อดีตเจ้าอาวาสโดนกล่าวหาทำร้ายแม่บังเกิดเกล้า ยอมสึกจากความเป็นพระแล้ว ดอดไปลาสิกขากับเจ้าคณะอำเภอ ด้านตำรวจนำกำลังเข้าค้นกุฏิที่เคยจำพรรษา ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย พร้อมนำตัวดำเนินคดี ยืนยันไม่มีเงินล้าน พร้อมอาวุธปืนตามที่เป็นข่าว
ความคืบหน้ากรณี พระสุทัศน์ อดีตเจ้าอาวาสวัดโคกโก บ้านโคกโก หมู่ 4 ต.ลำภู อ.เมือง จ.นราธิวาส ถูกดำเนินคดีฐานทำร้ายร่างกาย นางละเอียด นิลสุวรรณ อายุ 73 ปี ซึ่งเป็นมารดาแท้ๆ จนได้รับบาดเจ็บ ทั้งยังทำร้ายร่างกายชาวบ้าน ซึ่งเป็นหญิงชราอีกคนจนได้รับบาดเจ็บไปด้วยอีก 1 ราย เหตุเกิดตอนกลางวันๆ แสกๆ ภายในวัดโคกโก เมื่อวันที่ 5 ก.พ.65 จนถูกเจ้าคณะปกครองปลดจากตำแหน่งเจ้าอาวาสนั้น
ช่วงที่ผ่านมา มีมติของคณะสงฆ์จังหวัดนราธิวาส เห็นควรให้ พระสุทัศน์ สึกจากความเป็นพระ แต่เนื่องจากพระสุทัศน์ไม่ยินยอม และไม่ได้กระทำอาบัติขั้น “ปาราชิก” จึงยังไม่ขาดจากความเป็นพระ มีแต่การถูกดำเนินคดีอาญา ซึ่งหากศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว หรือถูกพิพากษาว่ามีความผิด ต้องเข้าเรือนจำ หรือเข้าห้องขัง ก็จะถูกจับสึก หรือจับถอดจีวรอยู่ดี แม้สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนราธิวาสได้พยายามเสนอให้พระสุทัศน์ลาสิกขา แต่เจ้าตัวก็ไม่ยินยอม
ทว่าล่าสุด มีรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายของวันอังคารที่ 8 ก.พ.65 พระสุทัศน์ อดีตเจ้าอาวาสวัดโคกโก ได้ทำการลาสิกขากับ พระครูพิพัฒน์ ณ บุญเขต เจ้าอาวาสวัดเขานาคา เจ้าคณะอำเภอเมืองนราธิวาส เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
@@ เผยลาสิกขาโดยสมัครใจ
ด้าน พระครูไพโรจน์ธรรมานุกูล เจ้าคณะตำบลลำภู เจ้าอาวาสวัดกำแพง ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดโคกโก กล่าวว่า การกระทำของพระสุทัศน์ ถือว่าเป็นคดีอาญาฐานทำร้ายร่างกาย ต้องลาสิกขา ถ้าไม่ลาสิกขา เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินคดีไม่ได้ จึงต้องทำการลาสิกขาก่อน
ขณะที่ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า พระสุทัศน์ หรือปัจจุบันคือ นายสุทัศน์ นิลสุวรรณ ได้สมัครใจลาสิกขาด้วยตัวเอง
@@ ปัดข่าวค้นกุฏิเจอเงินล้าน - อาวุธปืน - แต่สะสมกีตาร์
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองนราธิวาส ได้นำกำลังเข้าตรวจค้นภายในกุฏิที่นายสุทัศน์ เคยจำพรรษาอยู่สมัยที่ยังเป็นพระ เพื่อหาวัตถุพยานที่นำไปสู่ชนวนการก่อเหตุ แต่ไม่พบสิ่งของต้องสงสัย หรือผิดกฎหมายแต่อย่างใด
ส่วนที่มีกระแสข่าว พบอาวุธปืนหลายกระบอก รวมถึงเงินสดจำนวนกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเหรียญนั้น ทีมข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์ขณะตรวจค้นกุฏิ ยืนยันว่า ไม่พบอาวุธปืน ส่วนเงินเหรียญที่พบในกุฏิก็มีไม่มาก ยอดเงินล้านกว่าบาท เป็นยอดเงินในบัญชีเงินฝากของวัด ซึ่งการเบิกจ่าย ต้องลงชื่อร่วมกัน 2 ใน 3 คน สำหรับบัญชีเงินฝากส่วนตัวของนายสุทัศน์ มีเงินอยู่ประมาณ 4 แสนบาท แต่ตรวจสอบแล้วไม่พบความผิดปกติ
ขณะที่เรื่องอาวุธปืน ก่อนหน้านี้ในช่วงหลังเกิดเหตุทำร้ายมารดาวันแรก มีการพบอาวุธปืนภายในวัด แต่เป็นปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 และได้รับการยืนยันว่า ไม่ใช่ปืนของพระ โดยภายในกุฏิของอดีตพระ มีกีตาร์ถึง 6 ตัว ทั้งกีตาร์ไฟฟ้า และกีตาร์โปร่ง เนื่องจากนายสุทัศน์เป็นคนชอบดนตรี
@@ จับตาแจ้งข้อหาเพิ่มโทษทำร้ายบุพการี
วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ทำการควบคุมตัวนายสุทัศน์ไปยัง สภ.เมืองนราธิวาส เพื่อสอบเค้นหาความจริงให้แน่ชัดอีกครั้งถึงสาเหตุของการทำร้ายมารดาบังเกิดเกล้า ก่อนเตรียมดำเนินคดีตามกฎหมายฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อย่างไรก็ดี หากสอบสวนแล้วพบหลักฐานว่า เป็นจงใจในการทำร้ายบุพการี ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 296 ให้เพิ่มโทษเป็นจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ