รองโฆษกรัฐบาลยันยังไม่พบ "โอไมครอน" ในพื้นที่ชายแดนใต้ ส่วนการเปิดด่านไทย-มาเลย์ รอมติที่ประชุม ศบค. 13 ธ.ค.นี้ ด้านตัวเลขติดเชื้อโควิดใหม่ 4 จังหวัดปลายด้านขวานเหลือ 558 ราย ป่วยดับ 2 ศพ
วันอาทิตย์ที่ 5 ธ.ค.64 ภาพรวมของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ จ.สงขลา ยอดผู้ป่วยใหม่ทรงตัว โดย จ.นราธิวาส ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันเหลือเพียง 28 ราย และไม่มีผู้เสียชีวิตต่อเนื่องมานาน 18 วัน
พื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ จ.สงขลา เฉพาะวันอาทิตย์ที่ 5 ธ.ค. มีตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่รวมทั้งสิ้น 558 ราย และเสียชีวิต 2 ราย แยกตามจังหวัดได้ดังนี้
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 325 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 63,929 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 63,906 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 4,514 ราย รักษาหายแล้ว 59,139 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 276 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 4,733 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 15,223 ราย, อ.เมืองสงขลา 8,396 ราย, อ.จะนะ 8,362 ราย, อ.สิงหนคร 5,267 ราย, อ.สะเดา 4,866 ราย, อ.เทพา 4,781 ราย, อ.รัตภูมิ 3,817 ราย, อ.สะบ้าย้อย 3,380 ราย, อ.นาทวี 1,745 ราย, อ.บางกล่ำ 1,671 ราย, อ.ระโนด 1,091 ราย, สทิงพระ 943 ราย, ควนเนียง 845 ราย, อ.นาหม่อม 661 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 426 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 94 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,420 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 918 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 108 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 46,590 ราย รักษาหายแล้ว 43,390 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 457 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 99 ราย, โรงพยาบาลสนามจังหวัด 18 ราย, โรงพยาบาลสนามอำเภอ 147 ราย, โรงพยาบาลชุมชน 337 ราย, โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร 1 ราย, โรงพยาบาลสนามค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย 32 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 42 ราย, สิโรรส-ปาร์ควิว ฮอสพิเทล 123 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส เรนโบว์ ฮอสพิเทล 102 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส-ดิอามาน รีสอร์ท 10 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์สะพานปูน - โรงยิมบานา 3 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์ เซาท์เทิร์น วิว 71 ราย และ Home Isolation 363 ราย
จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ยืนยันสะสมแยกตามรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 11,760 ราย, อ.ไม้แก่น 1,127 ราย, อ.ยะหริ่ง 3,620 ราย, อ.หนองจิก 4,618 ราย, อ.โคกโพธิ์ 3,007 ราย, อ.สายบุรี 5,641 ราย, อ.แม่ลาน 728 ราย, อ.ยะรัง 4,470 ราย, อ.ปะนาเระ 1,763 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 2,095 ราย, อ.มายอ 4,554 ราย และ อ.กะพ้อ 1,778 ราย
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 97 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 47,543 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 1,512 ราย รักษาหายแล้ว 47,815 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 333 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 17,151 ราย, อ.เบตง 5,025 ราย, อ.รามัน 6,285 ราย, อ.ยะหา 5,583 ราย, อ.บันนังสตา 7,274 ราย, อ.ธารโต 2,381 ราย, อ.กาบัง 1,289 ราย และ อ.กรงปินัง 2,555 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 1,592 ราย แยกเป็นโรงพยาบาลยะลา 92 ราย, โรงพยาบาลเบตง 44 ราย, โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) 6 แห่ง 166 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 161 ราย, โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 67 ราย, โรงพยาบาลสนามเบตง 9 ราย, โรงพยาบาลสนามรามัน 5 ราย, โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 7 ราย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศอ.12 ยะลา 19 ราย, ผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) 729 ราย , ผู้ป่วยแยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) 213 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 28 ราย แยกเป็นพื้นที่ อ.เมือง 6 ราย, อ.ตากใบ 3 ราย,อ.ยี่งอ 2 ราย, อ.จะแนะ 1 ราย, อ.สุคิริน 1 ราย, อ.รือเสาะ 8 ราย, อ.บาเจาะ 4 ราย, อ.ระแงะ 1 ราย, อ.เจาะไอร้อง 1 ราย อ.สุไหงปาดี 1 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 42,188 ราย รักษาหายสะสม 41,501 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 379 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 8,434 ราย, อ.ระแงะ 4,925 ราย, อ.รือเสาะ 2,269 ราย, อ.บาเจาะ 3,655 ราย, อ.จะแนะ 1,781 ราย, อ.ยี่งอ 3,033 ราย, อ.ตากใบ 3,197 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 3,632 ราย, อ.สุไหงปาดี 3,383 ราย, อ.ศรีสาคร 2,098 ราย, อ.แว้ง 2,328 ราย, อ.สุคิริน 1,203 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 2,248 ราย
@@ รัฐบาลยันชายแดนใต้ยังไม่พบ "โอไมครอน"
วันเดียวกัน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากกรณีที่ประเทศมาเลเซียพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน โดยพบเชื้อจากนักศึกษาที่เดินทางกลับจากแอฟริกาใต้นั้น ขณะนี้ทางการมาเลเซียแจ้งว่า ยังไม่มีเหตุน่ากังวล เนื่องจากบุคคลดังกล่าวได้รับการกักตัวทันทีที่เดินทางถึงมาเลเซีย และได้ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด รวมถึงตรวจหาเชื้อกับบุคคลที่มีความเสี่ยงแล้ว
สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขตสุขภาพที่ 12 (สงขลา สตูล ตรัง พัทลุง ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส) รายงานว่า ขณะนี้ยังไม่พบสายพันธุ์โอไมครอน ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก ทางกระทรวงสาธารณสุขมีระบบการตรวจหาเชื้อและส่งไปถอดรหัสพันธุกรรมหาสายพันธุ์ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 12 สงขลา ฉะนั้นจึงยังไม่มีข้อมูลใดๆ ที่น่ากังวล
ทั้งนี้ จะดำเนินการสุ่มตรวจใน 4 กรณี คือ 1.หากพบการลักลอบเข้ามาแล้วติดเชื้อ 2.สุ่มจากการติดเชื้อในคลัสเตอร์ชุมชน 3.กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ และ 4.ตรวจหาสายพันธุ์จากผู้ติดเชื้อที่เสียชีวิต โดยที่ผ่านมาได้มีการส่งตรวจหาสายพันธุ์ประมาณ 1,000 ตัวอย่างต่อเดือน
@@ เปิดด่านไทย-มาเลย์ ลุ้นมติ ศบค.13 ธ.ค.
ส่วนมีข้อเรียกร้องจากกลุ่ม ส.ส.จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีการเปิดด่านชายแดนไทย-มาเลเซียนั้น น.ส.รัชดา กล่าวว่า ได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้นจาก ศบค.ส่วนหน้าแล้ว และจะรับข้อเสนอดังกล่าวมาพิจารณา ซึ่งความจริงในที่ประชุม ศบค.ครั้งที่ผ่านมา ได้เห็นชอบหลักการในเบื้องต้นแล้ว และให้ ศบค.ส่วนหน้าไปพิจารณาในรายละเอียดเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม หลังจากการประชุม ศบค.ครั้งนั้น ได้เริ่มพบการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนในประเทศมาเลเซีย ทาง ศบค.ส่วนหน้าจึงได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะมีการหารือกันในสัปดาห์หน้านี้ เพื่อเสนอให้ ศบค.ชุดใหญ่พิจารณาในการประชุมครั้งหน้า ซึ่งคาดว่าจะมีขึ้นใน 13 ธ.ค.
@@ หญิงชราเบตงป่วยโควิดดับ 2 ราย
วันเดียวกันนี้ ทีมตอบโต้โควิด -19 สมาคมกู้ภ้ยมุสลิมเบตง ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเบตงให้ไปรับร่างผู้เสียชีวิตจากโควิด ทีมฯจึงเดินทางไปยังตึกไอซียู โรงพยาบาลเบตง เพื่อดำเนินการรับร่างผู้เสียชีวิต เป็นเพศหญิง 2 ราย อายุ 75 ปี และ 80 ปี เพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตกลับไปประกอบพิธีฝังศพตามหลักศาสนาอิสลามที่กุโบร์ (สุสาน ) บ้านกาแป๊ะกอตอใน และบ้านกุนุงจานอง ในเขตเทศบาลเมืองเบตง พร้อมประกอบพิธีละหมาดญานาซะห์ และปฏิบัติตามแนวทางการปฏิบัติควบคู่กับมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมุสลิมสวมชุด PPE ทำการฝังจนแล้วเสร็จ
นายวงศ์วิทย์ อัครวโรทัย สาธารณสุขอำเภอเบตง กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ อ.เบตง ยังคงพบผู้ติดเชื้อ แต่ยอดลดลงจากอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยสาเหตุการติดเชื้อเกิดจากการสัมผัสร่วมบ้านและสัมผัสร่วมกิจกรรม