คนร้ายขว้างระเบิดไปป์บอมบ์ 2 ลูกใส่ฐานตำรวจ นปพ.ยะลา ระเบิดทำงานเกิดระเบิดแค่ 1 ลูก แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ ด้านผู้การยะลาสั่งทุก สภ.เตรียมความพร้อมเฝ้าระวังคนร้ายก่อเหตุ
จากเหตุการณ์คนร้ายขว้างระเบิดไปป์บอมบ์ใส่ฐานปฏิบัติการณ์ หมวดเฉพาะกิจหน่วยปฏิบัติการพิเศษยะลา 1 ( มว.นปพ.ยะลา 1)ตั้งอยูที่หมู่ 3 เส้นทางสายยะลา-วังพญา ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 24 ก.พ. 66
ในช่วงเช้าวันที่ 25 ก.พ.66 พล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปิยภัทร ทองพันเลิศกุล ผกก.สภ.เมืองยะลา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด ศรศึก-ศรชัย ตำรวจภูธรจังหวัดยะลา และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 นำกำลังเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ภายในฐานหมวดเฉพาะกิจหน่วยปฏิบัติการพิเศษยะลา 1
โดยจุดแรกเจ้าหน้าที่พบหลุมระเบิด ขนาด 1.5 X 60 เมตร บริเวณภายในฐาน ห่างจากรั้วด้านหลังของฐานประมาณ 3 เมตร แรงระเบิดทำให้เศษดินกระจายโดยรอบ ทำให้หลังคาสังกะสีห้องน้ำและผนังห้องน้ำได้รับความเสียหาย ส่วนจุดที่สอง เจ้าหน้าที่พบระเบิดไปป์บอมบ์อีก 1 ลูก ที่ยังไม่ทำงาน บริเวณหน้าเสาธง จึงได้ทำการเก็บกู้ระเบิดไปป์บอมบ์ดังกล่าว
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด EOD พบเป็นระเบิดแสวงเครื่องชนิดไปป์บอมบ์ ลูกกลม ห่อหุ้มด้วยโลหะผลิตขึ้นเอง น้ำหนัก 0.7–0.9 กก. ลักษณะการใช้งานดึงสลักแล้วขว้างเพื่อหวังผล เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุโดยละเอียด พร้อมทั้งพิสูจน์ทราบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ คนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้
จากการสอบสวนทราบว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุด นปพ.ยะลา 1 กำลังปฏิบัติหน้าที่ ได้ยินเสียงดังคล้ายสิ่งของขว้างมาจากด้านหลังฐานปฏิบัติการณ์ กระทบฝาห้องน้ำที่ตั้งอยู่ด้านหลัง แล้วตกลงเกิดระเบิดขึ้นเสียงดัง จากนั้นคนร้ายได้ขว้างระเบิดลูกที่ 2 หล่นมาตกลงที่ด้านหน้าเสาธง แต่ระเบิดไม่ทำงาน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า คนร้ายต้องการป่วนสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ เพื่อหวังผลทำร้ายเจ้าหน้าที่ แต่โชคดดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
ด้าน พล.ต.ต.เสกสันต์ ชูสังสฤษดิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้สั่งการไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจทุก สภ. และฐานปฏิบัติการในพื้นที่ี ให้เตรียมความพร้อมเต็มอัตรา ตรวจเข้มบุคคลต้องสงสัย รถยนต์ รถจักรยานยนต์ ที่เดินทางเข้าออกพื้นที่ เกรงว่าคนร้ายอาจจะฉวยโอกาสลักลอบเข้ามาก่อเหตุซ้ำ โดยย้ำให้ทุกชุดปฎิบัติการกระจายกำลัง ออกตรวจสอบพื้นที่ ที่เป็นจุดเสี่ยง ทั้งสถานที่ราชการ สวนสาธารณะ และเส้นทางต่างๆ และให้มีความระมัดระวังตนเองในการปฏิบัติหน้าที่ตลอดเวลา