“นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมาจังหวัดชายแดนภาคใต้...ผมเชื่อมั่นในศักยภาพทางเศรษฐกิจของพื้นที่นี้”
เป็นคำออกตัวของ คีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ระหว่างร่วมวงแลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับการทำธุรกิจ และเสนอแนวคิดในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในจังหวัดชายแดนภาคใต้
กิจกรรมพบปะพูดคุยจัดขึ้นแบบสบายๆ ตลอดช่วงบ่ายของวันศุกร์ที่ 21 ม.ค.65 ที่สวนอาหารริมน้ำ ในอำเภอเมือง จ.นราธิวาส
วงแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในลักษณะ “ล้อมวงคุย” นี้ เกิดขึ้นจากนักธุรกิจรุ่นใหม่จังหวัดชายแดนใต้ หรือ กลุ่ม YES เชิญ คีรี กาญจนพาสน์ นักธุรกิจหมื่นล้าน มาพูดคุยกับคนจากภาคธุรกิจ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ หอการค้า สภาอุตสาหกรรม และภาคประชาชน ปรากฏว่ามีผู้สนใจเข้าฟังมากถึง 120 คน เต็มล้นห้องประชุมสวนอาหารริมน้ำ
โอกาสนี้ยังมี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ อดีตประธานรัฐสภา และอดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ ในฐานะคลุกคลีอยู่ในพื้นที่ชายแดนใต้ เคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จนได้รับการยอมรับจากคนในพื้นที่อย่างกว้างขวาง และเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งกลุ่ม YES เข้าร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้วย รวมถึง นายกูเฮง ยาวอหะซัน, นายอับดุลอายี สาแม็ง และ นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ ส.ส.ของพรรคประชาชาติ
@@ นายกเล็ก ผู้นำท้องถิ่น ผลัดกันโชว์วิสัยทัศน์
บรรยากาศในห้องประชุมจัดเป็นเวทีเสวนาเล็กๆ โดยเปิดโอกาสให้นักธุรกิจรุ่นใหม่ และผู้นำท้องถิ่นชายแดนใต้ได้ผลักดันแสดงวิสัยทัศน์และแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของพื้นที่ ขณะที่ นายคีรี ได้ให้ความเห็นและเสนอแนะอย่างเป็นกันเอง
ผู้ที่ร่วมเสนอแนวคิดการพัฒนา ก็เช่น ดร.นิเมธ พรหมพยัต ประธานหอการค้าจังหวัดนราธิวาส ได้ชูศักยภาพของ อ.แว้ง จ.นราธิวาส ว่าสามารถเชื่อมการท่องเที่ยวและการพัฒนากับ อ.เบตง จ.ยะลา เพราะเป็นเมืองสวยงาม บรรยากาศเหมือนสวิสเซอร์แลนด์ หากเชื่อมกันได้จะสร้างศักยภาพของการท่องเที่ยวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ
นายไพซอล อาแว นายกเทศมนตรีเมืองนราธิวาส ได้เสนอศักยภาพและโอกาสของ จ.นราธิวาส ในฐานะเมืองชายแดน
นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา หรือ “นายกอ๋า” ได้นำเสนอศักยภาพของ จ.ยะลา ด้วยการพัฒนาเชื่อมโยงทั้งสามจังหวัดเข้าด้วยกัน คือ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส โดยยะลาจะเป็นเกาะที่สวยงามแม้ไม่มีทางออกทะเล แต่ล้อมรอบด้วยเมืองที่มีทางออกทะเล ทั้งยังเสริมศักยภาพให้เป็นศูนย์กลางด้านการเกษตร การค้า และการคมนาคมได้
นายวรุต ชคทิศ ประธานกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่และอุตสาหกรรมปัตตานี เสนอศักยภาพของปัตตานีในมิติของศูนย์กลางอาหารทะเล และตลาดสินคาประมงที่ใหญ่ที่สุดแห่งปลายด้ามขวาน
ดร.อาแซ สะยาคะ กลุ่มพัฒนาเกษตร ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนา เสนอแนวทางการยกระดับการพัฒนาคุณภาพปาล์มน้ำมัน ซึ่งขณะนี้กำลังมีราคาสูง
นายอับดุลอายี สาแม็ง ส.ส.ยะลา เขต 3 พรรคประชาชาติ เล่าถึงปัญหายางพาราที่ได้รับผลกระทบจากโรคใบร่วง และความท้าทายในการแก้ไขปัญหา
ขณะที่ นายภคินวัฒน์ อุดมพงศ์ นักธุรกิจรุ่นใหม่ เสนอการใช้เทคโนโลยีของโดรน (Drone) หรืออากาศยานไร้คนขับในการแก้ไขปัญหา รวมถึงเสริมศักยภาพของภาคธุรกิจและภาคบริการในพื้นที่ด้วย
นายสุทันย์ ศรีใจพระเจริญ นักธุรกิจ เสนอแนวทางการพัฒนาสนามกอล์ฟในปัตตานี
นายชารีฟ เด่นสุมิตร นักธุรกิจรุ่นใหม่อีกราย เสนอช่องทางการค้าโดยใช้แพลทฟอร์มต่างๆ โดยเน้นวัตถุดิบฮาลาล เพื่อเปิดตลาดที่มีความเฉพาะเจาะจง
ทั้งหมดนี้ นายคีรี ในฐานะนักธุรกิจใหญ่ระดับประเทศที่ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติ ได้แสดงความคิดเห็นต่อโมเดลธุรกิจที่นำเสนอ และแนะนำโอกาสในการขยายธุรกิจให้กับผู้ร่วมเวทีทุกคน
@@ “คีรี” เปิดปูมชีวิต-ธุรกิจ-แนวคิดลงทุน
คีรี กาญจนพาสน์ กล่าวเปิดใจตอนหนึ่งระหว่างร่วมวงเสวนา...
“ผมรู้สึกดีใจมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่ผมมาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เริ่มที่ จ.นราธิวาส ที่อยู่ใต้สุด เรียกได้ว่าจริงๆ แล้วไม่เคยมาทางใต้ทั้งสามจังหวัดเลย ขอบคุณท่านประธานวันมูหะมัดนอร์ มะทา และท่านเลขาฯ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ที่ได้มาชวนผม บอกว่าให้โอกาสมาพบปะกับพวกท่านในวันนี้
ผมเชื่อมั่นในศักยภาพของจังหวัดชายแดนภาคใต้ วันนี้ผมได้มาที่นี่แล้ว ก็มีโอกาสที่จะมาพูดถึงเรื่องโอกาสและศักยภาพเศรษฐกิจทางชายแดนใต้
ผมจะขอแนะนำตัวสักนิดหนึ่งในฐานะที่ไม่เคยมาแถบนี้เลย ผมเกิดเมืองไทยที่กรุงเทพฯ แต่หลายคนจะบอกว่าเป็นมังกรฮ่องกง ผมเกิดในเมืองไทย เพียงแต่ว่าไปอยู่ต่างประเทศนาน โดยเฉพาะที่ฮ่องกง และก็มีโอกาสที่จะไปเห็นธุรกิจที่มีในต่างประเทศ อยู่ที่นั่น 30 กว่าปี ก็เลยอาจจะมีความเห็นที่จะต่างกับคนไทยที่ยังไม่มีโอกาสไปเจออะไรบางอย่างเท่ากับผม เนื่องจากผมอยู่ที่นั่นนาน เจอกับสิ่งต่างๆ เจอกับโอกาสต่างๆ
ผมกลับมาเมืองไทย สิ่งแรกที่ผมทำคือการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ผมชอบทำโครงการที่มองอะไรแล้วคิดถึงคนที่จะมาใช้ คนที่จะมาอยู่เป็นหลัก ฉะนั้นโครงการแรกที่ผมทำในเมืองไทยคือ โครงการธนาซิตี้ ที่บางนา พื้นที่ประมาณ 1,400 กว่าไร่ ลงทุนทุกอย่างที่เป็นโครงสร้างของเมืองที่มีโครงสร้างพื้นฐานทุกอย่าง ถนน ไฟฟ้า น้ำ ก็เพียงเพราะว่ามันต้องมาเป็นเฟสๆในการเข้ามาอยู่
โครงการต่อมาที่ประชาชนรู้จักคือ หมู่บ้านเมืองทองโครงการต่างๆ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) การบุกเบิกบริการรถไฟฟ้ารายแรกสายสีเขียว ได้ขยายเส้นทางรถไฟฟ้าสายต่างๆ ได้แก่ สายสีเหลือง และสายสีชมพู ได้ลงนามในสัญญาร่วมลงทุนโครงการพัฒนาสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ให้เป็นสนามบินนานาชาติเชิงพาณิชย์หลักแห่งที่ 3 มูลค่าสัญญามากกว่า 3 แสนล้านบาท และต้องพัฒนาเป็นเมืองอีก 2 แสนล้านบาท รวมประมาณ 5 แสนล้านบาท ยังมีธุรกิจด้านการท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ ก่อนโควิดมีโรงแรมประมาณ 30,000 ห้อง ในช่วงโควิดได้ขายไปบางส่วน เหลือประมาณหมื่นกว่าห้อง”
@@ “ทวี” ชูพัฒนาตลาดทุน ควบคู่ทุนมนุษย์-ทุนทางสังคม
ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า กิจกรรมวันนี้เป็นพหุวัฒนธรรม พหุสหวิชาชีพ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการศึกษา สิ่งที่เข้มแข็งที่สุดของจังหวัดชายแดนภาคใต้ก็คือทรัพยากรบุคคล ผสมกับทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด
“บ้านเรามีปัญหาแทรกซ้อนจนรู้สึกหวาดระแวง จึงไม่ได้ใช้ศักยภาพให้เต็มศักยภาพ ถือเป็นความท้าทายที่จะนำภาคใต้ไปสู่การพัฒนา ไปสู่การอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข”
เลขาธิการพรรคประชาชาติ บอกว่า ถึงเวลาที่ประเทศไทยต้องให้ความสำคัญและให้โอกาสกับคนรุ่นใหม่ นักธุรกิจรุ่นใหม่ เพื่อดูแลพื้นที่และดูแลประเทศต่อไป
“ผมเคยทำโครงการนำเยาวชนหรือนักธุรกิจที่อยากจะทำธุรกิจมารวมกัน เหมือนวิทยาลัยตลาดทุน แต่ตลาดทุนอาจจะมุ่งไปที่เศรษฐกิจ แต่การที่กลุ่มน้องๆ เป็นกลุ่มธุรกิจรุ่นใหม่ชายแดนใต้ ก็อยากให้เป็นทั้งตลาดทุนและทุนมนุษย์ ทุนทางสังคมที่จะได้มีโอกาส มีความเชื่อมโยง แล้วใช้สติปัญญาของน้องๆ ที่เป็นคนรุ่นใหม่ในการพัฒนาต่อไป เพราะคนที่เกิดก่อนก็จะต้องไป คนใหม่ก็จะต้องเข้ามาแทนด้วยความเข้มแข็งและมั่นคง”
“ที่ผ่านมาอาจกล่าวว่ามีศักยภาพและมีความท้าทาย แต่ยังไม่ถึงโอกาส สิ่งที่สำคัญที่สุดวันนี้คือเป็น ‘โอกาส’ ที่ดีที่คุณคีรีมาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยน บอกเล่าถึงผลงาน ประสบการณ์ เพราะความรู้ความเชี่ยวชาญของคุณคีรีเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ และที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือความจริงใจที่อยากจะทำสิ่งดีงาม เกิดประโยชน์ต่อคนส่วนรวม”
@@ นมัสการศาลเจ้า
ก่อนเริ่มเวทีเสวนา คณะของนายคีรี ได้ไปนมัสการศาลเจ้าโก้วเล้งจี่ เขามงคลพิพิธ ภายในวัดบางนรา อ.เมืองนราธิวาส และพบปะพี่น้องประชาชนเชื้อสายจีนใน จ.นราธิวาส ยะลา และปัตตานี พร้อมร่วมรับประทานอาหารพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงของจังหวัดชายแดนภาคใต้
และเมื่อเสร็จกิจกรรมเสวนา นายคีรีได้เดินทางกลับพร้อมคณะด้วยเครื่องบินส่วนตัว ที่ท่าอากาศยานนราธิวาส
สำหรับ คีรี กาญจนพาสน์ ปัจจุบันอายุ 72 ปี เป็นประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการระบบขนส่งมวลชนทางรางสายแรกของเมืองไทย ซึ่งก็คือ “รถไฟฟ้าสายสีเขียว” ที่เรียกกันติดปากว่า “รถไฟฟ้าบีทีเอส” โดย คึรี ยังมีธุรกิจอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ ได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์บส์ เมื่อปี 63 ให้เป็นมหาเศรษฐีลำดับที่ 14 ของประเทศไทย มีทรัพย์สินรวมกว่า 6 หมื่นล้านบาท