ประเด็น “ประชามติแยกดินแดน” ไม่จบง่าย แม้หลายฝ่ายจะออกมาพยายามทำความเข้าใจว่า กิจกรรมของ “ขบวนนักศึกษาแห่งชาติ” และการจัดสัมนาเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.66 เป็นเวทีเชิงวิชาการ และอยู่ในกรอบการแสดงออกเพื่อสิทธิเสรีภาพ โดยมีเป้าหมายเพื่อสันติสุขของพื้นที่
แต่ฝ่ายความมั่นคงดูจะไม่คิดแบบนั้น เพราะข้อมูลเชิงลึกจากหน่วยงานที่รับผิดชอบพื้นที่ล่าสุด คือ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ซึ่งทำหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐาน และหารือกับฝ่ายกฎหมายเพื่อเตรียมดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องการจัดงาน “ประชามติเอกราชปาตานี” นั้น
ปรากฏว่า กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า สรุปแล้ว มีหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินคดี ทั้งในส่วนของบุคคล และกลุ่มการเมืองบางกลุ่มที่พยายามเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ โดยสัปดาห์หน้าจะเร่งแจ้งความดำเนินคดีอาญากับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมทั้งฝ่ายการเมืองด้วย
@@ รองแม่ทัพ4 บอกใจเย็นๆ ฟันอาญาแน่
พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะโฆษกกองทัพภาคที่ 4 ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าของเรื่องนี้ว่า ฝ่ายความมั่นคงจับตากลุ่มที่มีเป้าหมาย “แยกดินแดน” มาโดยตลอด โดยเฉพาะกลุ่มที่เคลื่อนไหวทางการเมือง ใช้ช่องทางการทำประชามติเพื่อแยกดินแดน ตั้งรัฐเอกราชขึ้นใหม่
จริงๆ แล้วกลุ่มเหล่านี้มีความเคลื่อนไหวมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เพิ่งมี แต่บางครั้งสังคมก็มองภายนอกว่าเป็นการเคลื่อนไหวด้วยความรุนแรง ด้วยการลอบยิง ลอบวางระเบิด แต่ในอีกด้านหนึ่งที่สังคมมองไม่เห็น ที่เหมือนเป็นภูเขาน้ำแข็ง ก็คือเรื่องของการต่อสู้ทางการเมือง การต่อสู้ทางความคิด สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่เขาพยายามต่อสู้เพื่อบรรลุเป้าหมาย โดยระดับยุทธศาสตร์ก็คือเป้าหมายการแบ่งแยกดินแดน
ฉะนั้น กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า จึงต้องใช้มาตรการทางกฎหมาย และจำเป็นจะต้องเข้าดำเนินการทางกฎหมายต่อทุกพฤติกรรม ทุกการกระทำที่พบเข้าข่ายผิดกฎหมาย โดยไม่ละเว้น
ขณะนี้สังคมค่อนข้างกดดันว่าทำไม กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าไม่ดำเนินคดีเสียที ขอชี้แจงว่าต้องใจเย็นๆ ก่อน ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่เราตระหนักทุกขั้นตอน ด้วยความระมัดระวังและรอบคอบ ซึ่งขณะนี้ในพื้นที่เราได้ตั้งคณะกรรมการทางด้านกฎหมายขึ้นมาตั้งแต่เกิดเหตุ และจะดำเนินการแน่นอน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน พาดพิงไปถึงบุคคลใด หรือกลุ่มบุคคลใด ก็คงเป็นสิ่งที่ภาครัฐไม่สามารถที่จะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้ พาดพิงถึงใครก็คงดำเนินการทั้งหมด
@@ ขีดเส้นปี 70 ไฟใต้ดับ
วันเดียวกัน ณ ที่ทำการพรรคไทยสร้างไทย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ว่าที่ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวภายหลังร่วมประชุมคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ถึงการประชุมคณะทำงานย่อย แก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อวันจันทร์ที่ 19 มิ.ย.66 ที่ผ่านมาว่า ได้มีการพูดคุยเรื่องโรดแมปที่จะนำไปสู่การสร้างสันติภาพ ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะมีการพูดคุยกันถึงเรื่องเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
จากนั้นจะมีการลงพื้นที่เพื่อรับความเห็นจากหน่วยงานความมั่นคง ภาคประชาชนทั้งไทยพุทธ มุสลิม กลุ่มเปราะบาง และเยาวชน ซึ่งทั้ง “8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล” ได้พูดคุยเรื่องเสถียรภาพของประชาชน เพราะที่ผ่านมาประชาชนไม่ค่อยมีเสถียรภาพ ทั้งเรื่องอยู่ดีมีสุข มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีรายได้ที่มั่นคง ที่สำคัญเราจะสร้างมิตรภาพให้เกิดขึ้น พร้อมวางแผนไว้ว่าถ้าทุกฝ่ายร่วมมือกัน ปี 2570 เราจะสร้างสันติภาพและสันติสุขอย่างยั่งยืนให้เกิดขึ้น
@@ ฉะพวกใส่ร้าย "วันนอร์" - เคยนั่ง มท.1 ไม่คิดแยกใต้
พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า ในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ นายวันมูหมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ จะชี้แจงกรณีที่พรรคประชาชาติถูกพาดพิง
“เรื่องการแบ่งแยกดินแดนทำไม่ได้อยู่แล้ว เพราะอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญที่ไม่สามารถทำได้ โดยเฉพาะพรรคประชาชาติมีสมาชิกไม่ใช่แค่ 3 จังหวัด แต่มีสมาชิกทั้งประเทศกว่า 2 หมื่นคน ซึ่งการไปพาดพิงนายวันมูหมัดนอร์ และด้อยค่าให้อยู่แค่ 3 จังหวัด ทั้งที่เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ดูแลทุกจังหวัดทั่วประเทศ พร้อมยืนยันว่า คนในพรรคประชาชาติไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำประชามติแบ่งแยกดินแดนของขบวนนักศึกษาแห่งชาติ เพียงแต่ไปบรรยายเนื่องจากเคยเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยนั้น ซึ่งไปบรรยายเรื่องเศรษฐกิจ และอยากให้ดูที่เนื้อหาการบรรยายด้วย” เลขาธิการพรรคประชาชาติ ระบุ
---------------------
ขอบคุณ : บทสัมภาษณ์ พล.ต.ปราโมทย์ โดย คุณโชฏิมา จันทร์คง ทีมตัวจริงสนามข่าว เนชั่นทีวี