ปัตตานีสั่งคุมเข้มการลำเลียงโค กระบือ ในห้วงก่อนวันรายอฮัจยี ซึ่งจะมีพิธีเชือดสัตว์พลีทาน หรือ “กุรบาน” จำนวนมาก ป้องกันการแพร่โรคระบาดสัตว์ในพื้นที่
หลังจากที่สำนักจุฬาราชมนตรี ได้ประกาศให้วันฮารีรายอ อิฎิลอัฎฮา หรือวันฮารีรายอฮัจย์ ฮิจเราะห์ศักราช 1443 ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ.2565 นั้น
วันรายอฮัจย์ หรือ รายอฮัจยี เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของทางศาสนาอิสลาม เป็นวันแห่งการเฉลิมฉลองให้กับผู้ที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ที่นครมักกะฮ์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งพิธีการสำคัญที่มุสลิมทั่วโลกจะกระทำพร้อมกัน ก็คือ การเชือดสัตว์พลีทาน หรือ กุรบาน เพื่อให้ทานแก่ผู้ยากไร้ และแบ่งปันกันระหว่างครัวเรือนในชุมชน
ถึงแม้ว่าจะเหลือเวลาอีกเกือบ 10 วันจึงจะถึงเทศกาลรายอฮัจยี แต่ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็เริ่มมีบรรยากาศการลำเลียงโค กระบือ จากนอกพื้นที่เข้ามาในพื้นที่ให้เห็นกันแล้ว เพราะช่วงพิธีรายอฮัจยี มุสลิมจะนำโค กระบือ ไปทำกุรบาน เพื่อนำเนื้อไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ยากลำบากได้รับประทาน ทำให้มีความต้องการโคและกระบือจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจสัตว์และซากสัตว์ปัตตานี อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นด่านแรกของการตรวจสัตว์ทุกชนิดก่อนจะเดินทางเข้าพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องทำงานอย่างชะมักเขมัน และต้องเพิ่มมาตรการในการตรวจอย่างละเอียด โดยเฉพาะในช่วงนี้มีการลำเลียงโค กระบือ จากหลายพื้นที่เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นจากภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคอีสาน จำนวนกว่า 200 ตัวต่อวัน ทำให้ต้องเพิ่มความเข้มในการตรวจสอบ โดยเฉพาะเอกสารที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นใบขนย้าย ใบรับรองการฉีดวัคซีน การตรวจรูปพรรณของสัตว์ว่าตรงกับที่ส่งเข้ามาหรือไม่
นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยังได้ทำการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคโดยรอบของรถบรรทุกสัตว์ และฉีดพ่นควันฆ่าแมลงที่มากับสัตว์ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคที่มีแมลงเป็นพาหะ และอาจจะแพร่ระบาดในพื้นที่ได้
สำหรับการลำเลียงโค กระบือในช่วงนี้ จะพบว่ามีขนถ่ายอยู่ 2 กรณี คือ
1.การลำเลียงมายังลูกค้าโดยตรงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ โดยบางส่วนจะมีออเดอร์ของคนในพื้นที่ บางส่วนก็จะมีการนำโค กระบือมาพักไว้ในพื้นที่ก่อน แล้วจึงลำเลียงต่อไปยังลูกค้าในประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ตามแนวชายแดน
และ 2.การลำเลียงไปยังประเทศเพื่อบ้านโดยตรง