“ตอนตั้งพรรคใหม่ๆ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เรายังไม่เป็นที่รู้จัก ยังได้รับความไว้วางใจจากพ่อแม่พี่น้องเลือกเข้าสู่สภารวมทั้งสิ้น 6 คน และทำให้เราได้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อเพิ่มอีก 1 คน ส่วนการเลือกตั้งในครั้งต่อไป พรรคประชาชาติมั่นใจว่า จะได้คะแนนมากขึ้นอย่างท่วมท้นทั้ง 12 เขต"
เป็นความมั่นใจอย่างเปี่ยมล้นของ วันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ในฐานะ “บ้านใหญ่ยะลา” ซึ่งผ่านงานการเมืองมาแล้วอย่างโชกโชน ดำรงตำแหน่งสำคัญๆ มานับไม่ถ้วน รวมถึงประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ
“ผมไม่หนักใจที่พรรคทหารพูดว่า จะกวาด ส.ส.ทั้ง 12 เขตในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ และสิ่งที่ทำนั้นตรงกันข้ามกัน จึงยังไม่เข้าใจนัยของคำพูดว่า จะเป็นการกวาดสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของตัวเองออกจากระบบทั้ง 12 เขตหรือเปล่า”
เป็นสุ้มเสียงจาก พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อีกหนึ่งขุนพลแห่งพรรคประชาชาติ ผู้กุมบังเหียน “แม่บ้านพรรค” เมื่อถูกถามถึงคำประกาศของหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่หวังจะกวาด ส.ส.ครบทุกเขต เมื่อครั้งลงพื้นที่วันที่ 6 พ.ย.64
คำประกาศเหล่านี้สะท้อนว่า สามจังหวัดชายแดนภาคใต้น่าจะเป็นพื้นที่เลือกตั้งที่ “เดือดที่สุด” พื้นที่หนึ่งของประเทศ
เพราะวันนี้ขนาดรัฐบาลยังไม่ส่งสัญญาณยุบสภา (มีแต่ส่งสัญญาณว่าจะอยู่ยาว แต่ไม่มีใครเชื่อ) ก็ยังปรากฏว่ามีพรรคเล็ก พรรคใหญ่ พรรคแกนนำ พรรคแคนดิเดต ส่งทัพย่อย ทัพหลวงลงพื้นที่ ประกาศนโยบาย และเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครกันอย่างคึกคัก
เอาแค่นราธิวาสจังหวัดเดียว ก็ต้องบอกว่า “หัวกระไดไม่แห้ง” กันเลย...
@@ พรรคใหญ่สลับกระชับพื้นที่
15 ต.ค.64 พรรคประชาธิปัตย์ลงพื้นที่เปิดตัว “เมธี ลาบานูน” นักร้องนำวงป๊อปร็อคระดับตำนาน เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาสของพรรค
คนที่ไปเปิดตัว ไม่ใช่พวกโนเนม แต่เป็นแม่ทัพจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรค พร้อมด้วยรองแม่ทัพคู่ใจอย่าง นิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย
6 พ.ย.64 พรรคพลังประชารัฐนำ “ทัพหลวง” ลงพื้นที่ หัวขบวนคือ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประกาศความเชื่อมั่น เลือกตั้งหนหน้า พปชร.ขอกวาด ส.ส.ทั้ง 12 เขต ทั้ง 11 เขตเดิม และ 1 เขตใหม่ที่จะเพิ่มขึ้น
13-14 พ.ย.64 พรรคประชาชาติลงพื้นที่ปัตตานี นราธิวาส พบปะผู้นำศาสนา คนรุ่นใหม่ รวมถึงประชาชนทั่วไป และพ่อค้าแม่ค้าในตลาด
นี่ยังไม่นับ “ช่อ” พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ที่ลงพื้นที่ จ.ยะลา พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นประเด็นสิทธิมนุษยชน บทบาทของคนรุ่นใหม่ และการรณรงค์ยุติการซ้อมทรมาน ร่วมกับกลุ่มผู้สนับสนุน และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคก้าวไกลด้วย
@@ ประชาชาติ...สัมผัสรากหญ้า
ประเมินจากที่ตาเห็น ต้องบอกว่าพรรคประชาชาติ เป็นพรรคเดียวที่ลงพื้นที่ในลักษณะ “สัมผัสประชาชนรากหญ้า” และ “ผู้นำศาสนา” ซึ่งเป็นกลุ่มคนสำคัญของดินแดนปลายด้ามขวานมากที่สุด
วันมูหะมัดนอร์ มะทา นำคณะ ส.ส.ในพื้นที่เข้าพบปะคณะกรรมการอิหม่าม ผู้นำศาสนา ตัวแทนครูสอนตาดีกา จาก อ.ยะรัง อ.มายอ และ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี โดยใช้พื้นที่บ้านศรียะรัง อ.ยะรัง จ.ปัตตานี
หัวหน้าพรรคประชาชาติ เผยว่า ทางพรรคอยู่ระหว่างการสรรหาตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ยืนยันว่า มีผู้สมัคร ส.ส.ครบทั้ง 12 เขตในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างแน่นอน
จุดเด่นของพรรคประชาชาติที่เป็น “มิติใหม่” ของ ส.ส.จากชายแดนใต้ ก็คือใช้สิทธิ์ลุกขึ้นอภิปรายในสภาแทบทุกวาระที่มีโอกาส ทำให้ ส.ส.ของประชาชาติได้สะท้อนปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ผ่านเวทีรัฐสภาสู่สาธารณะ โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดขึ้นเฉพาะถิ่น ในพื้นที่พิเศษอย่างสามจังหวัดชายแดนใต้
“ตอนตั้งพรรคใหม่ๆ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เรายังไม่เป็นที่รู้จัก ยังได้รับความไว้วางใจจากพ่อแม่พี่น้องเลือกผู้แทนของเราเข้าสู่สภารวมทั้งสิ้น 6 คน และทำให้เราได้ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อเพิ่มอีก 1 คน ส่วนการเลือกตั้งในครั้งต่อไป ไม่ว่าจะเป็นบัตร 2 ใบหรือบัตรใบเดียว พรรคประชาชาติ มั่นใจว่าผลงานต่างๆ ที่ปรากฏ โดยเฉพาะผลงานในสภา จะส่งผลให้พรรคประชาชาติได้คะแนนมากขึ้นอย่างท่วมท้นทั้ง 12 เขต" วันมูหะมัดนอร์ มะทา กล่าว
@@ ตัดทิ้ง ส.ส.แตกแถว
การเลือกตั้งเมื่อปี 62 พรรคประชาชาติได้ ส.ส.เขตทั้งหมด 6 คน เป็น ส.ส.จากสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งหมด และทุกคนขยันทำงาน ทั้งลงพื้นที่และงานสภา มีเพียงคนเดียวที่แตกแถว และมีข่าวตีจากไปซบอกพลังประชารัฐ แต่เหตุการณ์นี้ดูจะไม่ได้ทำให้แกนนำพรรคกังวลใดๆ
“ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ผ่านมาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเราเป็นที่ยอมรับของประชาชนอย่างท่วมท้น แม้จะมี ส.ส.หนึ่งคนที่ต้องตัดออกไป แต่ก็ยืนยันว่าจะมีการคัดกรองผู้สมัครใหม่อย่างดี จะใช้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต" เป็นประกาศิตจาก วันมูหะมัดนอร์ มะทา
@@ ไม่หวั่น...พรรคทหาร
หลังจากพบปะกับกลุ่มผู้นำศาสนา พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรค ยังพาคณะเดินทางต่อไปพบปะแกนนำเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่ปัตตานี โดยใช้สถานที่ โรงเรียนอิบนูอัฟฟานบูรณวิทย์ ต.ตะลุโบะ ในเขตอำเภอเมือง
ช่วงนี้มีไฮไลท์น่าสนใจ ระหว่างที่ พ.ต.อ.ทวี กำลังพูดคุยถึงความสำคัญของเยาวชน ในฐานะอนาคตของชาติ ปรากฏว่ามีตัวแทนเยาวชนคนหนึ่งลุกขึ้นถามว่า จะป้องกันพรรคทหารที่ประกาศว่าจะเข้ามากวาด ส.ส.ในพื้นที่ได้อย่างไร
คำตอบของ พ.ต.อ.ทวี ต้องถือว่าลีลาไม่เบาเลยทีเดียว
“ไม่หนักใจที่พรรคทหารพูดว่าจะกวาด ส.ส.ทั้ง 12 เขตในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ และสิ่งที่ทำนั้นตรงกันข้าม ผมยังไม่เข้าใจนัยของคำพูดว่าจะเป็นการกวาดสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของตัวเองออกจากระบบทั้ง 12 เขตหรือเปล่า หรือมีนัยอื่น”
เลขาธิการพรรคประชาชาติ ยังบอกว่า พรรคให้ความสำคัญและมีนโยบายเพื่อตอบโจทย์เยาวชนคนรุ่นใหม่และพร้อมเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดวิธีการ กระบวนการ และแนวทางในการขับเคลื่อน เพื่อให้เยาวชนได้มีจุดยืนอย่างสมภาคภูมิ เพื่อกำหนดอนาคตของตัวเอง
@@ ลั่นปักธง “ตากใบ”
จากนั้น พ.ต.อ.ทวี พาคณะเดินทางลงพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ไปเดินตลาดชายแดนตาบา (ด่านตาบา อ.ตากใบ) และมีการเปิดเวทีเล็กๆ พูดคุยกับชาวบ้าน และรับฟังเสียงสะท้อนต่างๆ
กิจกรรมนี้มี อารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ อดีตรัฐมนตรี และอดีต ส.ส.นราธิวาสหลายสมัย แกนนำกลุ่มวาดะห์ ปรากฏกายร่วมคณะไปด้วย
การเลือกลงพื้นที่ตากใบ ถือว่ามีความแหลมคมไม่น้อย เพราะเป็นพื้นที่ “ประวัติศาสตร์บาดแผล” ที่ฝ่ายความมั่นคงตกเป็นจำเลยในความรู้สึกของชาวบ้าน เคยมีการชุมนุมประท้วงที่จบลงด้วยความรุนแรง และความสูญเสียจากสิ่งที่เรียกว่า “ขาดอากาศหายใจ”
”ตากใบเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเจ็บปวดจากเหตุการณ์เมื่อปี 47 และเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดบาดแผลที่ฝังลึก สิ่งเดียวรัฐบาลควรทำและเยียวยา คือการคืนความเป็นธรรมในทุกมิติ และในระยะสั้นคือการชดเชยการการขาดโอกาสทางเศรษฐกิจของพี่น้องประชาชน และคืนความยุติธรรมแก่ผู้ได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม” พ.ต.อ.ทวี กล่าว
และว่า “แต่การพัฒนาในมิติต่างๆ ที่เกิดขึ้น ต้องอาศัยการเมืองและกลไกที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นจึงถึงเวลาแล้วที่พี่น้องชาวตากใบต้องมีตัวแทนเป็นของตนเองเพื่อร่วมกันกำหนดอนาคต เพราะการเมืองจะทำให้คนจนกับคนรวยมีความเท่าเทียมกัน ในวันไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง คะแนนของคนรวยและคนจนจะเท่ากัน 1 สิทธิ์ 1 เสียง เราต้องทำให้การลงคะแนนเลือกตั้งเป็นเสียงที่มีเกียรติยศและเป็นสิทธิ์โดยชอบ"
คณะของเลขาธิการพรรคประชาชาติพักค้างคืนในพื้นที่ และรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันอาทิตย์ได้จัดกิจกรรมต่อเนื่องที่ตากใบ ซึ่งถือว่าเป็นพรรคการเมืองแทบจะพรรคเดียว ณ เวลานี้ ที่ส่งระดับแกนนำลงไปคลุกคลี จับเข่าคุยกับชาวบ้านชนิดข้ามคืน...
สนามเลือกตั้งที่ชายแดนใต้ต้องบอกว่า “เดือด” ตั้งแต่เริ่มโหมโรง!