ดราม่าเกี่ยวกับข้าราชการฝ่ายปกครอง 2 กรณีในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้กำลังจบลงด้วยดี
เริ่มจาก “ผู้ว่าฯหญิงมุสลิมคนแรกของเมืองไทย” นางพาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เจอดราม่ารับน้องหลังรับตำแหน่งไม่นาน เมื่อถูกแชร์ภาพคล้ายกำลังไหว้พระ ขณะร่วมกิจกรรมวันพ่อ ระหว่างเป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.65 ที่ผ่านมา
ล่าสุดปรากฏว่าหลังมีดราม่าวิจารณ์อย่างหนักในช่วงแรก แต่ใน 1-2 วันถัดมา กระแสเริ่มตีกลับ เพราะหลายคนมองผู้ว่าฯพาตีเมาะ อย่างเข้าใจ และเห็นว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าราชการจังหวัด ไม่ได้มีเจตนาในทางทำผิดหลักคำสอนทางศาสนา
โดยบรรยากาศที่ศาลากลางจังหวัดปัตตานี มีประชาชนกลุ่มต่างๆ แห่ไปให้กำลังใจอย่างคับคั่งจนแน่นศาลากลาง และคนที่ไปให้กำลังใจไม่ใช่มีแค่คนปัตตานี แต่ยังมีคนนราธิวาส และจังหวัดอื่นๆ ด้วย
@@ ประกาศวิสัยทัศน์แก้ยาเสพติด - ความยากจน
นางพาตีเมาะ เพิ่งรับตำแหน่งผู้ว่าฯปัตตานี ในการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งล่าสุดที่ผ่านมานี้เอง จึงถือเป็น “ผู้ว่าฯป้ายแดง” โดยขยับตำแหน่งมาจากรองผู้ว่าฯนราธิวาส
สำหรับกลุ่มประชาชนที่เข้าให้กำลังใจ มีสมาชิกของ “ศูนย์พัฒนาอาชีพ กลุ่มร่วมด้วยช่วยกันชายแดนใต้” ซึ่งเป็นกลุ่มภาคประชาสังคมที่ทำงานช่วยเหลือผู้ยากไร้และผู้ด้อยโอกาสในพื้นที่ด้วย โดยทางกลุ่มถือโอกาสขอให้ผู้ว่าฯพาตีเมาะ เป็นพรีเซ็นเตอร์ประชาสัมพันธ์ “ขนมจีนอบแห้ง” ของศูนย์พัฒนาอาชีพฯ เพื่อนำไปจำหน่ายหารายได้มาเป็นทุนในการช่วยเหลือผู้เดือดร้อน ซึ่งผู้ว่าฯพาตีเมาะ ก็ร่วมเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ด้วยความเต็มใจ
โอกาสนี้ นางพาตีเมาะ กล่าวว่า ขอขอบคุณพี่น้องคนไทยทั้งประเทศที่ได้แสดงความยินดี ไม่ใช่แค่พี่น้องปัตตานี แต่เป็นพี่น้องทั้งประเทศ สิ่งเหล่านี้จะเป็นแรงผลักดันในการทำงานพัฒนาต่อไป ความเป็นผู้ว่าฯปัตตานี เป็นพลเมืองไทย ลูกหลานคนจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีโอกาสเติบโตในการทำงาน ภายใต้การให้โอกาสจากผู้ใหญ่ทุกท่าน เติบโตภายใต้การเป็นข้าราชการที่ยึดหลักปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง”
ผู้ว่าฯพาตีเมาะ ประกาศความตั้งใจว่าจะเร่งทำงานเพื่อแก้ปัญหายาเสพติดให้ดีขึ้นกว่าเดิม
“ทำไมเรื่องยาเสพติดเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะทำ เพราะสิ่งนี้มีการถกเถียงมานานสิบกว่าปี พูดมาพอๆ กับสถานการณ์ความไม่สงบ เมื่อลงพื้นที่ก็พบว่ายาเสพติดเต็มพื้นที่ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง แต่ในการปฏิบัติเรื่องยาเสพติดกลับอยู่ท้ายๆ สถานการณ์ยาเสพติดแรงหรือไม่แรง เห็นได้จากพี่น้องในเรือนจำร้อยละ 80 โดนคดียาเสพติด อายุตั้งแต่ 18 ปี ถึง 40 ปี เป็นวัยกำลังสร้างสังคม”
“วันนี้กระบวนการพูดคุยฐานรากจะทำอย่างไร มีการเก็บข้อมูล วิเคราะห์ สภาตำบล สภาประชาธิปไตย แนวโน้มเราต้องดึงผู้เสพออกมาความรุนแรงตรงนั้น ไม่ใช่ดึงไปกักขังเขา แต่ดึงเพื่อให้เขาได้ไปบำบัดดูแล การขยับสิ่งเหล่านี้ต้องขยับในชุมชนของเรา เพราะยาเสพติดอยู่ในชุมชน และทั้งหมดต้องเกิดจากความร่วมมือจากพวกเราทุกคนด้วย เรื่องยาเสพติดไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ใช่วันสองวันจะแก้จบ”
“ขอยืนยันว่า มีหัวใจพร้อมเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ในส่วนของนโยบายยาเสพติดและสถานการณ์ความยากจน คือ นโยบายหลักที่ได้ตั้งใจไว้ ได้คุยกับหน่วยงานความมั่นคงแล้ว ได้คุยกับแม่ทัพภาคที่ 4 ขอนำสิ่งเหล่านี้เดินต่อสื่อสาร ต่อยอด เพื่อพัฒนาพื้นที่ต่อไป”
“ความเป็นผู้หญิงเป็นแค่ส่วนหนึ่งขององค์ประกอบ ส่วนหนึ่งของสถานะ เราได้พูดคุยในมิติของการสร้างความเข้าใจ ดูแล และป้องกัน ในการเป็นผู้ว่าฯปัตตานี จะนำพามิติของความมั่นคงที่นำพาไปสู่ชุมชน โดยบทบาทของผู้หญิง เพราะยาเสพติดไม่ใช่การจับแค่ต้นทาง แต่จะรวมไปถึงปัญหาปลายทาง เพื่อชีวิตของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ทุกมิติ”
ผู้ว่าฯพาตีเมาะ เปิดใจทิ้งท้ายว่า ความเป็นผู้ว่าฯ ภายใต้บริบทของผู้หญิง หมายถึงโอกาสของผู้หญิงทั้งหมด ผู้หญิงทั้งประเทศไทยสามารถที่จะเข้ามาถึงจุดนี้ได้ การศึกษานำพาเราให้มาถึงจุดนี้ เชื่อมั่นว่าเราต้องมุ่งเน้นการศึกษา เพราะการศึกษาคือโอกาสและอาวุธที่จะสร้างภูมิคุ้มกัน ที่จะสร้างควาเข้มแข็งของผู้หญิง และมาเป็นผู้นำในการทำงาน
@@ นายอำเภอวิชาญ รับตำแหน่งที่สงขลาชื่นมื่น
อีกหนึ่งดราม่าที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ คือกระแสต่อต้าน นายอำเภอวิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ ที่มีคำสั่งกระทรวงมหาดไทย ให้ไปรับตำแหน่ง “นายอำเภอเมืองสงขลา” แต่กลับถูกปลุกกระแสคัดค้าน เพราะเคยถูกชุมนุมขับไล่จากผู้นำศาสนา และผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ในอำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเจ้าตัวเคยเป็นนายอำเภอ และเมื่อจะย้ายไปเป็นนายอำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส ก็ถูกต้านเหมือนกัน
ฉะน้ันเมื่อมีข่าวจะไปเป็นนายอำเภอเมืองสงขลา จึงมีกระแสต่อต้าน โดยมีการนำประวัติที่ถูกขับไล่ และไม่ต้อนรับจากหลายพื้นที่มาตีแผ่
แต่ในช่วงที่ผ่านมา ก็มีคนพยายามชี้แจงทำความเข้าใจกับสังคมเช่นกัน เช่น เครือข่ายองค์กรภาคประชาชนจังหวัดสงขลา ได้แชร์ข้อมูลทางกรุ๊ปไลน์ของคนสงขลา และมีการส่งต่อๆ กันไปอย่างกว้างขวางว่า ได้ตรวจสอบประวัติและผลการทำงานของนายอำเภอวิชาญแล้ว เป็นคนดี มีความรู้ มีความสามารถ เคยมีผลงานดีเด่นระดับจังหวัดและระดับประเทศ มีความตั้งใจปฏิบัติหน้าที่เป็นอย่างดี ส่วนเรื่องที่เคยถูกร้องเรียนที่รือเสาะ มีการสอบสวนแล้วว่าไม่ผิด และสาเหตุมาจากความเห็นต่างของผู้นำศาสนาและการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่
ล่าสุด เมื่อเร็วๆ นี้ นายอำเภอวิชาญ ได้เข้ารับตำแหน่งนายอำเภอเมืองสงขลาเรียบร้อย และมีการเปิดประวัติการศึกษาและการทำงาน ปรากฏว่าเป็นคนนราธิวาส เรียนจบที่นราธิวาส ก่อนไปเข้าศึกษาในระดับอุดมศึกษา ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เคยได้รับรางวัลจากการปฏิบัติหน้าที่มากมาย