หลังจากกระทรวงมหาดไทยได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้ นายวิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ นายอำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส รักษาการในตำแหน่งนายอำเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้ดำรงตำแหน่งนายอำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา โดยให้เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 28 พ.ย.65
ปรากฏว่าล่าสุดได้มีกระแสต่อต้านแสดงความไม่พอใจจากประชาชนและข้าราชการจังหวัดสงขลา เนื่องจากส่วนใหญ่เกรงว่า จะสร้างปัญหาในพื้นที่ จากประวัติการถูกร้องเรียนและถูกขับไล่จากหลายพื้นที่ที่เคยดำรงตำแหน่งนายอำเภอก่อนหน้านี้
จากการตรวจสอบประวัติการรับราชการของ นายวิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ พบรับราชการอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มากว่า 13 ปี เคยดำรงตำแหน่งนายอำเภอยี่งอ นายอำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส จนย้ายดำรงตำแหน่งนายอำเภอรือเสาะ เมื่อวันที่ 16 ต.ค.60 ซึ่งในช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ใช้มาตรการในการป้องกันการระบาดอย่างเข้มงวดและจริงจัง จนทำให้อำเภอรือเสาะได้รับการยกย่องให้เป็นอำเภอที่ควบคุมการระบาดได้ดีเป็นอันดับ 1 ของจังหวัดนราธิวาส
จนในช่วงเดือน มี.ค.65 ได้มีหนังสือร้องเรียนจากชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อ.รือเสาะ ถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่และพฤติกรรมของนายวิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ นายอำเภอรือเสาะ โดยอ้างว่า มีการใช้ความรุนแรง ก้าวร้าว หยาบคาย และข่มขู่ข้าราชการ ตลอดจนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำศาสนา รวมถึงใช้กริยาอาการที่ไม่สุภาพกับผู้นำศาสนาและประชาชนชาวไทยมุสลิมที่กำลังจะไปปฏิบัติศาสนกิจ จึงเรียกร้องให้ย้ายนายวิชาญออกจากพื้นที่และสอบสวนข้อเท็จจริง
ทำให้วันที่ 21 เม.ย.65 อธิบดีกรมการปกครอง ได้มีหนังสือคำสั่งย้ายด่วนนายวิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ นายอำเภอรือเสาะ ให้ไปช่วยราชการที่กรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ที่วิทยาลัยการปกครองเป็นการประจำ ตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.65
โดยในวันที่ 23 เม.ย.65 นายวิชาญ ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อว่า กรณีที่ถูกร้องเรียน ได้ทำรายงานข้อเท็จจริงชี้แจงต่อผู้บังคับบัญชาแล้ว พร้อมให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น หากทำผิดจริงตามที่ถูกกล่าวอ้าง ก็พร้อมเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายและรับโทษทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข
ต่อมาวันที่ 25 พ.ค.65 กระทรางมหาดไทยได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้นายวิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ นายอำเภอรือเสาะ (ช่วยราชการวิทยาลัยการปกครอง) ไปดำรงตำแหน่งนายอำเภอสุไหงปาดี มีผลตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย.65
แต่ก็เกิดกระแสวิจารณ์คำสั่งแต่งตั้งนายวิชาญ เนื่องจากผลการสอบสวนการร้องเรียนจนถูกย้ายขณะดำรงตำแหน่งนายอำเภอรือเสาะยังไม่ทราบผล และยังมีกระแสโซเชียลมีเดียจากบุคคลบางกลุ่มต่อต้านการแต่งตั้งด้วย ส่งผลให้ในวันที่ 31 พ.ค.65 อธิบดีกรมการปกครองได้มีหนังสือคำสั่งชะลอการเดินทางไปรับตำแหน่งนายอำเภอสุไหงปาดีของนายวิชาญเอาไว้ก่อนจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ต่อมาในช่วงเดือน ส.ค.65 ปรากฎชื่อของนายวิชาญ ไปดำรงตำแหน่งรักษาการนายอำเภอบางขัน จังหวัดนครศรีธรรมราช จนวันที่ 15 พ.ย.65 กระทรวงมหาดไทยได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้ นายวิชาญ ไปดำรงตำแหน่งนายอำเภอเมืองสงขลา และได้เกิดกระแสต่อต้านจากคนในพื้นที่ขึ้นอีกครั้ง
เป็นที่น่าสังเกตว่า นายวิชาญ ปัจจุบันอายุ 53 ปี พื้นเพเป็นชาวนราธิวาส มีอายุราชการ 29 ปี ระยะเวลาปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มากถึง 13 ปี เคยดำรงตำแหน่งนายอำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส, นายอำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส, นายอำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช และได้มาดำรงตำแหน่งนายอำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.60 ก่อนจะถูกขับไล่และถูกคำสั่งย้าย โดยนายอำเภอวิชาญ ยังเคยได้รับเลือกเป็นข้าราชการพลเรือนดีเด่นประจำปี 2557 ด้วย