คณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พร้อมใจออกแถลงการณ์ร่วมประณามการใช้ความความรุนแรงต่อเด็กและสตรี จากเหตุคาร์บอมบ์แฟลตตำรวจนราธิวาส
วันพุธที่ 23 พ.ย.65 คณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ออกแถลงการณ์กรณีเหตุการณ์ลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ บริเวณแฟลตที่พักข้าราชการตำรวจ อ.เมือง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 22 พ.ย.65 ส่งผลให้มีนายตำรวจเสียชีวิต 1 นาย และมีประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงเด็กและสตรี
ทางคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอประณามการใช้ความรุนแรงของผู้เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใดหรือผู้ใดก็ตาม เนื่องจากเป็นการกระทำต่อพลเรือนและเป้าหมายอ่อนแอ ซึ่งละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิมนุษยชน และหลักมนุษยธรรมสากล
โดยคณะพูดคุยฯ ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียและเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมกันนี้ขอให้เจ้าหน้าที่ได้เร่งติดตามและนำตัวผู้กระทำความผิดมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว
คณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอยืนยันเจตนารมณ์ที่จะรณรงค์และส่งเสริมการใช้สันติวิธีด้วยการพูดคุยอย่างปัญญาชนที่มีอริยะตามหลักการและบรรทัดฐานสากลเพื่อคลี่คลายปัญหาในพื้นที่ และขอให้พี่น้องประชาชนทุกภาคส่วนร่วมกันปฏิเสธการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ รวมทั้งให้การสนับสนุนกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้
@@ กสม.ร่วมประณามการใช้ความรุนแรงต่อเด็กและสตรี
วันเดียวกันนี้ ทางคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้ออกแถลงการณ์ประณามเหตุการณ์เดียวกัน
เนื้อหาในแถลงการณ์ระบุว่า กสม.ขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวและญาติมิตรของเจ้าหน้าที่ผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และขอประณามการกระทำอันโหดร้ายของผู้ก่อเหตุที่มุ่งหมายให้เจ้าหน้าที่และประชาชนได้รับอันตรายต่อชีวิตและร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการก่อเหตุรุนแรงใกล้เขตโรงเรียนและในย่านชุมชนที่พักอาศัย ทำให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือเป็นคู่ขัดแย้งในเหตุความไม่สงบ โดยเฉพาะเด็กและผู้หญิงได้รับผลกระทบไปด้วย ซึ่งในช่วงเดือน พ.ย.เป็นเดือนแห่งการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี
กสม.ขอยืนยันหลักการคัดค้านความรุนแรงในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะความรุนแรงที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อเด็กและผู้หญิง ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางของสังคม พร้อมทั้งขอให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวของเจ้าหน้าที่ผู้เสียชีวิต ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างทั่วถึง และติดตามนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว พร้อมทั้งเพิ่มมาตรการคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่ประชาชนและสาธารณชนในพื้นที่ด้วย