“แม่ทัพใหญ่ – แม่ทัพน้อย” ประสานเสียงไม่บังคับใช้กฎหมายช่วงรอมฎอน เปิด “มัสยิดสานใจสู่สันติ” ต้อนรับผู้เห็นต่างฯกลับบ้าน ทบทวนตัวเอง ร่วมสร้างสันติสุข ด้านชาวบ้านในพื้นที่อยากเห็น “รอมฎอนสันติ” แนะฝ่ายรัฐต้องเริ่มก่อน แต่เชื่อคุมยากเพราะยังมีพวกนอกคอกอยู่
วันพุธที่ 30 มี.ค.65 พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ออกมา “เคลียร์ชัด” นโยบายงดปิดล้อมตรวจค้นช่วงเดือนรอมฎอน พร้อมเรียกร้องให้ผู้ก่อความไม่สงบยุติก่อเหตุรุนแรง เพื่อร่วมสร้าง “รอมฎอนสันติสุข” แต่ถูกกลุ่มขบวนการ ทั้ง บีอาร์เอ็น และ พูโล ออกมาดิสเครดิตว่าเป็นแผนลวง และรัฐบาลไทยไม่เคยจริงใจ
“ผมขอยืนยันเรื่องการไม่บังคับใช้กฎหมาย (หมายถึงงดปิดล้อม ตรวจค้น) ในเดือนรอมฎอน หากไม่มีบุคคลเข้ามาก่อเหตุและใช้ความรุนแรงในพื้นที่ เราเล็งเห็นความสำคัญในการประกอบศาสนกิจของพี่น้องมุสลิมในห้วงเดือนรอมฎอน และพร้อมจะตอบสนองต่อความต้องการของพี่น้องประชาชนที่ไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรงในพื้นที่ สอดรับกับกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ ที่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงหรือผู้เห็นต่างจากรัฐ เห็นด้วยในประเด็นการลดเหตุความรุนแรง ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนคาดหวังจะให้มันเกิดขึ้นในเดือนรอมฎอนและตลอดไป” แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว
และว่า “อย่างที่ทราบดีกันอยู่แล้วว่า เรายินดีทำให้พี่น้องประชาชนสามารถประกอบศาสนกิจได้อย่างมีความสุข โดยกำหนด ‘มัสยิดสานใจสู่สันติ’ รองรับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง หรือผู้ที่เห็นต่างจากรัฐได้กลับมาประกอบศาสนกิจอย่างเต็มรูปแบบ กระตุ้นให้มีความยินดีที่จะสลัดความชั่ว ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงตนเองให้ดียิ่งขึ้นด้วยใจที่มุ่งมั่นไม่หวั่นไหว ปราศจากวิธีรุนแรง เรามีพื้นที่เปิดรับเพื่อพูดคุยสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องตามหลักศาสนาอิสลามที่บริสุทธิ์ ผ่านกลไกของผู้ประสานงานในระดับพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา เพื่อให้เดือนรอมฎอน เป็นเดือนแห่งความบริสุทธิ์ปราศจากเหตุรุนแรงอย่างแท้จริง"
@@ สันติสุขสร้างได้ด้วยมือเรา
พล.ท.ธิรา แดหวา แม่ทัพน้อยที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์สันติวิธี กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าและเลขานุการคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขฯ กล่าวเช่นกันว่า ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา ฝ่ายรัฐและผู้เห็นต่างฯ มีข้อคิดเห็นที่อาจจะแตกต่างกันไปบ้าง มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ในวันนี้พร้อมที่จะเปิดใจคุยกัน ทำอย่างไรให้จังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดสันติสุขด้วยน้ำมือของคนในพื้นที่โดยเร็ว
“รอมฎอนปีนี้เราจะทำอย่างไรให้เกิดแต่สิ่งที่ดี ปราศจากเหตุร้าย ผ่านพ้นเดือนอันบริสุทธิ์และประเสริฐไปได้อย่างเป็นรูปธรรมด้วยสันติวิธี ขอยืนยันว่า เราเปิดพื้นที่ในเดือนรอมฎอนตลอดทั้งเดือน สำหรับผู้ที่เห็นต่างต่อสู้กับรัฐ ในการจะทบทวนตนเอง กลับเข้าสู่พื้นที่ที่ถูกที่ควร เพื่อให้หมดความระแวดระวังต่อกัน ใช้ชีวิตปกติท่ามกลางความไว้วางใจ ภายใต้การประสานของผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น ผู้นำศาสนา สมาชิกชมรมสานใจสู่สันติ สมาชิกของศูนย์ประชาชนพันธุ์ดี ที่มาในวันนี้ แล้วสันติสุขจะเกิดขึ้นได้ด้วยมือเรา เพราะวันนี้เราเจอทางออกแล้ว" ผอ.ศูนย์สันติวิธี กล่าว
@@ ชาวบ้านบอกรัฐต้องเริ่มก่อน
นางสมใจ สุขดี ชาวบ้านจาก จ.ยะลา กล่าวว่า อยากให้รอมฎอนปีนี้เป็นรอมฎอนที่ไม่มีเหตุรุนแรง อยากให้วางอาวุธจริงๆ จากทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายที่เป็นภาครัฐ ทั้งที่อยู่ในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ และฝ่ายที่บอกว่า เป็นกลุ่มขบวนการ ทั้งพูโลและบีอาร์เอ็น รวมทั้งกลุ่มที่มีอิทธิพลในพื้นที่ กลุ่มยาเสพติด ขอให้ทุกกลุ่มวางอาวุธแล้วทำให้รอมฎอนเป็นรอมฎอนแห่งสันติ ไม่ใช่รอมฎอนที่มีแต่ความรุนแรง
“จริงๆ สิ่งที่จะทำได้เลยคือรัฐต้องเริ่มก่อน อย่ารอให้คนที่เป็นภาคประชาชน ไม่ว่าจากขบวนการกลุ่มต่างๆ ในพื้นที่หยุด ชัดๆ คือรัฐหยุดปิดล้อมเขาก่อน ชุดนอกเครื่องแบบที่ไปเฝ้าสวนยางเขาก็กลับเข้าหน่วย รัฐเริ่มก่อนให้เห็น ซึ่งทำได้นะ เราเชื่อแบบนี้ และเชื่อว่ากลุ่มขบวนการเขาก็จะหยุดก่อเหตุเช่นกัน”
@ ชายแดนใต้มี “เจ้าที่” - จนท.นอกคอกเพียบ
ส่วนกลุ่มอิทธิพลหรือกลุ่มยาเสพติด นางสมใจ บอกว่า กลุ่มนี้ยากที่จะพูด เพราะพวกนี้ไม่มีอุดมการณ์ ทำทุกอย่างเพื่อเงิน ซึ่งลึกๆ ก็คิดว่ายากที่จะทำให้รอมฎอนนี้เป็นรอมฎอนแห่งสันติจริงๆ เพราะบ้านเราสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ต่างมีเจ้าที่ครอบครองและมีหลายกลุ่ม
นายมะแซ บือแตอูแล ชาวบ้าน จ.ปัตตานี กล่าวว่า ขนาดยังไม่เริ่มรอมฎอน ทหารจับชาวบ้านทุกวัน จะให้เราเชื่อได้อย่างไรว่ารอมฎอนนี้ทหารจะไม่ปิดล้อมชาวบ้าน หลายปีแล้วที่ทหารบอกว่าจะหยุดยิง จะหยุดปิดล้อม แต่สุดท้ายทหารเริ่มปิดล้อมก่อน กลุ่มขบวนการเขาจึงก่อเหตุปกติ รอมฎอนทุกปีที่ผ่านมายังไม่มีรอมฎอนสันติอย่างที่ว่าเลย
“ขอชื่นชมแม่ทัพภาคที่ 4 และผู้บังคับบัญชาหลายๆ หน่วยที่มีความพยายาม แต่ในพื้นที่นี้มันทำยาก เพราะมีเจ้าหน้าที่นอกคอก ทั้งที่เป็นคนของทหารเอง ของตำรวจ และคนของฝ่ายปกครอง มีหมด ยังไม่นับกองกำลังประชาชน ที่ภาครัฐสร้างขึ้นอีกที่เปิดให้สามารถพกปืนไปในเมืองได้ ที่นี่จึงสงบยาก คุมยาก เพราะมีกลุ่มคนนอกคอกหลายกลุ่ม”