ประชาชาติอ่วม ผู้สมัคร ส.ส.ถูกตัดสิทธิ 4 คน 4 เขต ทั้งสตูล-สงขลา อ้างเหตุตัวแทนพรรคประจำจังหวัดหมดวาระ ทำไพรมารี่ โหวต ไม่สมบูรณ์ ด้าน “วันนอร์-ทวี” ประสานเสียงโต้ แจ้ง กกต.ก่อนแล้ว “เลขาฯแสวง” ตอบหนังสือรับรอง ลุยร้องศาลฎีกา มั่นใจได้สิทธิคืน เผยชาวบ้านร้องไห้เสียดายคนดี แถมโพลนำโด่ง
จากกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสงขลา (กกต.สงขลา) ได้ประกาศรายชื่อ 8 ผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตที่ถูกตัดสิทธิการสมัคร เนื่องจากตรวจสอบพบว่าขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้าม แต่ผู้สมัครยังสามารถไปยื่นคัดค้านต่อศาลฎีกาได้ภายใน 7 วันหลังจากวันที่ กกต.จังหวัดประกาศรายชื่อ เพื่อให้ศาลฎีกาพิจารณาคำร้องให้เสร็จก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 3 วัน
โดย 2 ใน 8 ผู้สมัครที่ถูก กกต.ตัดสิทธิ คือผู้สมัครของพรรคประชาชาติ ได้แก่ นายอับดุลเราะมัน มอลอ ผู้สมัครเขต 7 และ นายมังโสด หมะเต๊ะ ผู้สมัครเขต 8 สงขลา ซึ่งทาง กกต.จังหวัดอ้างเหตุผลว่า ไม่มีตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด หรือครบวาระ และข้อบังคับพรรคมิได้ให้อยู่ปฏิบัติหน้าที่ จึงถือว่ากระบวนการทำไพรมารี่ โหวต เพื่อส่งผู้สมัครไม่ครบถ้วนตามกฎหมายนั้น
ล่าสุดวันเสาร์ที่ 15 เม.ย.66 นายอับดุลเราะมัน มอลอ หรือ “อาจารย์เบ็น” ผู้สมัคร ส.ส.เขต 7 สงขลา พรรคประชาชาติ และ นายมังโสด หมะเต๊ะ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 8 สงขลา พรรคเดียวกัน ได้ไปยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง เพื่อขอให้ศาลยกเลิกคำสั่งของ กกต. โดยยืนยันว่าได้ดำเนินการถูกต้องตามกฏหมายครบถ้วนทุกประการ ไม่ได้เป็นไปตามที่ กกต.แจ้งมา
@@ กางข้อบังคับพรรค ยืนยันทำไพรมารี่ โหวต ถูกต้อง
ทั้งนี้ ตามข้อบังคับพรรคประชาชาติ พ.ศ.2561 ข้อ 14 กำหนดว่า "คณะกรรมการบริหารพรรคมีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้...
(10) เลิกพรรคการเมือง สาขาพรรคการเมือง และตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด
(12) แต่งตั้งและถอดถอนผู้ปฏิบัติงานของพรรคในกิจการต่างๆ ของพรรค และคณะทำงานเฉพาะกิจทั้งในส่วนกลางและส่วนสาขาพรรค
เมื่อพิจารณาประกอบข้อบังคับฯ ข้อ 30 (4) ความเป็นตัวแทนพรรคประจำจังหวัดสิ้นสุดเมื่อ หัวหน้าพรรคโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารพรรคสั่งให้ออกจากการเป็นตัวแทนพรรคประจำจังหวัด
จากกรณีดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า สถานภาพของตัวแทนประจำจังหวัดของ นายอับดุลเราะมัน มอลอ และ นายมัวโสด หมะเต๊ะ ยังคงดำรงอยู่ เนื่องจากคณะกรรมการบริหารพรรคยังไม่เคยมีมติให้เลิกตัวแทนพรรคประจำจังหวัดสงขลา ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาชาติได้มีมติให้ตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด และหัวหน้าสาขาพรรคการเมืองที่ครบวาระ รักษาการแทนไปก่อนจนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ ตามข้อบังคับพรรคประชาชาติ พ.ศ.2561 ข้อ 14(12) ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร วันที่ 7 มี.ค.66
ทำให้พรรคประชาชาติสามารถที่จะให้ตัวแทนประจำจังหวัดทำไพรมารี่โหวต ให้ความเห็นชอบผู้สมัครลงรับเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 50 และมาตรา 51 ได้ ฉะนั้นการลงสมัครรับเลือกตั้งของพรรคประชาชาติ เขตเลือกตั้งที่ 7 และเขตเลือกตั้งที่ 8 จ.สงขลา จึงเป็นการสมัครที่ถูกต้องตามกฎหมายการเลือกตั้งแล้ว
@@ “วันนอร์” ยันแจ้ง กกต.ก่อนแล้ว มั่นใจได้สิทธิ์คืน
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าวเรื่องนี้ว่า เป็นความเข้าใจผิดของ กกต.เอง ซึ่งทางพรรคได้ชี้แจงและอุทธรณ์ไปแล้ว รวมทั้งได้ยื่นฎีกาไปที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง เข้าใจว่าน่าจะได้สิทธิคืนมา
ประเด็นที่ กกต.ตั้งข้อหาบอกว่า พรรคประชาชาติใน จ.สตูล 2 เขตเลือกตั้ง และ จ.สงขลา เขต 7 เขต 8 ผู้แทนพรรคประจำจังหวัดหมดวาระก่อนที่จะมีการสรรหาตัวผู้สมัครเพื่อทำ ไพรมารี่ โหวต นั้น ข้อเท็จจริงทางพรรคได้ทำหนังสือไปสอบถาม กกต.แล้วว่า ผู้แทนพรรคประจำจังหวัดที่หมดวาระนั้น พรรคมีมติให้ปฏิบัติหน้าที่ไปก่อน จนกว่าจะมีการเลือกตั้งประธานและคณะกรรมการประจำจังหวัดใหม่ได้หรือไม่ ซึ่งข้อบังคับของพรรคประชาชาติก็ระบุไว้ชัดเจน แต่กกต.อาจจะไม่ได้ดูตรงนี้ว่า เราได้ทำหนังสือไปตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.66 ทั้ง 2 เขต และเขตอื่นด้วยว่า ผู้แทนพรรคประจำจังหวัดที่หมดวาระนั้น ได้มีการหารือแล้วว่าจะให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
ต่อมาในวันที่ 15 ก.พ.66 ทาง กกต.โดยเลขาธิการ กกต. ก็ได้ตอบมาว่า รับทราบตามที่พรรคประชาชาติแจ้งไป คือ ผู้แทนพรรคประจำจังหวัดหมดวาระ ให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป เพื่อความเข้าใจด้วยข้อกฎหมายและด้วยความสุจริตใจว่า การรักษาแทน ผู้แทนจังหวัดในสองจังหวัดนั้นมีผลสมบูรณ์แล้ว ขณะนี้พรรคก็ต้องสู้ในชั้นศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งต่อไป
“เราเข้าใจว่าข้อกฎหมาย ข้อคำสั่ งและข้อบังคับของพรรคและกฎหมายของ กกต.ก็มีความชัดเจน ซึ่งอันนี้ก็เปิดโอกาสให้มีการร้องศาลฎีกา และเข้าใจว่าเราน่าจะได้สิทธิ์คืนมา เพราะเราไม่ได้ปฏิบัติอะไรผิด” หัวหน้าพรรคประชาชาติ กล่าว
@@ “ทวี” บอก กม.ให้น้ำหนักข้อบังคับพรรค - กรรมการบริหาร
ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวว่า ขณะนี้เราได้ใช้สิทธิ์ทางศาล จึงจะไม่ไปวิจารณ์มาก
“ขอเรียนด้วยความบริสุทธิ์ใจว่า ทางพรรคมีความมั่นใจทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายว่า ผู้ทำ ไพรมารี่ โหวต ได้ทำอย่างถูกต้อง ประการสำคัญก็คือในรัฐธรรมนูญปี 60 และ พ.ร.ป.พรรคการเมือง เขาให้ความสำคัญในเรื่องการสมัครอยู่ 2 ส่วน ส่วนที่ 1 คือข้อบังคับพรรค ส่วนที่ 2 ก็คือกรรมการบริหารของพรรค ซึ่งทั้ง 2 ส่วนนั้น ถ้ามีกฎหมาย ถ้าหัวหน้าพรรคเซ็นไปแล้ว ถือว่าสมัครโดยชอบแล้ว”
@@ โพลนำโด่ง ชาวบ้านร้องไห้สงสารผู้สมัคร
พ.ต.อ.ทวี บอกด้วยว่า ได้คุยกับฝ่ายกฎหมายอาจจะขอให้ศาลวินิจฉัยข้อกฎหมายก่อน โดยเฉพาะผู้สมัคร ทางพรรคก็รู้สึกเห็นใจ และรู้สึกว่าเสียโอกาส
“ต้องเรียนโดยตรงว่าการทำโพลทั้ง 4 เขต ผู้สมัครของพรรคประชาชาติน่าจะมาถึง 3 คน ได้เป็น ส.ส.ถึง 3 คน ชาวบ้านก็ร้องไห้เยอะ ถามว่าทำไมเป็นอย่างนั้น ศาลที่สงขลามีความกรุณา ซึ่งในวันอังคารที่ 18 เม.ย.นี้จะขอไต่สวน ก็ถือว่าเร็ว” เลขาธิการพรรคประชาชาติ ระบุ