ผู้การตำรวจนราธิวาส เผยเหตุยิงรถกระบะ ทำวัยรุ่นเจ็บ 2 ราย ตำรวจเข้าใจผิดเป็นรถขนยาเสพติด เนื่องจากโบกแล้วไม่จอด แถมขับหลบหนี สั่งแจ้งข้อหามือยิง พร้อมดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมาย ด้านพ่อคนเจ็บพร้อมไกล่เกลี่ย เปรยถ้าเด็กรู้ว่าเป็นตำรวจคงไมขับหนี
ความคืบหน้าเหตุยิงรถกระบะของประชาชนในพื้นที่บ้านกำแพง หมู่ 2 ต.กะลุวอ อ.เมือง จ.นราธิวาส ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณตี 3 ซึ่งทางผู้เสียหายระบุว่า ผู้ก่อเหตุเป็นเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ คนในรถเป็นเยาวชน กำลังขับรถไปร้านสะดวกซื้อ และเรื่องนี้มีการนำเสนอข่าวในสื่อท้องถิ่นนั้น
ล่าสุดวันจันทร์ที่ 10 ม.ค.65 พล.ต.ต.แวสาแม สาและ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ “ทีมข่าวอิศรา” ว่า หลังเกิดเหตุตนได้สอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นยัง สภ.ตันหยง ท้องที่เกิดเหตุ โดยได้สั่งการให้ดำเนินการไปตามขั้นตอน
ในเบื้องต้นทราบว่า เป็นความเข้าใจผิดของทั้งสองฝ่าย เนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตันหยง ได้รับแจ้งว่า จะมีการขนย้ายยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตันหยง จึงได้นำกำลังจำนวน 3 นาย ขี่รถจักรยานยนต์ออกตรวจสอบ ได้พบเห็นรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน บท 1646 ปัตตานี ขับผ่านมา จึงได้โบกเพื่อให้จอด เพื่อจะขอตรวจสอบ แต่รถกระคันดังกล่าวได้เหยียบคันเร่งหนีไปทันที
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขับไล่ตามรถคันกล่าวไปจนถึงบ้านคีรี หมู่ 10 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ซ้อนท้ายอยู่ จึงได้ใช้อาวุธปืนเอ็ม16 ยิงล้อรถกระบะ แต่วิถีกระสุนได้แฉลบขึ้นและไปถูกกระจกหลัง ซึ่งมีวัยรุ่นนั่งกันมา 5 คน โดยกระสุนได้ถูกนาย นิฮัลฟาร์ เจ๊ะนิ อายุ 18 ปี และ นายฮานาฟี มะตาเฮ อายุ 21 ปี ที่นั่งอยู่ภายในแค็บหลังคนขับ ได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่คนขับจะทำการจอดรถ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบ โดยให้คนขับพาเพื่อนที่ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลนราธิราชนครินทร์ อ.เมืองนราธิวาส ส่วนอีก 2 คนนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไว้เพื่อสอบสวน
โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความเข้าใจผิดระหว่างทั้งสองฝ่าย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นายแต่งกายครึ่งท่อน ทำให้วัยรุ่นเข้าใจผิดคิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นเป็นโจรที่ตามยิง ส่วนทางด้านตำรวจเองก็เข้าใจว่า วัยรุ่นเป็นกลุ่มที่ค้ายาเสพติดตามที่สายสืบรายงานมา
พล.ต.ต.แวสาแม กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ยึดอาวุธปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก พร้อมปลอกกระสุน 1 ปลอก พร้อมรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ และรถยนต์ของผู้เสียหายนำไปตรวจสอบวิถีกระสุน ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 3 นายถูกตั้งข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น แต่จะเจตนาหรือไม่นั้นต้องดำเนินการสอบสวนต่อไป ขณะเดียวกันในส่วนของผู้เสียหายจะต้องมีการเยียวยาตามความเหมาะสมเช่นกัน
@@ พ่อคนเจ็บพร้อมไกล่เกลี่ย
นายอาสือมิง เจ๊ะนิ พ่อของหนึ่งในผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างไกล่เกลี่ยและเจรจากัน ถ้าเจรจาแล้วตกลงกันได้ ทุกอย่างก็จบ แต่ถ้ายังปัดเป็นเรื่องอื่น ก็คงต้องให้กระบวนการยุติธรรมจัดการ
“ในส่วนของเรื่องที่เกิดขึ้น ลูกสาวโทรมาบอกว่า น้องชายถูกยิง อยู่ที่โรงพยาบาล ก็ตกใจนะ รีบไปดูลูก ทราบเรื่องราวว่า ลูกไปแคมป์ปิ้งวันเด็กที่อ่างเก็บน้ำ เขาไปเที่ยวกับเพื่อนๆ รวมกันประมาณ 20 คน พอตอนดึกช่วงประมาณตี 2 เขาออกไปซื้อของที่เซเว่นฯ ไม่แน่ใจว่าเกิดเหตุตอนขาไปหรือตอนขากลับ ระหว่างทางมีชาย 2 คน (ทราบตอนหลังว่าเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ) เขาอยู่ที่มืดข้างถนน และโบกให้หยุด ตอนนั้นพวกเขาไม่รู้เป็นใคร เพราะไม่ได้แต่เครื่องแบบตำรวจ จึงไม่กล้าจอด”
“จากนั้นจึงได้ยินเสียงยิงปืน และมีรถมอเตอร์ไซด์ขับไล่ตามรถ คนที่ไล่ตามก็ยิงปืนใส่จนทำให้กระสุนถูกฮานาฟี ที่หน้าอก และกระสุนถูกนิอัลฟาร์ ที่ท้อง กระสุนฝั่งในได้รับบาดเจ็บ คนที่เหลือจึงได้พาคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาลและไปแจ้งความกับสถานีตำรวจใกล้ๆ” พ่อของวัยรุ่นเล่ารายละเอียดของเหตุการณ์
นายอาสือมิง กล่าวด้วยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นแบบนี้ เป็นใครก็กลัว ถ้าคนที่ออกมาโบกรถ เด็กๆ รู้ว่าเป็นตำรวจ ก็คงหยุดรถอยู่แล้ว แต่มาแบบนี้ ใครๆ ที่เจอก็กลัว ตอนนี้ยังไม่ได้ไปร้องเรียนที่ไหน คิดว่าน่าจะไกล่เกลี่ยกันได้ ก็ไม่ติดใจอะไร ถ้าทุกอย่างคุยกันได้