รุ่นใหญ่ทำฮือฮา “อดีตประธานฯชวน” ลุกขึ้นอภิปรายแนะ “เศรษฐา” ใช้หลักนิติธรรมแก้ปัญหาชายแดนใต้ อย่าทำผิดซ้ำ “8 เม.ย.2544” ต้นเหตุความรุนแรงยืดเยื้อมาจนทุกวันนี้ ด้านนายกฯแจง 11 พรรคร่วมฯให้ความสำคัญแก้ปัญหาไฟใต้ อีกด้าน “รุ่นใหม่” ก็ไม่น้อยหน้า สส.นราฯ ภูมิใจไทย ขนลองกองตันหยงมัสพันกล่องแจกทั้งสภา
วันอังคารที่ 12 ก.ย.66 ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา วาระคณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
นายชวน หลีกภัย สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัย และอดีตประธานสภา 2 สมัย ได้ลุกขึ้นอภิปรายเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี เพราะในสภาชุดที่แล้ว นายชวน ทำหน้าที่ประธานสภา จึงไม่ได้อภิปรายเลย ทำได้เพียงควบคุมการประชุม
นายชวน อภิปรายตอนหนึ่ง โดยเรียกร้องให้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลพรรคเพื่อไทย อย่าเลือกปฏิบัติกับคนใต้เหมือนในอดีตที่ผ่านมา พร้อมกล่าวถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลที่ประกาศจะสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในสังคมว่า จะเกิดได้เมื่อประชาชนได้รับการปฏิบัติโดยเสมอกัน
“จึงขอให้รัฐบาลรักษาหลักนิติธรรม และมีธรรมาภิบาล ไม่เลือกปฏิบัติ อย่าละเลยจนซ้ำรอยเหตุการณ์ในอดีต และมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก จากจุดเริ่มต้นการละเมิดหลักนิติธรรมเพื่อแก้ปัญหาภาคใต้ จากการจัดการผู้ร้าย เมื่อวันที่ 8 เม.ย.2544 จนเกิดเหตุความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เกิดการปล้นอาวุธสงครามจากค่ายทหาร จากการใช้นโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาลในขณะนั้น” นายชวน อภิปรายตอนหนึ่ง
@@ รู้จักนโยบาย 8 เม.ย.2544 “เก็บ - ฆ่าทิ้ง”
เกี่ยวกับนโยบาย 8 เม.ย.2544 นั้น นายชวนเคยพูดเอาไว้เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร เนื่องในโอกาสครอบรอบ 90 ปีรัฐสภาไทย เมื่อปี 65 โดยระบุตอนหนึ่งว่า ปัญหาภาคใต้เกิดเป็นวิกฤติและมีผลจนทุกวันนี้ จากความผิดพลาดของฝ่ายบริหารที่มาจากระบบการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย แต่ไม่ยึดหลักประชาธิปไตยในการบริหาร ไปใช้หลักนอกนิติธรรม ใช้วิธีการนอกกฎหมาย คือ นโยบาย 8 เม.ย.2544 เป็นวันที่เริ่มเกิดวิกฤติชายแดนภาคใต้ นโยบายเก็บ ฆ่าทิ้ง โดยสันนิษฐานว่า พื้นที่ชายแดนภาคใต้มี ขจก. (ขบวนการโจรก่อการร้าย) ไม่เกิน 50-60 คน เป็นพวกโจรกระจอก แล้วก็จัดการเสีย มีจำนวนแค่นี้ จัดการแค่เดือนละ 20 คน 3 เดือนก็หมด
“ผมถือว่าเป็นวิกฤติใน 90 ปี ไม่เคยต้องสูญเสียอย่างนี้ ถัวเฉลี่ยคนที่เสียชีวิตไปแล้วในขณะนี้ไม่น้อยกว่า 5-6 พันคน ต่อเนื่องจนทุกวันนี้ พอนโยบาย 8 เม.ย.2544 ออกมาว่า จะแก้ปัญหาหมดภายใน 3 เดือน ด้วยวิธีเก็บเดือนละ 20 คน จึงเป็นเงื่อนไขอันเป็นที่มาของทุกวันนี้ นี่คือช่วงหนึ่งในรอบ 90 ปีที่ไม่มีครั้งใดสูญเสียมากเท่าเหตุการณ์ครั้งนี้ ถ้ามองในความมั่นคงของบ้านเมือง ความมั่นคงของภาคใต้ ส่วนหนึ่งก็คืออันนี้”
นายชวน กล่าวอีกว่า นโยบายพวกนี้ก่อให้เกิดการก่อตัวของคนกลุ่มหนึ่งขึ้นมา คือ กลุ่มมุสลิมรุ่นใหม่ ตั้งองค์กรเรียกว่า RKK แล้วปล้นปืน ถ้าเราศึกษาเรื่องนี้ วันที่ 8 เม.ย.2544 เริ่มนโยบายเก็บ, 3 ปีต่อมา 4 ม.ค.2547 คือการปล้นปืนที่ค่ายปิเหล็ง ปืนทั้ง 417 กระบอก คนร้ายเอาไปคืนเดียว ทหารตาย 4-5 คน นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วมีผลมาถึงทุกวันนี้
@@ นายกฯ แจง 11 พรรคร่วมให้ความสำคัญแก้ปัญหาใต้
ภายหลังการอภิปรายของนายชวน ปรากฏว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลุกขึ้นชี้แจง และขอบคุณนายชวนที่ให้เกียรติชี้แนะในฐานะอดีตนายกฯและอดีตประธานสภา
นายเศรษฐา กล่าวตอนหนึ่งเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ตนเองทราบถึงปัญหาที่ประชาชนเผชิญอยู่ ซึ่ง 7,500 กว่าชีวิตได้สูญเสียไป 20 กว่าปีที่ผ่านมา เป็นเรื่องที่ตนเองก็เศร้าใจ ตั้งแต่ก่อนเข้าสู่สนามการเมือง อย่าว่าแต่ 7,500 ชีวิตที่ไม่ควรจะสูญเสีย จริงๆ แล้ว 1 ชีวิตก็มากเกินไป
“เราเห็นตรงกันว่าความสูญเสียไม่ควรจะเกิดขึ้น ส่วนวิธีการเข้าถึงปัญหาและความลึกของปัญหาอาจจะต่างกัน หรือวิธีการที่เราจะนำไปปฏิบัติต่อไปในอนาคต ผมมั่นใจว่ารัฐบาลที่มาจากประชาชน โดยพรรคร่วมฯ 11 พรรค เราให้ความสำคัญกับสงบสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจ การเลือกปฏิบัติก็เป็นเรื่องถกเถียงกันมานาน”
@@ ใกล้ครบ 20 ปีไฟใต้ ตาย 5,868 ราย เยียวยา 4.2 พันล้าน
สำหรับสถิติความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งแต่ปี 2547 ถึงปี 2566 (31 ส.ค.66) จากข้อมูลที่เก็บรวบรวมโดยศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ซึ่งเป็นข้อมูลทางการ พิจารณาจากการจ่ายเงินเยียวยาตามการวินิจฉัยของเจ้าหน้าที่รัฐ 3 ฝ่ายที่สรุปตรงกันว่าเป็นผลจากสถานการณ์ความไม่สงบจริงๆ ปรากฏว่ายอดผู้สูญเสียมีไม่ถึง 7,500 รายตามที่นายกฯกล่าวในสภา
โดยข้อมูลของ ศอ.บต.ระบุว่า เหตุการณ์ทั้งหมดและที่ผ่านการรับรองจากเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย มีเหตุการณ์เกิดขึ้นทั้งหมด 9,657 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต ทั้งหมด 5,868 คน แยกเป็นเจ้าหน้าที่ภาครัฐ 2,251 ราย ประชาชน 3,617 ราย
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 12,657 ราย แยกเป็นเจ้าหน้าที่ภาครัฐ 6,330 ราย ประชาชน 6,327 ราย ในจำนวนนี้พิการ ทุพพลภาพ 887 ราย แยกเป็นเจ้าหน้าที่ภาครัฐ 423 ราย ประชาชน 464 ราย
รวมความสูญเสียทางด้านร่างกาย จำนวน 19,412 ราย ศอ.บต.ใช้งบประมาณในการเยียวยาทางด้านร่างกายไปทั้งหมด 3,358,627,743 ล้านบาท และยังมีทรัพย์สิน บ้าน อาคาร พืชผลของประชาชน สูญเสีย จำนวน 5,604 ราย ใช้งบประมาณเยียวยาด้านทรัพย์สินไปทั้งหมด 919,768,531 ล้านบาท รวมงบประมาณในการช่วยเหลือเยียวยาทั้งสิ้น 4,278,396,274 ล้านบาท
@@ ฮือฮา สส.นราฯ ภูมิใจไทย ขนลองกอง 10 ตันแจกทั้งสภา
ในการประชุมสภาวันที่ 12 ก.ย. มีเหตุการณ์ที่สร้างความประทับใจและเรียกสร้างเสียงฮือฮาไปทั้งสภา เมื่อ นายซาการียา สะอิ สส.นราธิวาส หนึ่งเดียวในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ของพรรคภูมิใจไทย ได้ขนลองกองตันหยงมัส จำนวน 1,000 กล่อง น้ำหนักกว่า 10 ตัน ไปมอบให้ สส. สว. และเจ้าหน้าที่รัฐสภา ได้ชิมลองกองจากพื้นที่ต้นกำเนิด
นายภานุ อุทัยรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา อดีตเลขาธิการ ศอ.บต.คนแรก กล่าวว่า ที่รัฐสภาในช่วงเช้า เป็นที่น่าชื่นชม ท่าน สส.ดร.ซาการียา สะอิ จากนราธิวาส พรรคภูมิใจไทย ได้นำลองกองตันหยงมัสแท้ จำนวน 1,000 กล่อง น้ำหนัก 10 ตัน ขนมาจาก ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส มาแจกจ่ายให้กับบรรดา สส. สว. และเจ้าหน้าที่ของสภา ซึ่งทุกคนก็ดีใจและมีความมั่นใจที่ได้รับมอบลองกองจากตันหยงมัสแท้ๆ จาก สส.ตันหยงมัส หรือ สส.นราธิวาส อันนี้ต้องขอชื่นชม