ฮือฮา! จระเข้ยักษ์ยาวกว่า 4 เมตรโผล่ริมถนนตากใบ นราธิวาส พบหลุดจากบ่อเลี้ยงหลังฝนตกลมแรงทำต้นไม้หักใส่บ่อเสียหาย เจ้าหน้าที่เทศบาลและกู้ภัยใช้รถเครนช่วยจับตัวส่งกลับเจ้าของ
จากกรณีที่โลกโซเชียลฯได้มีการเผยแพร่ภาพ ขณะที่เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองตากใบ จ.นราธิวาส พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยร่วมเมืองตากใบ ได้ร่วมกันใช้รถบรรทุก 6 ล้อติดเครน เคลื่อนย้ายจระเข้เพศผู้ ซึ่งมีน้ำหนักประมาณ 200 กิโลกรัม อายุประมาณ 25 ปี มีความยาวกว่า 4 เมตร หลังจระเข้ตัวดังกล่าวได้โผล่ออกมานอนอยู่ริมถนนบ้านไร่ หมู่ 2 ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ เมื่อเวลา 10.00 น. วันพฤหัสบดีที่ 12 ม.ค.66 ซึ่งได้สร้างความฮือฮาให้กับประชาชนที่ใช้ยานพาหนะสัญจรผ่านไปมาบริเวณนั้น และหลังจากภาพจับจระเข้เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ ก็สร้างความสนอกสนใจและกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในพื้นที่
ล่าสุดวันศุกร์ที่ 13 ม.ค.66 ผู้สื่อข่าวได้ติดตามเรื่องนี้ ทำให้ทราบว่า เจ้าของจระเข้ตัวดังกล่าว คือ นายสมศักดิ์ ศรีสังข์ อยู่บ้านเลขที่ 4/2 หมู่ 2 ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ โดยจระเข้ตัวดังกล่าวเป็นจระเข้สายพันธุ์น้ำจืดที่นายสมศักดิ์เพาะเลี้ยงไว้เป็นพ่อพันธุ์ เพื่อผสมพันธุ์จระเข้ไว้ขาย โดยเลี้ยงจระเข้ในบ่อปูนซิเมนต์ รวม 5 ตัว
ส่วนจระเข้ตัวที่หลุดออกจากบ่อนั้น นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า เกิดจากในช่วงกลางคืนก่อนหน้านั้น มีฝนตกลงมาอย่างหนัก และมีลมกรรโชกแรง จนต้นไม้ที่ปลูกไว้ข้างบ่อหลังบ้านที่ใช้เป็นร่มเงาให้จระเข้ ถูกกระแสลมแรงพัดจนหักโค่นลงไปในบ่อ ทำให้บ่อปูนซิเมนต์ได้รับความเสียหาย แล้วจระเข้ตัวดังกล่าวได้คลานปีนขอบบ่อซิเมนต์ออกมา แล้วคลานไปที่บริเวณนอกรั้วกำแพงด้านหน้าของบ้านที่มีพงหญ้ารกทึบริมถนน
“เมื่อผมตื่นขึ้นมาตอนเช้า เห็นต้นไม้หักโค่นลงในบ่อ จึงได้เดินสำรวจพบว่า จระเข้ที่เลี้ยงไว้หายไป จึงได้เดินตระเวนดูรอบบ้านและพบว่า จระเข้นอนซุกอยู่ในพงหญ้ารกทึบริมถนน จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมเมืองตากใบ เพื่อขอความช่วยเหลือ”
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ด้วยความที่เป็นจระเข้ขนาดใหญ่ จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองตากใบ เพื่อขอสนับสนุนรถเครนมาทำการเคลื่อนย้าย ก่อนที่จะนำจระเข้ไปไว้ที่บริเวณบ่อเลี้ยงตามเดิม
ต่อมา นายสำรอง อินเอก หัวหน้ากลุ่มบริหารจัดการด้านประมง จ.นราธิวาส หลังจากที่ทราบข่าวจระเข้หลุดจากบ่อเลี้ยง จึงได้เดินทางไปยังบ้านของนายสมศักดิ์ เพื่อแนะนำวิธีการเลี้ยงและป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องซ้ำรอย ทำให้ทราบว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัยที่ทำให้จระเข้หลุดออกมาจากบ่อเลี้ยง ทั้งนี้ยังทราบว่า นายสมศักดิ์มีประสบการณ์เลี้ยงจระเข้มานานหลายสิบปี
@@ ตำนานจระเข้เจ้าที่เมืองนราฯ
สำหรับการพบเหตุจระเข้ในพื้นที่ จ.นราธิวาส เมื่อช่วงปี 2562 และปี 2563 ก็เคยมีประชาชนพบเห็นจระเข้ขนาดใหญ่ 3-4 เมตร โผล่ในน้ำทะเลบริเวณชายหาดอ่าวมะนาว จนทำให้เจ้าหน้าที่มีการเฝ้าระวังและห้ามผู้คนลงไปเล่นน้ำ โดยจระเข้ตัวดังกล่าวอาศัยได้ทั้งในน้ำจืดและน้ำเค็ม เพราะแหล่งน้ำธรรมชาติในพื้นที่ จ.นราธิวาส ส่วนใหญ่เป็นน้ำกร่อย
นราธิวาสเป็นจังหวัดที่มีแหล่งน้ำมาก จึงทำให้ชาวบ้านมักจะพบเห็นจระเข้อยู่บ่อยๆ โดยชาวบ้านบางส่วนเชื่อว่าเป็น “จระเข้เจ้าที่” ซึ่งปรากฎตัวให้เห็นตามลุ่มน้ำต่างๆ ทั้งลุ่มน้ำตากใบ ลุ่มน้ำโก-ลก ลุ่มน้ำบางนรา หรือแม้กระทั่งคลองยะกัง ในเขต อ.เมืองนราธิวาส
จากที่มีการพบเห็นจระเข้บ่อยทำให้กรมประมงถึงขนาดต้องส่ง “ทีมไกรทอง” จากลุ่มน้ำตาปี จ.สุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่มาตามจับจระเข้ เนื่องจากเกรงว่า หากปล่อยไว้อาจจะทำร้ายชาวบ้านได้
โดยมีเรื่องเล่ากันว่า ในช่วงที่ “ทีมไกรทอง” ไปตามล่าจระเข้ ได้แวะดื่มน้ำชาและได้มีการพูดคุยกันเกี่ยวกับการตามจับจระเข้ภายในร้านน้ำชาในพื้นที่นราธิวาส จู่ๆ ก็มีชายคนหนึ่งในร้านมีอาการเหมือนถูกผีเข้า และมีการถาม “ทีมไกรทอง” ด้วยน้ำเสียงอันดังว่า “มาจับพวกข้าทำไม” และยังบอกอีกว่า “ข้าแค่มาเที่ยวมาดู จะมาจับทำไมกับบริวารของข้า” หลังพูดจบชายคนดังกล่าวก็เป็นลมล้มลงไป เมื่อฟื้นขึ้นมาก็มีคนรีบพาไปสักการะ “ศาลพ่อท่านบางเค็ม” ซึ่งตั้งอยู่บริเวณแยกลำภู อ.เมือง จ.นราธิวาส จากนั้นก็มีชาวบ้านพบเห็นจระเข้โผล่ขึ้นที่หาดเสด็จ อ.ตากใบ แต่ทาง “ทีมไกรทอง” ก็ไม่สามารถจับตัวได้
สำหรับ "ศาลพ่อท่านบางเค็ม" ที่ว่านี้ ชาวบ้านก็เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับจระเข้เหมือนกัน เพราะช่วงที่กำลังก่อสร้างศาล ช่างที่ก่อสร้างทั้งวิศวกรและผู้รับเหมา พากันฝันเหมือนๆ กันว่า เห็นฤาษีอยู่ในถ้ำจระเข้ จากเหตุการณ์และเรื่องเล่าต่างๆ นี้ทำให้ชาวนราธิวาสเชื่อกันว่า มีจระเข้เจ้าที่และมีความผูกพันกับทางจังหวัดไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง