นราธิวาสพบผู้ป่วยโอมิครอน 2 รายแรกที่สุไหงโก-ลก เป็นนักศึกษาเดินทางกลับจากฉลองปีใหม่ในภูเก็ต สาธารณสุขเร่งคัดกรองกลุ่มสัมผัสเสี่ยงใกล้ชิด พร้อมนำเข้ากักตัวติดตามอาการ เตือนประชาชนอย่าตระหนกปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด
วันพฤหัสบดีที่ 13 ม.ค.65 นายมะยุรี เจะโซะ สาธารณสุขอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส แจ้งว่า ขณะนี้ อ.สุไหงโก-ลก พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในพื้นที่จำนวน 2 ราย โดยเป็นนักศึกษาที่พักอาศัยในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จำนวน 1 ราย และในพื้นที่หมู่ 5 ต.ปาเสมัส จำนวน 1 ราย โดยทั้ง 2 รายกลับมาจากการร่วมงานส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ใน จ.ภูเก็ต เมื่อมีอาการจึงทำการตรวจ ATK ได้ผลเป็นบวก จากนั้นจึงส่งตรวจหาสายพันธุ์และได้รับการยืนยันว่าเป็นสายพันธุ์โอมิครอน
โดยขณะนี้ทั้ง 2 รายเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลกแล้ว และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้เข้าทำการคัดกรองกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในครอบครัว และผู้สัมผัสใกล้ชิดบุคคลทั้ง 2 ราย เพื่อให้กักตัว ติดตามอาการ ทั้งนี้ขอเน้นย้ำว่าการนิยามการเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง จะหมายถึงผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อโดยไม่สวมหน้ากากอนามัยเป็นหลัก
สำหรับประชาชนในพื้นที่ไม่ควรตื่นตระหนกกับการพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน เพราะอาการโดยรวมน้อยกว่าสายพันธุ์เดลต้า เพียงแต่จะแพร่เชื้อได้ง่าย ดังนั้นขอให้ทุกคนให้ความสำคัญกับการสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือ หลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่แออัด และทุกครัวเรือนที่มีผู้ที่ครบตามเกณฑ์ ตั้งแต่อายุ 12 ปีขึ้นไป ผู้สูงอายุ กลุ่มเสี่ยง 7 โรคเรื้อรัง หญิงตั้งครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ รวมทั้งผู้ป่วยติดเตียง ควรฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมทุกเข็มตามประกาศของกรมควบคุมโรค
ในกรณีพบเชื้อจะมีการจัดยาต้านไวรัสฟาวิพิราเวียร์ให้รับประทานในช่วง 5-10 วัน ซึ่งส่วนใหญ่เชื้อไวรัสก็จะหายไป แต่ในรายที่พบเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน หรือผู้ป่วยที่มีอาการ ก็จะนำเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดในวงกว้างหากรักษาตัวภายในบ้าน
สาธารณสุขอำเภอสุไหงโก-ลก กล่าวย้ำอีกว่า กรณีผู้ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ที่พบการแพร่ระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน ขอให้ทำการตรวจ ATK ก่อนเข้าพื้นที่ ประมาณ 12-72 ชั่วโมง และตรวจซ้ำทุก 3 วันจนครบ 7 วัน เพราะการพบผู้ติดเชื้อเร็ว รักษาทันที จะสามารถป้องกันการแพร่ระบาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ