วาระ 18 ปีปล้นปืน 18 ปีไฟใต้ปีนี้ ฝ่ายความมั่นคงไม่ได้มีแค่กิจกรรมตรึงกำลังเข้มในพื้นที่เพื่อป้องกันการก่อเหตุรุนแรงเชิงสัญลักษณ์
แต่ปีนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ในยุค พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ ได้ลงพื้นที่พบปะพลังมวลชนที่ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส อำเภอซึ่งเป็นที่ตั้งของ "ค่ายปิเหล็ง" ที่ถูกปล้นอาวุธปืนครั้งมโหฬารเมื่อวันที่ 4 ม.ค.2547 เพื่อชักชวนพี่น้องประชาชนลืมอดีตอันขมขื่น เปลี่ยน "เจาะไอร้อง" เป็น "เจาะไอรัก" เดินหน้าสู่สันติสุขปลายด้ามขวาน
กิจกรรมจัดขึ้นที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง พล.ท.เกรียงไกร แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย พล.ท.ธิรา แดหวา แม่ทัพน้อยที่ 4 ได้ลงพื้นที่พบปะมวลชน ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และผู้นำศาสนาจาก อ.สุไหงปาดี อ.เจาะไอร้อง และ อ.แว้ง จ.นราธิวาส เพื่อร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นถึงประเด็นและแนวทางการเดินหน้าแก้ไขปัญหาในพื้นที่ โดยถือเป็นหนึ่งในกิจกรรม "คำมั่นสัญญา" ที่เคยให้ไว้กับมวลชน
โอกาสนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ยังถือโอกาสให้กำลังใจผู้นำที่มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและความรุนแรง เนื่องจากวันที่ 4 ม.ค.2565 ถือเป็นวันครบรอบ 18 ปีจุดเริ่มต้นสถานการณ์ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือครบรอบเหตุการณ์ปล้นอาวุธปืน จากค่ายกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (ค่ายปิเหล็ง) ซึ่งผู้นำในพื้นที่มีส่วนสำคัญในการสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้กับพี่น้องประชาชน เกี่ยวกับการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ
นอกจากนั้น แม่ทัพยังได้ร่วมอวยพรและมอบของที่ระลึกเนื่องในโอกาสเทศกาลขึ้นปีใหม่ พ.ศ.2565 โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส, ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส, ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48, ส่วนราชการในพื้นที่ ตลอดจนมวลชนเครือข่ายเสวนาสัญจร อ.สุไหงปาดี อ.เจาะไอร้อง และผู้นำในพื้นที่ อ.แว้ง มาร่วมกิจกรรมกันอย่างคึกคักพร้อมเพรียง
พล.ท.เกรียงไกร กล่าวว่า กิจกรรมพบปะกลุ่มมวลชนในพื้นที่ครั้งนี้ เป็นหนึ่งในคำมั่นสัญญาที่เคยบอกเอาไว้ว่าจะมาพบปะกันต่อเนื่องจากปีที่แล้ว และถือโอกาสในวันนี้มาร่วมอวยพรปีใหม่ จะเห็นได้ว่าในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาผู้นำในพื้นที่ถือว่ามีความสำคัญในการสร้างการรับรู้และความเข้าใจในการทำงานแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้เป็นอย่างดี ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นจากความร่วมมือของหลายฝ่าย
"ตลอดระยะเวลาของสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อวันที่ 4 ม.ค.2547 เป็น 18 ปีที่ขมขื่น เป็น 18 ปีที่ไม่มีใครอยากจดจำ เหตุการณ์ได้ผ่านมาแล้ว ก็ขอให้ผ่านไป ในวันนี้การทำงานแก้ไขปัญหาในพื้นที่ยังคงยืนยันในเจตนารมณ์ที่จะเปลี่ยนพื้นที่อดีตที่ร้องไห้และเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ทำให้พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก เจาะไอร้องเป็นเจาะไอรัก และทำพื้นที่สุไหงปาดี เป็นปาดีมีสุข" แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าว
พล.ท.เกรียงไกร บอกด้วยว่า ทุกอย่างจะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ หากขาดความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และผู้นำศาสนา ในการจับมือกันกำหนดเส้นทางแสงสว่างให้เกิดขึ้น ปลดปล่อยเงื่อนไขของความรุนแรง มาช่วยกันขับเคลื่อนด้วยเหตุและผลผ่านสภาประชาธิปไตยตำบล สู่สันติสุขด้วยแนวทางสันติวิธีที่ยั่งยืน เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา รวมใจชาวประชา นำพาสันติสุข สุดท้ายแล้วลงมือทําคือคําตอบ และเราจะร่วมกันเดินหน้าสร้างสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเต็มกำลังร่วมกันต่อไป
ภายหลังพบปะกลุ่มมวลชนในพื้นที่ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ถือโอกาสนอนพักแรมร่วมกับกำลังพลหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 และในช่วงเช้า พล.ต.เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส และกำลังพลได้อวยพรเนื่องในเทศกาลปีใหม่ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 4 ได้ออกพบปะมอบนโยบายการทำงานให้กับหน่วย พร้อมกันนี้ได้กล่าวขอบคุณการทำงานในระยะเวลาที่ผ่านมา และให้กำลังใจสำหรับการทำงานในปี 2565 ต่อไป
จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 4 และคณะได้ร่วมกิจกรรมพบปะยามเช้า พูดคุยกันอย่างเป็นกันเองกับผู้นำในพื้นที่ บรรยากาศเป็นไปอย่างเรียบง่าย ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายที่ดีในการจับมือและประสานการทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ทำให้ประชาชนกลับมามีรอยยิ้มและมีความสุขอย่างยั่งยืนต่อไป