ตำรวจสอบสวนกลางตามรวบ "เสี่ยโจ้ ปัตตานี" เจ้าพ่อค้าน้ำมันเถื่อนภาคใต้ เผยจับกุมได้ช่วงกลางดึกที่ผ่านมาย่านห้วยขวาง คดียาวเป็นหางว่าว ทั้งฟอกเงิน-ค้าน้ำมันเถื่อน แถมมีคดีค้างเก่าปลอมเอกสารเกี่ยวพันคดีเคลื่อนย้ายไม้ ขณะที่เจ้าตัวยังปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
วันศุกร์ที่ 5 พ.ย.64 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) และ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ผบก.ปอศ.) ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายสหชัย เจียรเสริมสิน อายุ 53 ปี หรือ "เสี่ยโจ้" เจ้าพ่อค้าน้ำมันเถื่อนรายใหญ่
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า สืบเนื่องจากคดีเมื่อปี 2555 ชุุดปราบน้ำมันเถื่อนฯ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จับกุมเรือลักลอบขายน้ำมันขณะลักลอบขายน้ำมันเถื่อนที่บริเวณน่านน้ำ จ.สงขลา ยึดของกลางน้ำมันเถื่อน 2,000 ลิตร และเงินสด 48 ล้านบาท ซึ่งก็เป็นเรื่องน่าสงสัยที่มีน้ำมันเพียง 2,000 ลิตร แต่มีเงินสดถึง 48 ล้านบาท
จากนั้นตำรวจได้สืบสวนขยายผลไปจับกุม "เสี่ยโจ้" นำตัวไปตรวจค้นที่พัก พบเอกสารซื้อขายน้ำมันเถื่อนเป็นครั้งๆ จำนวนมาก นับรวมได้ 400-500 ล้านลิตร โดยจำหน่ายไปกว่า 10,000 ครั้ง พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานแล้วจึงมีความเห็นสั่งฟ้องไป และส่งสำนวนการสอบสวนไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด ขณะนี้คดียังไม่เสร็จสิ้น อัยการอยู่ระหว่างสั่งสอบเพิ่มเติม
ต่อมาปี 2558 พนักงานสอบสวน บก.ปอศ. เห็นว่า การค้าน้ำมันเถื่อนเป็นความผิดมูลฐานฟอกเงิน จึงดำเนินคดีฟอกเงินต่อเนื่องมา โดยในปี 2564 ได้มีการออกหมายจับ และสามารถติดตามจับกุม นายสหชัย ได้ที่บริเวณย่านห้วยขวางเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
สำหรับ "เสี่ยโจ้" ยังมีอีกคดีหนึ่งที่เชื่อว่ากระบวนการยังไม่เสร็จสิ้น คือข้อหาทำขึ้น ปลอมขึ้น ซึ่งดวงตรา รอยตรา หรือแผ่นตรวจลงตรา อันใช้ในการตรวจลงตราสำหรับเดินทางระหว่างประเทศ โดยตั้งแต่วันที่ 17 มิ.ย.57 ชุดปฏิบัติการปราบปรามภัยแทรกซ้อนต่อความมั่นคง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ได้บุกตรวจค้น หจก.สินทรัพย์ทวีค้าไม้ ของนายสหชัย และได้คุมตัวนายสหชัยไปสอบสวนในคดีความมั่นคง เนื่องจากต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับการค้าน้ำมันเถื่อนรายใหญ่ของภาคใต้ พบหลักฐานแผ่นตรวจลงตราเข้าเมืองปลอมจำนวนมาก คาดว่าเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนย้ายไม้ คดีนี้พนักงานสอบสวนสั่งฟ้อง ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาจำคุก 1 ปี 9 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน แต่ "เสี่ยโจ้" ได้หลบหนี
พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการสืบสวนติดตาม "เสี่ยโจ้" มาโดยตลอด เนื่องจากถือว่าเป็นขาใหญ่ในวงการน้ำมันเถื่อน พบประวัติมีการเดินทางเข้าออกประเทศเพื่อนบ้านบ่อยครั้ง จึงจับกุมอย่างยากลำบาก
"ขณะจับกุม ตรวจสอบในตัวเสี่ยโจ้ พบใช้หนังสือเดินทางต่างประเทศ ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบอย่างละเอียดว่าเป็นหนังสือเดินทางจริงหรือปลอม จากนี้จะนำตัวส่ง บก.ปอศ.ดำเนินคดีตามกฎหมาย และได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อดำเนินคดีกับผู้ค้าน้ำมันเถื่อนทั้งคดีเก่าและใหม่ จะมีการขยายผล ตรวจสอบทรัพย์สินตามฐานความผิดฟอกเงิน และดำเนินการอย่างละเอียดทั้งหมด" ผบช.ก. กล่าว