ลอบวางบึ้มโจมตี อส.ชุดคุ้มครองตำบลไม้แก่น ปัตตานี บาดเจ็บ 2 นาย ขณะปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนเส้นทางเพื่อ รปภ.ครู แฉคนร้ายเฝ้าดูพฤติการณ์เจ้าหน้าที่ ก่อนใช้ระเบิดถังแก๊สน้ำหนัก 4 กิโลกรัม วางแบบเร่งด่วนข้างเสาไฟฟ้า เอาหญ้าบังหวังสังหาร คาดตอบโต้วิสามัญฯกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง
เมื่อเวลา 07.30 น.วันอังคารที่ 2 ส.ค.65 เกิดเหตุลอบวางระเบิดโจมตีเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน (อส.) ชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) ปฏิบัติหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยครู (ชุด รปภ.ครู) เหตุเกิดบริเวณริมถนนสายชนบท บ้านกระจูด หมู่ 4 ต.ไม้แก่น อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี แรงระเบิดทำให้เจ้าหน้าที่ อส.ชคต.ไม้แก่น ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ทราบชื่อคือ อส.จำเริญ เหล็กเพชร อายุ 58 ปี มีบาดแผลที่ขา อาการสาหัส และ อส.อัสรอฟ มะอิง อายุ 29 ปี มีบาดแผลที่แขน
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ ชคต.ไม้แก่น จัดกำลังพล จำนวน 6 นาย กำลังปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนเส้นทางเพื่อรักษาความปลอดภัยคณะครูโรงเรียนบ้านกระจูด โดยใช้รถจักรยานยนต์ 3 คันเป็นพาหนะนั้น เมื่อขบวนรถแล่นถึงจุดเกิดเหตุ มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนจุดชนวนระเบิดขึ้นจนเกิดระเบิดเสียงดังสนั่น แรงระเบิดทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
ต่อมา พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9) ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อติดตามสถานการณ์ด้วยตนเอง พร้อมรับฟังรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คาดว่าคนร้ายเฝ้าดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ชุดนี้อยู่ก่อนแล้ว และทราบว่าเจ้าหน้าที่ต้องใช้เส้นทางนี้เป็นประจำ จึงได้นำระเบิดแสงเครื่องซึ่งประกอบใส่ในถังแก๊ส น้ำหนักดินระเบิด 4 กิโลกรัม ไปวางไว้ใกล้กับเสาไฟฟ้าริมทาง โดยเป็นการวางแบบเร่งด่วน คนร้ายนำหญ้ามากองปิดถังแก๊สไว้ จากนั้นคนร้ายได้ซ่อนตัวใกล้จุดเกิดเหตุ เพื่อรอเจ้าหน้าที่ขี่รถแล่นผ่านมา และจุดระเบิดทันทีโดยใช้วิทยุสื่อสาร
จากการสอบสวนยังทราบว่า แรงระเบิดทำให้รถจักรยานยนต์คันหน้าสุด ที่มี อส.อัสรอฟ และ อส.จำเริญ นั่งซ้อนท้ายกันมา ล้มคว่ำบนพื้นถนน ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บ ส่วน อส.ที่เหลือได้ใช้อาวุธปืนประจำกายยิงขึ้นฟ้า เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มคนร้ายเข้าโจมตีซ้ำ ก่อนจะลำเลียงคนเจ็บส่งโรงพยาบาลไม้แก่น
เมื่อตรวจสอบแผนประทุษกรรม และเก็บหลักฐาน ตลอดจนวัตถุพยานในที่เกิดเหตุแล้ว คาดว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ เพื่อหวังตอบโต้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่บังคับใช้กฎหมาย และวิสามัญฆาตกรรม ตลอดจนจับกุมผู้ต้องหาคดีความมั่นคง และสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้เป็นจำนวนมาก