มีการประเมินแนวโน้มวิกฤติ “ยูเครน” ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน คือยังไม่มีสมาชิกนาโต้ชาติใดส่งกำลังเข้าไปช่วยเหลือแบบเปิดหน้าสู้กับรัสเซีย คาดว่าความเป็นไปได้มี 3 แนวทาง
1.รัสเซียรุกกดดันจนยูเครนต้องยอมเจรจาสงบศึก (ล่าสุดมีข่าวยูเครนยอมเจรจาแล้ว นัดกันที่ชายแดนเบลารุส)
หากการเจรจาเกิดขึ้นจริง ผลก็คือ ยูเครนยังมีอธิปไตยอยู่ แต่รัสเซียจะกดดันให้ยูเครนทำข้อตกลงว่า จะไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิกนาโต้ทุกกรณี และยอมให้ภูมิภาคดอนบาส เป็นรัฐอิสระ หรือรัฐเอกราช (เพื่อขยายเขตอิทธิพลของรัสเซีย และเป็นรัฐกันชนระหว่างรัสเซียกับยูเครน)
2.รัสเซียรุกหนักจนยูเครนพ่ายแพ้ ประธานาธิบดียูเครนยอมลาออก และจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวที่นิยมรัสเซียขึ้นมาปกครองยูเครน
3.ผนวกดินแดนยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย
น้ำหนักความเป็นไปได้ ณ เวลานี้ อยู่ที่แนวทางที่ 1 กับ 2 ส่วนแนวทางที่ 3 เป็นไปได้น้อยกว่า แต่ก็ต้องจับตาในระยะยาว
การผนวกดินแดนจะส่งผลข้างเคียงมาก เพราะจะเผชิญกับการต่อต้านจากชาวยูเครนอย่างรุนแรงกว้างขวาง ขณะเดียวกันก็จะสร้างความกังวลให้กับประเทศอดีตสหภาพโซเวียตอื่นๆ แม้กระทั่งเบลารุสที่เป็นพันธมิตรกับรัสเซีย เพราะวันหนึ่งรัสเซียอาจใช้วิธีแบบที่ทำกับยูเครนมาผนวกดินแดนของพวกตนไปรวมกับรัสเซียก็เป็นได้
ความเคลื่อนไหวสำคัญประการหนึ่งที่แทรกเข้ามา ก็คือท่าทีของสหรัฐกับพันธมิตรนาโต้ที่ประกาศส่งกำลังพลและอาวุธเข้าไปในยุโรปตะวันออก (ไม่ใช่ในยูเครนโดยตรง) เพื่อตอบโต้และป้องกันการรุกรานของรัสเซีย
ความเคลื่อนไหวลักษณะนี้เป็นความเคลื่อนไหวในทางเปิด แต่ในทางลับเป็นที่ทราบกันดีว่า อาจเป็นสัญญาณที่นาโต้กำลังดำเนินการ “ติดอาวุธ” ให้กองกำลังของยูเครนเพื่อให้กลับมาทำ “สงครามกองโจร” ต่อต้านรัสเซียหรือไม่
เพราะหากทหารยูเครนพ่ายแพ้ (ซึ่งแพ้แน่นอน) แต่มีความพยายามจากนาโต้ในการสนับสนุนอาวุธให้ยูเครน ย่อมมีความจำเป็นที่นาโต้จะต้องอาศัยประเทศสมาชิกนาโต้ที่มีเขตแดนติดกับยูเครนเป็นช่องทางลักลอบส่งอาวุธไปให้กองกำลังของยูเครนที่แปรสภาพเป็นกลุ่มต่อต้าน และอาจใช้ประเทศสมาชิกนาโต้เหล่านั้นเป็นแหล่งพักพิง ตลอดจนเป็นฐานปฏิบัติการนอกประเทศเพื่อโจมตีกองกำลังรัสเซีย
ถ้ามีการทำ “สงครามกองโจร” ขึ้นจริง โดยใช้ประเทศสมาชิกนาโต้เป็นทางผ่านอาวุธและพื้นที่พักพิง นอกจากมีความเสี่ยงจะเกิดสงครามกองโจรแบบยืดเยื้อในยูเครน และมีความเสี่ยงจะเกิดการกระทบกระทั่งระหว่างนาโต้กับรัสเซียแล้ว ยังสุ่มเสี่ยงที่สงครามจะขยายขอบเขตด้วย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ารัสเซียได้วางแผนพร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์นี้ไว้แล้ว รัสเซียก็จะฉวยโอกาสปฏิบัติการโจมตีก่อน ด้วยการเร่งยึดยูเครนให้ได้เร็วที่สุด และสถานการณ์อาจพัฒนาไปสู่ “สงครามขยายวง” ในทวีปยุโรปได้เหมือนกัน
ในทางกลับกัน ถ้ารัสเซียใช้วิธีการเดียวกัน ด้วยการให้การสนับสนุนอาวุธกับกองกำลังในประเทศที่เป็นพันธมิตรกับตน เช่น อิหร่าน ซีเรีย ลิเบีย หรือประเทศอื่นใดที่เป็นปฏิปักษ์กับนาโต้ โดยเฉพาะสหรัฐ สถานการณ์ความไม่สงบของโลกอาจแพร่กระจายไปจนยากจะควบคุม
ลองนึกภาพซีเรีย และผลกระทบที่เกิดตามมา ทั้งความพังพินาศของประเทศ ความสูญเสียของผู้คน และคลื่นของผู้อพยพ นั่นอาจเป็นภาพจำลองของสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นจริงในยูเครน
ขณะเดียวกัน สมาชิกนาโต้ที่เป็นชาติเล็กๆ และเป็นรัฐด่านหน้า (กันชนระหว่างยุโรปกับรัสเซีย) ซึ่งประเทศเหล่านี้หวังพึ่งร่มเงาด้านความมั่นคงของนาโต้ เช่น โปแลนด์ ลิทัวเนีย ลัตเวีย เอสโตเนีย อาจต้องกลายเป็นแพะรับบาป เข้าสู่สงคราม และเสี่ยงถูกโจมตีไปโดยปริยาย
ความขัดแย้งนี้กำลังบานปลายกลายเป็นสงครามยืดเยื้อหรือไม่...ต้องรอดู!!
----------------------
ขอบคุณภาพจากคนไทยในยูเครน