ตำรวจปะลุกาสาเมาะ นราธิวาส สกัดจับรถต้องสงสัยหลบหนีด่านตรวจ พบชายในรถ 5 คน แฉหนึ่งในนั้นคือ “อัซมัน เปาะเล๊าะ” ผู้ต้องหาคดีความมั่นคง 13 หมายจับ ทั้งเหตุซุ่มยิง วางระเบิด ค้นในรถมีสมุดจดความเคลื่อนไหวเจ้าหน้าที่ พร้อมธงสัญลักษณ์กลุ่มก่อเหตุรุนแรง
วันจันทร์ที่ 18 ก.ย.66 พ.อ.เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน. ภาค 4 สน.) เปิดเผยผลการจับกุมผู้ต้องหาคดีความมั่นคงในพื้นที่ จ.นราธิวาส ว่า เมื่อเวลา 13.20 น.ของวันอาทิตย์ที่ 17 ก.ย. ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส กำลังตั้งจุดตรวจบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 42 (ปัตตานี-นราธิวาส) บริเวณหน้า สภ.ปะลุกาสาเมาะ ปรากฏว่ามีรถยนต์เก๋ง จำนวน 1 คัน ผู้ขับขี่แสดงอาการพิรุธ ไม่ยอมขับเข้าจุดตรวจ แต่ได้กลับรถบริเวณกลางถนนและขับหลบหนี
เมื่อเห็นพฤติการณ์เช่นนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำกำลังออกติดตามสกัดจับ และสกัดรถต้องสงสัยเอาไว้ได้ในที่สุด ตรวจพบบุคคลภายในรถ เป็นชายจำนวน 5 คน ประกอบด้วย
1. นายซุฟยัน วาเต๊ะ อายุ 22 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.บ้านโหนด อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
2. นายอิบรอฮิม วาฮะ อายุ 41 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.เปียน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
3. นายซีฮาบุดดีน เปาะคะ อายุ 24 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.ปะลุกาสาเมาะ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส
4. นายซูฮัยมี วาเต๊ะ อายุ 25 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.บ้านโหนด อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา
5. นายอัซมัน เปาะเล๊าะ อายุ 28 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.ลำไพล อ.เทพา จ.สงขลา
จากการตรวจสอบประวัติทั้ง 5 คน เจ้าหน้าที่พบว่า นายอัซมัน เปาะเล๊าะ เป็นบุคคลตามหมายจับคดีความมั่นคงจำนวน 13 หมาย โดยคดีสำคัญๆ ก็เช่น ลอบวางระเบิดและซุ่มโจมตีเจ้าหน้าที่ อส. (อาสารักษาดินแดน) ปฏิบัติหน้าที่ชุดคุ้มครองครู ในพื้นที่ ต.ห้วยเต่า อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.62 ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 6 นาย
นอกจากนั้นยังมีส่วนในคดีลอบวางระเบิดชาวบ้านหาปลา และระเบิดซ้ำเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด (อีโอดี) เมื่อวันที่ 3 ก.พ.65 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสรวม 3 ราย, ก่อเหตุลอบวางระเบิดรางรถไฟ โจมตีขบวนรถขนส่งสินค้า หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ เมื่อวันที่ 3 ธ.ค.65 ทำให้ขบวนรถไฟตกราง ตู้สินค้าได้รับความเสียหายจำนวนมาก และวางระเบิดซ้ำทำให้เจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ที่เข้าไปกู้ซ่อมรางรถไฟ เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บ 4 ราย ทั้งยังยังมีหมายจับในคดีชิงทรัพย์อีก 5 หมายจับ
โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจค้นภายในรถยนต์ของคนร้าย พบหลักฐานการจดบันทึกจากการเฝ้าสังเกตุความเคลื่อนไหวของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งธงสัญลักษณ์ของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงจำนวนหนึ่ง จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยและผู้ต้องหาคดีความมั่นคง (นายอัชมัน) ไปยังศูนย์ซักถาม เพื่อขยายผลต่อไป
“ขอเรียนให้ทราบว่า ผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” พ.อ.เกียรติศักดิ์ ระบุ
ด้าน พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (ผอ.รมน.ภาค 4) ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติงานในศูนย์ซักถาม ปฏิบัติต่อบุคคลที่ถูกควบคุมตัวตามหลักกฎหมาย และตามหลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด โดยทุกขั้นตอนต้องมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และต้องไม่กระทำการอันใดอันเป็นการละเมิดต่อหลักสิทธิมนุษยชนเป็นอันขาด