คนร้ายวางระเบิดแสวงเครื่องซุกรถโชเล่ย์ริมถนนหลังป้อมจุดตรวจโคกยาง อ.ตากใบ นราธิวาส ชาวบ้านโชคร้ายหลบฝนใกล้จุดเกิดเหตุ ถูกสะเก็ดระเบิดดับ 1 เจ็บ 2 ราย ด้านรถไฟในพื้นที่ จ.นราธิวาส กลับให้บริการตามปกติวันแรก หลังเป็นอัมพาตเหตุคนร้ายยิงหัวรถจักร
เมื่อเวลา 09.30 น. วันอาทิตย์ที่ 7 ส.ค. 65 พล.ต.ต.แวสาแม สาและ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส (ผบก.ภ.จว.นราธิวาส) พร้อมด้วย พ.ต.อ.นราวี บินแวอารง ผู้กำกับการ สภ.ตากใบ ว่าที่ ร.ต.จิรัสย์ ศิริวัลลภ นายอำเภอตากใบ เจ้าหน้าที่อีโอดี นปพ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่ง ร่วมเดินทางเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุระเบิด บริเวณป้ายบอกสัญลักษณ์ทางโค้ง หลังป้อมจุดตรวจโคกยาง ม.3 ต.พร่อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 20.35 น.ของวันเสาร์ที่ 6 ส.ค.65 ได้เกิดระเบิดขึ้น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน คือ นายอารี เจ๊ะหามะ อายุ 74 ปี อยู่บ้านเลขที่ 132 ม.1 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ จ.นราธิวาส และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน คือ 1. นางมัสก๊ะ ยูโซ๊ะยิ อายุ 57 ปี ภรรยาของนายอารี อยู่บ้านเลขที่ 141 ม.3 ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส กสะเก็ดระเบิดที่ลำตัวด้านซ้าย 2. นางปรีดา ทองวิเชียร อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56/13 ม.3 ต.พร่อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ถูกสะเก็ดระเบิดเฉี่ยวที่ศีรษะ
ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบเศษซากชิ้นส่วนของรถโชเล่ย์ไม่ทราบสีและยี่ห้อ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ตกกระจายเกลื่อนเป็นบริเวณกว้าง ปะปนไปกับเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สขนาดบรรจุ 5 กิโลกรัม น้ำหนักระเบิด 20 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร นำมาจอดไว้บริเวณใกล้กับป้ายสัญลักษณ์บอกทางโค้ง
ขณะที่บริเวณศาลาริมทางฝั่งตรงกันข้ามพบกองเลือดจำนวนหนึ่ง เป็นของผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ส่วนบริเวณด้านหลังโกดังเก็บสินค้าอาหารสัตว์ที่ติดกับศาลาริมทาง แรงระเบิดทำให้กระจกในห้องน้ำแตกเสียหาย ทั้งยังพบเหล็กเส้นตัดสั้นและหัวน็อตจำนวนหนึ่งตกอยู่ คนร้ายใช้เป็นสะเก็ดระเบิด เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุมีฝนตก ทำให้นายอารี ผู้เสียชีวิต พร้อมนางมัสก๊ะ ภรรยา ที่ตระเวนขายยาสมุนไพรมาทั้งวัน ได้ขับรถจักรยานยนต์ไปหลบฝนที่บริเวณศาลาริมทาง ต่อมาได้เกิดระเบิดขึ้นจากรถโชเล่ย์ที่จอดอยู่ฝั่งตรงข้ามหลังป้อมจุดตรวจ ใกล้กับป้ายสัญลักษณ์บอกทางโค้ง สะเก็ดระเบิดและชิ้นส่วนของรถโชเล่ย์กระเด็นไปถูกนายอารีเสียชีวิตคาที ส่วนภรรยาได้รับบาดเจ็บ
นอกจากนี้สะเก็ดระเบิดได้กระเด็นไปถูกนางปรีดาที่เดินอยู่ภายในรั้วหน้าบ้านฝั่งตรงกันข้ามกับศาลาริมทาง ได้รับบาดเจ็บไปด้วย แรงระเบิดยังทำให้สายไฟฟ้าขาด ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกดังกล่าวไม่มีไฟฟ้าใช้ตลอดทั้งคืน
พล.ต.ต.แวสาแม กล่าวว่า เหตุที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเป็นฝีมือการกระทำของสมาชิกกองกำลังติดอาวุธที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะเก็บซากเศษชิ้นส่วนของวัตถุพยานไปตรวจสอบ รวมทั้งคราบลายนิ้วมือแฝงและดีเอ็นเอ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับบุคคลในทำเนียบคดีความมั่นคงว่าตรงกับผู้ใด รวมทั้งทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ในบนถนนเส้นที่เกิดเหตุด้วย
เบื้องต้นสันนิษฐานว่า กลุ่มคนร้ายได้อาศัยจังหวะที่เจ้าของบ้าน 2 หลังซึ่งอยู่ด้านหลังของป้อมจุดตรวจ ไม่อยู่บ้าน แฝงตัวนำรถโชเล่ย์ที่ซุกระเบิดมาจอดไว้ และเมื่อเห็นชาวบ้านสองสามีภรรยาจอดรถเพื่อหลบฝน คนร้ายน่าจะเข้าใจผิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในป้อมจุดตรวจเดินมาตรวจสอบความเรียบร้อย จึงได้จุดชนวนระเบิดขึ้นเพื่อดักสังหาร
@@ รถไฟนราธิวาสกลับมาเปิดวิ่งตามปกติวันแรก
ความคืบหน้ากรณีขบวนรถไฟทั้ง 14 ขบวนสายชายแดนใต้ ที่ต้นทางจากสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก จรดปลายทางสถานีรถไฟต่างๆ หยุดให้บริการเป็นเวลา 2 วัน หลังคนร้ายก่อเหตุใช้ยิงหัวรถจักรขบวนรถเร็วที่ 171 กรุงเทพ – สุไหงโก-ลก เหตุเกิดที่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 1068 เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 65 ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุดวันอาทิตย์ที่ 7 ส.ค.65 จากข้อสรุปในการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคง ลงมติให้รถไฟทั้ง 14 ขบวน ออกวิ่งให้บริการประชาชนได้ในวันนี้เป็นวันแรก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ใช้บริการ
จากการตรวจสอบที่สถานีรถไฟสุไหงโก-ลก พบว่า ในวันนี้มีขบวนรถไฟที่ 453 ซึ่งวิ่งต้นทางจากสถานีรถไฟยะลา จรดปลายทางสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก ได้เทียบชานชลาเป็นขบวนแรกในเวลา 08.40 น. และมีขบวนรถไฟที่ 452 ซึ่งวิ่งต้นทางจากสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก จรดปลายทางสถานีรถไฟนครศรีธรรมราช ออกจากสถานีรถไฟสุไหงโก-ลกเป็นเที่ยวแรก โดยมีประชาชนที่ทราบข่าวได้เริ่มมาใช้บริการแต่ไม่มากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับในช่วงปกติ เนื่องจากยังไม่ทราบว่า รถไฟเปิดให้บริการประชาชนเป็นวันแรก
ส่วนของการรักษาความปลอดภัยในแต่ละสถานีจากสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก ถึง สถานีรถไฟรือเสาะ ซึ่งเป็นเขตพื้นที่รับผิดชอบของ จ.นราธิวาส จะมีเจ้าหน้าที่ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ รปภ.สถานีรถไฟแต่ละแห่ง กระจายกำลังกันเดินลาดตระเวนตรวจสอบความเรียบร้อยเส้นทางรถไฟระหว่างเขตรอยต่อของแต่ละสถานี รวมทั้งบริเวณที่ตั้งของสถานีรถไฟ เมื่อมั่นใจว่าปลอดภัยแล้ว นายสถานีรถไฟแต่ละแห่งจะประสานกัน เพื่อให้ขบวนรถไฟทำเวลาเข้าสถานีเพื่อรับส่งผู้โดยสาร เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับพนักงานรถไฟในแต่ละขบวน รวมไปถึงสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนผู้ใช้บริการด้วย