รองแม่ทัพภาค4 เตรียมประสานผู้อำนวยความสะดวกมาเลเซีย ขอความชัดเจนหลัง “บีอาร์เอ็น” ออกแถลงการณ์ขอยุติการพูดคุยชั่วคราว อ้างรอรัฐบาลใหม่หลังเลือกตั้ง
พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 และกรรมการในคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวถึงสถานการณ์ของกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเดินหน้าต่อหรือไม่ อย่างไร ภายหลังหลังกลุ่มบีอาร์เอ็น ซึ่งเป็นกลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐบนโต๊ะพูดคุยฯ ออกแถลงการณ์ขอยุติการพูดคุยชั่วคราว เพื่อรอรัฐบาลใหม่หลังเลือกตั้ง
พล.ต.ปราโมทย์ กล่าวว่า กระบวนการพูดคุยฯ ยังเดินหน้าต่อโดยยึดมั่นในกรอบข้อตกลงที่เคยมีร่วมกัน และรอความชัดเจนจากผู้อำนวยความสะดวกมาเลเซีย(ผอคส. ; ตันศีรี ซุลกิฟลี ไซนัล อะบิดิน อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุดของมาเลเซีย) ที่เป็นคนประสานการพูดคุยของทั้งสองฝ่าย
“แนวทางการทำงานของคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ ที่มี พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ เป็นหัวหน้าคณะ ยังเดินหน้าตามกรอบข้อตกลง JCPP (JOINT COMPREHENSIVE PLAN TOWARDS PEACE) ที่ทั้งสองฝ่ายมีร่วมกัน ซึ่งภายใต้กรอบนี้ ทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันขับเคลื่อนสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ สร้างบรรยากาศสันติภาพ ยุติการใช้ความรุนแรง ตั้งแต่เดือน ก.ค.ปีนี้ จนถึงปลายปีหน้า ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมพูดคุยของคณะทำงานเทคนิคของทั้งสองฝ่าย เพื่อกำหนดรายละเอียดในการทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะการยุติความรุนแรงตามโรดแมปที่ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงร่วมกันระหว่างการพูดคุยเพื่อสันติสุขแบบเต็มคณะครั้งล่าสุดที่มาเลเซีย ช่วงกลางเดือน ก.พ.66 ที่ผ่านมา” พล.ต.ปราโมทย์ ยืนยัน
ส่วนแถลงการณ์ล่าสุดของบีอาร์เอ็นนั้น รองแม่ทัพภาคที่ 4 แย้งว่า “ไม่ควรไปอ้างเหตุจากการเลือกตั้งเป็นสาเหตุยุติการพูดคุย เนื่องจากเรื่องการพูดคุยสันติสุขถือเป็นวาระแห่งชาติ ถูกเขียนไว้ในแผนยุทธศาสตร์ของรัฐบาลในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาลก็ต้องดำเนินการพูดคุยต่อเนื่องต่อไป”
"ไม่ว่าสถานการณ์ทางการเมืองจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร กระบวนการพูดคุยสันติสุขยังคงเดินหน้าต่อไป และคณะพูดคุยสันติสุขของฝ่ายไทยได้มีการหารือครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 3 พ.ค. เตรียมการขับเคลื่อนในการพูดคุย เตรียมแถลงข่าวกับบสื่อมวลชนต่างประเทศในเรื่องการพูดคุย เตรียมทำเวิร์คชอปรับฟังความเห็นอดีตผู้อำนวยความสะดวกของประเทศที่สามารถแก้ไขปัญหาได้แล้ว และเตรียมการปฏิบัติในการหารือสาธารณะ โดยคณะพูดคุยฯฝ่ายไทยเรามีความพร้อมตลอดเวลาในการพูดคุย"
พล.ต.ปราโมทย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่บีอาร์เอ็นใช้วิธีออกแถลงการณ์ แทนที่จะแจ้งผ่านผู้อำนวยความสะดวกมาเลเซียว่า ต้องรอประสานกับทางผู้อำนวยความสะดวกฯให้มีความชัดเจนต่อท่าทีของบีอาร์เอ็น เพราะการสื่อสารตามที่ตกลงกันไว้คือสื่อสารผ่านผู้อำนวยความสะดวก
“หลังจากนี้เราก็จะเริ่มสื่อสารในสองทาง ทางตรงเลยคือพูดคุยกับผู้อำนวยความสะดวกมาเลเซีย ที่ท่านจะต้องประสานกับทางบีอาร์เอ็น เพื่อขับเคลื่อนให้เป็นไปตามไทม์ไลน์ที่ปรากฏใน JCPP ส่วนหนทางที่สอง คือสื่อสารตรงไปที่ขบวนการบีอาร์เอ็น เราต้องการยืนหยัดและเดินหน้าให้เป็นไปตามโรดแมปใน JCPP โดยไม่ต้องกังวลในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล เพราะไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาล กระบวนการพูดคุยก็ยังคงเดินหน้าต่อไป" รองแม่ทัพภาคที่ 4 ระบุ
@@ รู้จัก JCPP กับโต๊ะพูดคุยที่ BRN พยายามดึงเช็ง
อนึ่ง JCPP ที่มีการพูดถึง คือ “แผนปฏิบัติการร่วมเพื่อสร้างสันติสุขแบบองค์รวม” หรือ Joint Comprehensive Plan towards Peace ที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันเพื่อเป็นแนวทางขับเคลื่อนการพูดคุยให้คืบหน้าในรูปแบบที่ครอบคลุมและเป็นองค์รวม อีกทั้งมีกรอบเวลาที่ชัดเจนในการปฏิบัติตามเจตนารมณ์ของหลักการทั่วไปของกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้
โดย JCPP มีเนื้อหาสำคัญ 2 ส่วน คือ การลดความรุนแรงในพื้นที่ และการจัดการปรึกษาหารือกับประชาชนเพื่อนำไปสู่การแสวงหาทางออกทางการเมือง ซึ่งเป็นข้อตกลงร่วมกันจากการหารือแบบเต็มคณะของคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ ทั้งสองฝ่าย เมื่อวันที่ 21-22 ก.พ.66 ที่มาเลเซีย
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 3 พ.ค.66 บีอาร์เอ็นออกแถลงการณ์เรื่องการขอยุติการพูดคุยชั่วคราว โดยอ้างว่าประเทศไทยกำลังมีการเลือกตั้งทั่วไป จึงขอรอรัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้งขับเคลื่อนกระบวนการพูดคุย
เป็นที่น่าสังเกตว่า บีอาร์เอ็นมีเจตนาดึงเรื่องการพูดคุยฯมาก่อนหน้านี้แล้ว เพราะมีการยกเลิกคณะทำงานเทคนิค ที่นัดพบปะกันช่วงกลางเดือน มี.ค.66 เพื่อหารือในรายละเอียดภายใต้กรอบ JCPP โดยอ้างเหตุผลว่า ฝ่ายกองกำลังของไทยเปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้น และวิสามัญฆาตกรรมผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคง ในช่วงที่มีการพูดคุยแบบเต็มคณะ เมื่อวันที่ 21-22 ก.พ. ซึ่งถือว่ารัฐบาลไทยไม่มีความจริงใจในการลดความรุนแรง
อย่างไรก็ดี มีข่าวบางกระแสระบุว่า บีอาร์เอ็นมีปัญหาภายในเกี่ยวกับตัวบุคคลที่ร่วมโต๊ะพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ อาจมีการเปลี่ยนตัวแกนนำบางคน หรือหัวหน้าคณะพูดคุยฝ่ายบีอาร์เอ็น จึงพยายามเลื่อนการพูดคุยออกไปก่อน
@@ ยิงหน้าปั๊ม ปตท.ยะลา เด็ก 14 บาดเจ็บ
สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยเมื่อ 00.18 น.วันอาทิตย์ที่ 7 พ.ค.66 เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงบริเวณหน้าสถานีบริการน้ำมัน ปตท. (ปั๊ม ปตท.) ในย่านมาลายูบางกอก ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 410 ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา ทำให้เยาวชนชายอายุ 14 ปี ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้นตำรวจกำลังหาสาเหตุของการใช้อาวุธปืนครั้งนี้