สื่อถึงความเท่าเทียม เคารพสิทธิเสรีภาพซึ่งกันและกัน และมีผ้าคลุมไหล่สีม่วง เป็นการนำผ้าไหมปักธงชัยมาผสมผสานซ้อน 5 โดยมีลายพระราชทานดอกรัก
จุดแรกนายกฯ และคณะได้เดินทางไปยังพุทธมณฑลจังหวัดนราธิวาส เพื่อสักการะ พระพุทธทักษิณมิ่งมงคล ซึ่งเป็นพระพุทธรูปประทับขัดสมาธิกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ และเป็นที่นับถือของชาวนราธิวาส รวมทั้งพุทธศาสนิกชนทั่วไป พร้อมได้ร่วมบันทึกภาพกับหัวหน้าส่วนราชการ ก่อนที่จะไปนมัสการ พระธรรมวัชรจริยาจารย์ (อดีตพระเทพศีลวิสุทธิ์ หรือ พ่อท่านอ่อน) ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18 และเจ้าอาวาสวัดประชุมชลธารา
พระธรรมวัชรจริยาจารย์ ได้อำนวยพรให้นายกฯปฏิบัติหน้าที่ที่ตั้งใจไว้ให้ลุล่วงไปด้วยดี เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนและประเทศชาติ
@@ ชม “คัมภีร์อัลกุรอานโบราณ” อายุพันปี
ต่อจากนั้น นายกฯเศรษฐาได้เดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์มรดกวัฒนธรรมอิสลาม และศูนย์การเรียนรู้คัมภีร์อัลกุรอาน ต.ละหาน อ.ยี่งอ โดยมีกลุ่มมวลชนคอยให้การต้อนรับด้วยการแสดง “กือโต๊ะบานอ” ซึ่งเป็นพิธีต้อนรับผู้หลักผู้ใหญ่ที่เดินทางมาเยือน
โดยนายกฯเศรษฐาได้เยี่ยมชมบูธการแสดงสินค้าของกลุ่มภาคเอกชน อาทิ กระจูด ผ้าบาติก ทุเรียนกวน ปลากุเลาเค็มตากใบ พืชสมุนไพร พร้อมเดินทางเข้าพบกลุ่มผู้นำศาสนา สอบถามถึงทุกข์สุขความเป็นอยู่ โดยกลุ่มผู้นำศาสนาได้ขอดุอาให้นายกฯ ปฏิบัติหน้าที่ลุล่วงตามความตั้งใจที่วางไว้และมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
โอกาสนี้ นายกฯเศรษฐายังได้เข้าชมคัมภีร์อัลกุรอาน ที่ นายมาหามะนุทรี หะยีสาแม เป็นผู้รวบรวมไว้ ด้วยการจัดนิทรรศการภายในห้องโถงของพิพิธภัณฑ์ ซึ่งมีการจัดแสดงเทิดพระเกียรติ รัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 รวมทั้งภาชนะทองเหลืองและภาชนะลายครามดด้วย
ไฮไลต์สำคัญ คือ คัมภีร์อัลกุรอานที่ลงอักษรในหนังแพะ มีอายุเก่าแก่ 1,030 ปี รวมทั้งคัมภีร์อัลกุรอานที่มีการลงอักษรในเปลือกไม้ มีอายุกว่า 300 ปี และการซ่อมแซมตัวอักษรในคัมภีร์ที่มีสภาพชำรุดทรุดโทรม ให้มีสภาพใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด ซึ่ง นายมาหามะนุทรี ได้ถือโอกาสมอบกรอบรูปที่ภายในเป็นการปักและเขียนชื่อคำว่า เศรษฐา ทวีสิน ด้วยภาษาอาหรับ ให้กับนายกฯ
@@ ยกเลิก ตม.6 – ขุดอุโมงค์ขยายถนนรับท่องเที่ยว
เมื่อชมนิทรรศการแล้วเสร็จ นายกฯเศรษฐาได้เป็นประธานการประชุมหารือยกระดับการท่องเที่ยวและพัฒนาการท่องเที่ยวในสามจังหวัดชายแดนใต้ ที่ห้องประชุมพิพิธภัณฑ์ฯ ต.ละหาร อ.ยี่งอ โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งนายกฯดำเนินการประชุมเองอย่างรวบรัด ไม่เยิ่นเย้อ
นายกฯเศรษฐาให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางกลับว่า 3 วันที่ผ่านมาหลังตรวจราชการในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ พบว่าพื้นที่นี้เหมาะกับการเป็นแหล่งท่องเที่ยว ขณะที่เบตงเองปัจจุบันมีการทำพืชผลทางการเกษตรมากขึ้น สามารถส่งเสริมให้เป็นสินค้าส่งออกได้ โดยเฉพาะทุเรียน
“ส่วนด่านชายแดนปัจจุบันมีสภาพทรุดโทรม ต้องมีการปรับปรุงให้ดีขึ้น ทั้งอาคารและบุคลากร อีกทั้งการยกเลิก ตม.6 ทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาอีก โดยด่านสะเดามีนักท่องเที่ยวเพิ่มมาเป็น 3 เท่า ตรงนี้เชื่อจะเป็นการส่งเสริมรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจได้ จึงได้สั่งการให้ รมว.ต่างประเทศและ รมว.การท่องเที่ยวฯ ยกเลิก ตม.6 ทุกด่านทั่วประเทศ”
สำหรับเอกสารใบ ตม.6 คือเอกสารของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ที่ให้กรอกข้อมูลการเดินทางเข้าและออกจากราชอาณาจักร เพื่อความปลอดภัยของตัวนักท่องเที่ยว และการติดตามคนเข้าเมืองเมื่อมีปัญหาต่างๆเกิดขี้น
นายกฯเศรษฐา กล่าวอีกว่า รัฐบาลจะต้องกลับไปพูดคุยส่งเสริมแหล่งเงินทุน ทั้งธนาคารไทยพาณิชย์และธนาคารอิสลาม เพื่อซัพพอร์ตเงินทุนไปพร้อมกับการส่งเสริม รวมทั้งขยายถนนทางหลวงสาย 410 ยะลา-เบตง และเจาะอุโมงค์ ทำให้การจราจรดีขึ้น อำนวยความสะดวกด้านการจราจร และในโอกาสใกล้ถึงเดือนรอมฎอน หรือถือศีลอดของพี่น้องมุสลิม ขออวยพรให้ทุกคนปฏิบัติศาสนกิจให้ลุล่วงไปด้วยดี