นายก อบต.ปัตตานี หายสาบสูญกว่าครึ่งเดือน ครอบครัวผวาถูกทำร้าย ไม่กล้าเคลื่อนไหว แค่แจ้งความแต่คดีไม่คืบ ชาวบ้านงงวงจรปิดในหมู่บ้านจับภาพไม่ได้ ตำรวจเผยไม่มีพยานหลักฐานยืนยัน มีเพียงคำเล่าลือตามร้านน้ำชา หน่วยข่าวคาดปมขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น ไม่เกี่ยวความมั่นคง
มีรายงานว่านายสุธี วาเย็ง อายุ 67 ปี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลดอน (อบต.ดอน) อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ ระหว่างขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน ป้ายทะเบียน 1 กฆ 6580 ปัตตานี ออกจากบ้านของตนเอง เลขที่ 28/5 หมู่ 2 ต.ดอน อ.ปะนาเระ ตั้งแต่เวลาประมาณ 07.30 น.ของวันที่ 30 ส.ค.65 หลงจากนั้นก็ไม่กลับมาอีกเลย โดยทางครอบครัวของนายสุธีได้แจ้งความกับตำรวจเอาไว้แล้ว แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
วันอังคารที่ 13 ก.ย.65 ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านของนายสุธี เพื่อสอบถามและพูดคุยกับคนในครอบครัว แต่ทางครอบครัวปฏิเสธที่จะให้ข้อมูล เนื่องจากมีความหวาดกลัวว่าคนร้ายจะมาทำร้ายยกครัว
ทีมข่าวจึงได้สอบถามชาวบ้านละแวกใกล้เคียงที่อยู่ในพื้นที่ ทราบข้อมูลว่า ตอนนี้ที่บ้านนายสุธี มีเพียงภรรยาของนายสุธีกับลูกสาวและลูกเขย อาศัยอยู่ด้วยกัน
“ครอบครัวพวกเขาน่าสงสาร ภรรยาป่วยต้องฟอกไตทุกเดือน แม้จะเป็นข้าราชการครูบำนาญ แต่ลูกสาวก็ไม่มีอาชีพ เป็นแม่บ้าน ส่วนสามีของลูกสาวรับจ้างดูดสิ่งปฏิกูล นี่ขนาดครอบครัวนายก อบต. หายสาบสูญยังทำอะไรไม่ได้ ถ้าเป็นชาวบ้านตาดำๆ จะไปพึ่งใครได้ ครอบครัวเขาอยู่ในอาการผวาหวาด กลัวขนาดนี้ หน่วยรัฐในพื้นที่ไม่เดือดร้อน คนหายสาบสูญกลับนิ่งเฉย” ชาวบ้านรายหนึ่งบอก
ญาติของนายก อบต.ดอน ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ขณะนี้สมาชิกในครอบครัวกลัวไม่กล้าทำอะไร กลัวจะมีคนมาทำร้ายยกครัว จึงอยากให้เรื่องยุติ ปล่อยพวกเขาเถิด เคยห้ามแล้ว ห้ามมาตลอดว่าอย่าไปยุ่งกับการเมือง อยากให้เขาใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว บั้นปลายชีวิตของข้าราชการเกษียณ ภรรยาเขาเคยเป็นครู ส่วนนายก อบต.เอง ก็เป็นข้าราชบำนาญของอำเภอปะนาเระ ทำงานฝ่ายทะเบียนราษฎร์
ในตำบลดอนมีทั้งหมด 6 หมู่บ้าน เป็นพื้นที่ไทยพุทธ 4 หมู่บ้าน พื้นที่อิสลาม 2 หมู่บ้าน ช่วงก่อนมาเป็นนายก อบต. ชาวบ้านมาขอร้องให้ลงเลือกตั้งนายก อบต. จนชนะนายกฯคนเก่าซึ่งเป็นคนไทยพุทธ และได้รับการรับรองแต่งตั้งเมื่อวันที่ 4 พ.ค.64
จนกระทั่งเกิดเหตุสลดใจ นายก อบต.หายตัว ทำให้คนในครอบครัวอยู่ในความทุกข์ ทางครอบครัวและชาวบ้านได้ทำพิธีละหมาดฮายัตทุกวัน ทางครอบครัวและชาวบ้านร่วมกันหาทั่วหมด ทั้งรอบๆ หมู่บ้าน หากันหมดแล้วทุกตารางนิ้ว แต่ไม่พบแม้แต่กระทั่งร่องรอย ยกเว้นในน้ำที่ยังไม่ได้ค้นหา
นอกจากนี้ทางญาติของนาย อบต.ดอน และชาวบ้านในหมู่บ้าน ได้ตั้งขอสังเกตถึงความผิดปกติของการหายตัวของนายก อบต.ดอน ซึ่งในวันเกิดเหตุ มีเพียงภาพของกล้องวงจรปิดหน้าบ้านของนายกฯ ที่บันทึกภาพเอาไว้ได้ แต่กล้องวงจรปิดในหมู่บ้าน ทั้งของชาวบ้านและของภาครัฐ ซึ่งอยู่ตามถนนในเส้นทางที่นายกฯขับรถผ่าน กลับไม่เห็นภาพนายก อบต.ในวงจรปิดเหล่านั้นเลย
ชาวบ้านในหมู่บ้าน กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุ นายก อบต.ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันสีน้ำเงินออกจากบ้าน แล้วข้ามถนนหน้าบ้าน มุ่งหน้าไปที่ประปาหมู่บ้านคลอง เพื่อดูความเรียบร้อยของประปา จากนั้นจึงขับรถมุ่งหน้ากลับบ้าน และได้ขับออกไปที่ประปาหมู่บ้านอีกครั้ง โดยมีพยานพบเห็นครั้งสุดท้ายว่า นายกฯ ได้ขับรถเลี้ยวไปซ้ายมือมุ่งหน้าขึ้นบนถนนดำที่เป็นถนนสายหลัก บริเวณดังกล่าวมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดทั้งของราชการ และของชาวบ้าน แต่กลับไม่มีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกได้
น.ส.แวสุไอนี แวหะยี รองปลัด อบต.ดอน กล่าวว่า กรณีนายก อบต.ดอน หายไปก็รู้สึกเสียใจ เพราะยังเจอกันเมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา นายกฯ ได้มาประชุมสภา อบต. และนายกฯ อยู่สำนักงานทั้งวัน มาเซ็นเอกสาร พอวันที่ 30 ส.ค. นายกฯ ไม่ได้เข้ามา เข้าใจว่านายกฯ อาจมีภารกิจอื่น จนกระทั่งเมื่อวันที่ 31 ส.ค.ถึงทราบข่าวการหายตัวของนายกฯ ว่าหายจากบ้านตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค.
ทราบว่า นายกฯ ออกจากบ้านตั้งแต่ 8 โมงเช้าแล้วไม่ได้กลับมา จนถึง 24 ชั่วโมงจึงมีการไปแจ้งตำรวจ ซึ่งชาวบ้านก็ช่วยกันตามหาในหมู่บ้าน ไปทุกจุดที่คิดว่านายกฯ น่าจะไป ทั้งแถวกุโบร์ (สุสาน) ที่ประปาก็ไม่เห็น หากันจนถึงกลางคืน ช่วยกันหาก็ไม่เจอ จนผ่านมาสิบกว่าวันแล้วที่นายกฯ หายไป ส่วนการทำงานของ อบต. ก็ให้ นายอำไพ ศรีเพชร รองนายกคนที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ ไปก่อน
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปะนาเระ กล่าวว่า ตอนนี้การหายตัวของ นายสุธี วาเย็ง นายก อบต.ดอน ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย ถึงแม้ญาติมาแจ้งความเรื่องการหายตัวของนายสุธีฯ ก็แค่ลงประจำวัน ยังไม่ได้รับเป็นคดี เพราะพยานหลักฐานยืนยันการสูญหายมีเพียงข้อมูลไม่กลับบ้าน ขับขี่รถจักรยานยนต์ ส่วนกล้องวงจรปิดในพื้นที่เกิดเหตุ พนักงานสอบสวนขอดูหมดแล้ว แต่ไม่บันทึกภาพของนายกฯ เลย มีเพียงภาพวงจรปิดหน้าบ้านนายกฯ เองที่มีปรากฏภาพนายกฯ ขับขี่รถจักรยานยนต์คันสีน้ำเงินข้ามถนนหน้าบ้าน แต่ไม่รู้ไปไหน เพราะเลย 500 เมตรมองอะไรไม่เห็นแล้ว
“ในทางสอบสวนมองเรื่องที่เกิดขึ้นอาจเกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมืองและประเด็นความขัดแย้งส่วนตัว แต่เนื่องจากเรื่องนี้มันไม่มีทั้งหลักฐานและพยานที่พอจะมายืนยันได้ เพราะหายทั้งคน หายทั้งรถ มีแค่เสียงพูดลือตามร้านน้ำชาเท่านั้น ซึ่งในทางคดีทำอะไรไม่ได้” ตำรวจ สภ.ปะนาเระ กล่าว
ทางด้านเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวความมั่นคงในพื้นที่ กล่าวว่า มองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องขัดแย้งภายในกลุ่มการเมืองด้วยกันเอง ยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับความมั่นคงอย่างแน่นอน