ป.ป.ช.นราธิวาส จับมือหลายหน่วยงาน ตรวจแนวเขตคลองตันหยงมัส - คลองบองอ อ.ระแงะ 6 จุด พบมีร่องรอยลักลอบดูดทรายในลำน้ำ 3 จุด ทำสายน้ำเปลี่ยนทิศ ตลิ่งพัง กระทบระบบนิเวศน์ สั่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมารับโทษตามกฎหมาย เผยทั้งจังหวัดมีผู้ยื่นขออนุญาตดูดทรายถูกต้องแค่ 5 ราย
เมื่อเวลา 09.30 น.วันพุธที่ 3 พ.ค.66 นายสุวัฒน์ เสาวรัญ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยพนักงานเจ้าหน้าที่สนธิกำลังร่วมกับหลายฝ่าย ประกอบด้วย สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนราธิวาส, สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนราธิวาส, สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขานราธิวาส, สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 สาขานราธิวาส, หน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ นธ.3 (ระแงะ-จะแนะ), สำนักงานที่ดินจังหวัดนราธิวาส, ฝ่ายปกครอง อ.ระแงะ จ.นราธิวาส และเครือข่ายภาคประชาชนชมรม STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริต จ.นราธิวาส ร่วมกันเข้าตรวจสอบสังเกตการณ์การลักลอบดูดทรายในลำน้ำตลอดแนวเขตคลองตันหยงมัส ต.ตันหยงมัส และคลองบองอ ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส รวม 6 จุด
จากการเข้าตรวจสอบพื้นที่พบบางจุดมีร่องรอยการลักลอบดูดทรายในลำน้ำ และบางจุดเป็นบ่อทรายเก่าที่หยุดดำเนินการแล้ว ดังนี้
จุดแรกบริเวณ หมู่ 5 บ้านลาไม ต.บองอ ซึ่งเป็นเขตรอยต่อกับ หมู่ 1 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส พบร่องรอยมีลักษณะเป็นการดูดทรายในลำน้ำสาธารณะ โดยมีการถมดินเป็นถนนเข้าไปในลำน้ำเพื่อดูดตักทราย จนทำให้ทางเดินของน้ำในลำน้ำมีการเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ตลิ่งฝั่งตรงข้ามรพังทลาย ในขณะเข้าตรวจสอบไม่พบตัวผู้กระทำการและเครื่องจักรที่ใช้ในการดำเนินการ ซึ่งคาดว่าได้เคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ก่อนที่จะมีการเข้าตรวจสอบแล้ว
จุดที่ 2 มีระยะทางห่างออกไปจากจุดแรกประมาณ 500 เมตร บริเวณทางเข้ามีรั้วปิดกั้นใส่กุญแจล็อกอย่างแน่นหนา ทางคณะจึงไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้เนื่องจากเป็นที่ดินเอกชน แต่มีข้อสังเกตว่าที่ดินแปลงที่มีรั้วปิดกั้นไว้นั้น ข้อมูลจากแผนที่ดาวเทียมพบว่ามีแนวเขตติดกับลำน้ำ ซึ่งมีลักษณะอาจจะมีการดูดตักทรายก็เป็นได้ จึงได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
จุดที่ 3 ห่างจากโรงเรียนบ้านลาไมออกไปประมาณ 1 กิโลเมตร พบมีร่องรอยของการดูดตักทรายในบริเวณลำน้ำอีกเช่นเดียวกัน บริเวณดังกล่าวสังเกตเห็นได้จากถนนที่กำลังก่อสร้าง เมื่อเดินทางเข้าตรวจสอบพบว่า ถนนสายดังกล่าวมีการก่อสร้างสะพานข้ามลำน้ำอยู่ จึงไม่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ที่เป็นปัญหาได้ จึงได้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
จุดที่ 4 บริเวณบ้านบือแนกูวะ ต.บองอ และจุดที่ 5 บริเวณบ้านกำปงบารู ต.ตันหยงมัส ไม่พบมีการดูดตักทรายในลำน้ำ
ส่วนจุดที่ 6 ในพื้นที่บริเวณบ้านซ่อน หมู่ 2 ต.ตันหยงมัส จุดดังกล่าวมีการปิดกั้นทางเข้าเป็นท่อซีเมนต์ จำนวน 3 ท่อน ทางคณะจึงได้เดินเท้าเข้าไปประมาณ 500 เมตร พบว่า สุดปลายทางของถนนจดลำน้ำคลองตันหยงมัส พบร่อยรอยมีการดูดตัดทรายในพื้นที่ติดลำน้ำเป็นบริเวณกว้าง และยังพบอีกว่า มีการตักดินขึ้นมาทำเป็นเขื่อนเพื่อดักทรายให้เข้ามาในบริเวณพื้นที่ติดลำน้ำ และบางจุดของลำน้ำ มีการพังทลายของตลิ่งอันเนื่องมาจากการดูดตักทราย ในขณะเข้าตรวจสอบไม่พบตัวผู้กระทำการและเครื่องจักรที่ใช้ในการดำเนินการ ซึ่งคาดว่า ได้เคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ก่อนที่จะมีการเข้าตรวจสอบแล้ว
จากการเข้าตรวจสอบและพบจุดที่มีร่องรอยการดูดตักทรายในบริเวณลำน้ำ ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการเก็บข้อมูลและพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ผู้ที่ประสงค์จะดูดตักทรายในลำน้ำสาธารณะจะต้องดำเนินการยื่นขออนุญาตดูดทรายในลำน้ำสาธารณะตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน และจะต้องได้รับอนุญาตก่อนจึงจะดำเนินการได้ หากฝ่าฝืนถือเป็นความผิดและมีโทษตามกฎหมาย เนื่องจากการดูดตักทรายในลำน้ำสาธารณะที่ผลกระทบต่อระบบทางเดินน้ำและการพังทลายของตลิ่ง อันจะสร้างความเสียหายต่อส่วนรวม โดยจากข้อมูลจังหวัดนราธิวาส มีผู้ยื่นขออนุญาตถูกต้องเพียง 5 รายเท่านั้น
สำหรับกิจกรรมการลงพื้นที่ตรวจสังเกตการณ์ดังกล่าว เป็นกิจกรรมการประสานงานและติดตามการดำเนินการตามแนวทางต้านและลดการทุจริต ด้วยกลไกสหยุทธ์ในระดับพื้นที่ ตามโครงการต้านทุจริตด้วยกลไกสหยุทธ์ เฉพาะกรณีพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริต (STRONG Together against Corruption – TaC) แผนงานพัฒนาแนวทางต่อต้านและลดทุจริต กรณีพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริต การลักลอบดูดทรายโดยไม่ได้รับอนุญาต
สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดนราธิวาส ในฐานะหน่วยตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ จึงได้ให้คำแนะนำและกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่และหมั่นตรวจตราดูแลรักษาพื้นที่อยู่เป็นระยะๆ เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบดูดทรายโดยไม่ได้รับอนุญาต และหากพบเห็นการดูดทรายในลำน้ำสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเคร่งครัด และหากประชาชนพบเห็นการดูดตักทรายในลำน้ำสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต สามารถแจ้งข้อมูลหรือเบาะแสให้กับสำนักงานป.ป.ช.ประจำจังหวัด หรือสำนักงาน ป.ป.ช. ได้ทุกช่องทาง