เปิดชื่อ 4 ผู้บาดเจ็บ พร้อม 1 ผู้เคราะห์ร้ายสังเวยชีวิตเหตุเพลิงไหม้ปั๊มน้ำมันในรามัน ยะลา ตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุที่แน่ชัด รอสอบพยานเพิ่ม ลุยส่งทีมเข้าเก็บหลักฐานอย่างละเอียด เผยนาทีระทึก ไฟลุกพรึ่บ เสียงระเบิดสนั่น
ความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้อย่างรุนแรง บริเวณปั้มน้ำมันขนาดเล็ก ชื่อว่า “อัสรี เซ็งแมดี" ตั้งอยู่เลขที่ 7 บ้านปงตา ริมถนนสายท่าเรือ-โกตาบารู หมู่ 5 ต.บือมัง อ.รามัน จ.ยะลา เหตุเกิดเมื่อกลางดึกคืนวันศุกร์ที่ 5 ม.ค.67 ขณะรถบรรทุกน้ำมันกำลังขนถ่ายน้ำมันลงแทงค์กักเก็บของปั๊ม แล้วเกิดประกายไฟ จนเกิดเพลิงไหม้ใหญ่ ทั้งรถบรรทุกและปั๊มน้ำมันวอดทั้งหมด เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถดับเพลิงทั้งอำเภอเข้าสกัดเพลิง และใช้เวลานานกว่า 5 ชั่วโมงจึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายรายนั้น
ต่อมาช่วงเช้าของวันเสาร์ที่ 6 ม.ค.67 “ทีมข่าวอิศรา” ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบบริเวณปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุ พบว่าเจ้าหน้าที่ได้เครื่องกีดขวางปิดกั้นโดยรอบปั๊ม เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าไปภายใน เพื่อความปลอดภัย
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โกตาบารู อ.รามัน นำกำลังพร้อมเจ้าหน้าที่ของกระทรวงพลังงาน, เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา เข้าตรวจสอบและเก็บหลักฐานอย่างละเอียด เบื้องต้นพบซากปรักหักพังของอาคาร รถยนต์ ทรัพย์สิน ได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด ยกเว้นบริเวณหัวจ่ายน้ำมันดีเซล และเบนซิน ที่ไม่ได้รับความเสียหาย เพราะอยู่ห่างจากจุดเพลิงไหม้ (จุดเกิดเหตุเป็นบริเวณแทงค์กักเก็บน้ำมัน)
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีรถบรรทุกน้ำมันไปเติมน้ำมันลงถังเก็บน้ำมันที่ปั๊ม ระหว่างนั้นเกิดประกายไฟ ทำให้เกิดเพลิงไหม้อย่างรุนแรง และมีเสียงระเบิดดังขึ้นหลังครั้ง ส่งผลให้อาคารสำนักงานภายในปั๊มน้ำมัน, รถยนต์ และทรัพย์สินอื่นๆ ได้รับความเสียหาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 ราย ขณะนี้รักษาตัวที่โรงพยาบาลรามัน
ทราบชื่อคือ น.ส.โรวีนา หะยีเจ๊ะเต๊ะ อายุ 24 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.บือมัง อ.รามัน จ.ยะลา, นายฮัมการี ดะเละห์ อายุ 41 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.ตะมะยูง อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส, นายสูวารี อีซอ อายุ 35 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.โละจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส และ นายรอสือลัน มะยูโซ๊ะ อายุ 40 ปี ยังไม่ทราบที่อยู่
นอกจากนั้นยังมีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายอนัตต์ โดแนระเซะ อายุ 32 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.โกตาบารู อ.รามัน
สอบถาม นายกอเซง ดอรอแมง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 บ้านปงตา ต.บือมัง ได้ความว่า หลังเกิดเหตุเพลิงไหม้ ได้ประสานรถดับเพลิงจากหน่วยงาน อบต.และเทศบาลใกล้เคียงเข้าระงับเหตุ แต่ด้วยเชื้อเพลิงเป็นน้ำมัน ทำให้การเข้าระงับเพลิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก และอีกอย่างคืออุปกรณ์ดับเพลิงต้องเป็นอุปกรณ์เฉพาะ เนื่องจากต้นเพลิงเป็นน้ำมัน จึงยิ่งทำให้การสกัดเพลิงเป็นไปอย่างล่าช้า ต้องฉีดโฟมเข้าไป จนเพลิงสงบได้ในที่สุด ใช้เวลานานหลายชั่วโมง
สำหรับปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุ ตั้งอยู่บนที่ดินของ นายอัสรี เซ็งแมดี แต่ได้ปล่อยให้ผู้อื่นเช่า ระยะเวลากว่า 6 เดือนแล้ว
เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุที่แน่ชัดที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้ โดยรอการสอบปากคำผู้บาดเจ็บอีก 4 รายที่อยู่ในเหตุการณ์ และเก็บหลักฐานตลอดจนสอบพยานแวดล้อมอย่างละเอียดอีกครั้ง