เผยผู้ติดเชื้อสะสม 4 จังหวัดชายแดนใต้ยอดรวมใกล้แตะ 1.3 แสนราย เสียชีวิตไปแล้ว 1,049 ศพ ขณะยอดติดเชื้อใหม่ยังดันขึ้นท็อปเท็นครบทุกจังหวัด ด้าน ทบ.หนุนเครื่องบินขนทีมแพทย์และอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยโควิดใต้
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และจังหวัดสงขลา วันพุธที่ 13 ต.ค.64 จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ทั้ง 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังคงติดอยู่ใน 10 อันดับจังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดในประเทศ
จากข้อมูลของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ที่เผยแพร่ผ่านศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด (ศบค.) วันที่ 13 ต.ค. จ.ยะลา มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 650 ราย จากอันดับ 4 ขยับขึ้นมาอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ ตามมาด้วย จ.สงขลา มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 475 ราย จากอันดับ 6 ขยับขึ้นมาอันดับ 3 ส่วน จ.ปัตตานี มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 423 ราย จากอันดับ 2 ลงมาอันดับ 6 และ จ.นราธิวาส ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ 420 ราย จากอันดับ 5 ลงมาอันดับ 7
@@ป่วยสะสมรวมใกล้แตะ 1.3 แสนราย เสียชีวิตแล้ว 1,049 ศพ
ขณะที่รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จากในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ จ.สงขลา วันที่ 13 ต.ค.64 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 2,265 ราย และเสียชีวิตรวม 8 ราย ส่วนผู้ติดเชื้อสะสมรวม 127,358 ราย และมีผู้เสียชีวิตสะสมรวม 1,049 ราย แยกตามจังหวัดได้ดังนี้
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 650 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 31,310 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 7,047 ราย รักษาหายแล้ว 24,041 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 222 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 551 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 11,018 ราย, อ.กรงปินัง 2,115 ราย, อ.เบตง 2,465 ราย, อ.รามัน 4,332 ราย, อ.บันนังสตา 5,209 ราย, อ.กาบัง 862 ราย, อ.ธารโต 1,915 ราย และ อ.ยะหา 3,394 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 7,047 ราย แยกเป็นโรงพยาบาลยะลา 205 ราย, โรงพยาบาลเบตง 146 ราย, โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) 6 แห่ง 490 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 157 ราย, โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 881 ราย, โรงพยาบาลสนามเบตง 173 ราย, โรงพยาบาลสนามรามัน 450 ราย, โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 326 ราย, โรงพยาบาลสนามยะหา 143 ราย, โรงพยาบาลสนามธารโต 77 ราย, โรงพยาบาลสนามกรงปินัง 211 ราย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศอ.12 ยะลา 30 ราย, ผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) 1,815 ราย , ผู้ป่วยแยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) 731 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าระบบ 1,187 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 475 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 37,475 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 37,452 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 6,027 ราย รักษาหายแล้ว 31,287 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 161 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 1,211 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 9,573 ราย, อ.เมืองสงขลา 5,318 ราย, อ.สิงหนคร 3,965 ราย, อ.จะนะ 3,818 ราย, อ.สะเดา 3,035 ราย, อ.สะบ้าย้อย 2,354 ราย, อ.เทพา 2,147 ราย, อ.รัตภูมิ 1,898 ราย, อ.บางกล่ำ 778 ราย, อ.นาทวี 730 ราย, อ.ระโนด 608 ราย, สทิงพระ 593 ราย, อ.นาหม่อม 413 ราย, ควนเนียง 368 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 227 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 52 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,143 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 432 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 644 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 28,224 ราย รักษาหายแล้ว 17,408 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 2 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 339 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 189 ราย, โรงพยาบาลสนามจังหวัด 367 ราย, โรงพยาบาลประจำอำเภอ 1,492 ราย, โรงพยาบาลชุมชน 589 ราย, โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร 3 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 47 ราย, สิโรรส-ปาร์ควิว ฮอสพิเทล 179 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส เรนโบว์ ฮอสพิเทล 129 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์สะพานปูน 2 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์โรงยิมบานา 46 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์ เซาท์เทิร์น วิว 239 ราย และ Home Isolation 361 ราย
จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ระหว่างรักษารวม 6,382 ราย แยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 1,181 ราย, อ.หนองจิก 488 ราย, อ.โคกโพธิ์ 320 ราย, อ.ยะหริ่ง 514 ราย, อ.สายบุรี 1,096 ราย, อ.ไม้แก่น 242 ราย, อ.แม่ลาน 65 ราย, อ.ยะรัง 512 ราย, อ.ปะนาเระ 192 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 418 ราย, อ.มายอ 778 ราย และ อ.กะพ้อ 313 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 496 ราย แยกเป็นพื้นที่ อ.เมือง 137 ราย, อ.ตากใบ 99 ราย, อ.ยี่งอ 3 ราย, อ.จะแนะ 48 ราย, อ.สุคิริน 7 ราย, อ.รือเสาะ 1 ราย, อ.บาเจาะ 61 ราย, อ.ระแงะ 66ราย, อ.ศรีสาคร 25 ราย, อ.เจาะไอร้อง 8 ราย, อ.สุไหงปาดี 40 ราย และ อ.สุไหงโก-ลก 1 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 30,349 ราย รักษาหายสะสม 26,143 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 5 ราย ทำให้มรผู้เสียชีวิตสะสม 327 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 6,347 ราย, อ.ระแงะ 3,202 ราย, อ.รือเสาะ 1,684 ราย, อ.บาเจาะ 2,360 ราย, อ.จะแนะ 1,234 ราย, อ.ยี่งอ 2,250 ราย, อ.ตากใบ 2,380 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 2,293 ราย, อ.สุไหงปาดี 2,605 ราย, อ.ศรีสาคร 1,646 ราย, อ.แว้ง 1,866 ราย, อ.สุคิริน 858 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 1,624 ราย
@@ตรวจเชิงรุก ATK พระสงฆ์วัดพุทธาธิวาส อ.เบตง
ที่วัดพุทธาธิวาส อ.เบตง จ.ยะลา นายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง พร้อมเจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองเบตง ได้ตรวจคัดกรองเชิงรุก ด้วยวิธี ATK ให้พระภิกษุของวัด จำนวน 11 รูป เพื่อการเฝ้าระวังการค้นหาเชิงรุก และการคัดกรองควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งการตรวจ(ATK)หาเชื้อโควิด-19 ในครั้งนี้ผลปรากฏว่าผลเป็นลบทั้งหมด
นายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่เทศบาลเมืองเบตง ยังคงพบผู้ติดเชื้อสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดการแพร่ระบาด ขอให้ประชาชนไม่ประมาท การ์ดอย่าตก เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย ไม่ไปในที่ชุมชนแออัดปฏิบัติตามมาตรการเคร่งครัด รวมถึงมาตรการบังคับใช้ต่างๆ เพื่อลดจำนวนอัตราการติดเชื้อในพื้นที่และสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ไปด้วยกัน
นอกจากนี้ทางเทศบาลเมืองเบตง ได้ประกาศแจ้งผู้ประกอบการร้านค้าในตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง รวมถึงผู้ช่วยขาย และลูกจ้างของร้านค้า ขอให้เข้ารับการตรวจ Antigen test kit หรือ ATK ในวันที่ 14 ตุลาคม 2564 เวลา 08.30 - 11.30 น. ณ อาคารตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง ชั้น 2 หากผู้ประกอบการร้านค้าท่านใดไม่เข้ารับการตรวจ Antigen test kit หรือ ATK ในวันดังกล่าว ทางเทศบาลเมืองเบตงจะพิจารณาไม่อนุญาตให้เข้าขายสินค้าในตลาดสดเทศบาลเมืองเบตงต่อไป
@@ทบ.สนับสนุนเครื่องบินขนทีมแพทย์และอุปกรณ์ช่วยใต้
ที่ท่าอากาศยานปัตตานี ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ทีมแพทย์อาสาจากกรุงเทพมหานคร นำโดย นายแพทย์ ปานเทพ คณานุรักษ์ อดีตผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนระบบบริการทุติยภูมิและตติยภูมิ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พร้อมด้วย สมาชิกหมออาสาพริบตาคลินิก สมาชิกเพจอีจัน สมาชิกสื่อกระจกเงาและสมาชิกสื่อเส้นด้าย นำอุปกรณ์ทางการแพทย์ มามอบให้แก่โรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด 19 ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยลำเลียงมาด้วยเครื่องบินลำเลียงของกองทัพบก C295
นายแพทย์ ปานเทพ คณานุรักษ์ อดีตผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนระบบบริการทุติยภูมิและตติยภูมิ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นของจังหวัดชายแดนภาคใต้ กลุ่มแพทย์อาสาที่ได้ปฏิบัติงานให้การดูแลผู้ป่วยโควิดในพื้นที่กรุงเทพฯ เล็งเห็นถึงความสำคัญที่จะส่งมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์มายังจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อช่วยบรรเทาสถานการณ์ให้ดีขึ้น จึงได้มีการประสานไปยัง พล.อ. ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ในเรื่องการขนย้ายทางอากาศยาน รวมทั้งกำลังพลจากกองทัพบก ซึ่งผู้บัญชาการทหารบกก็ได้ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ในทุกๆ ด้าน
สำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์ ที่ทีมแพทย์อาสา ในการขนย้ายด้วยเครื่องบินของกองทัพบก มายังจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย เครื่องผลิตออกซิเจน จำนวน 167 เครื่อง Osat จำนวน 849 เครื่อง ปรอทดิจิตอล จำนวน 70 อัน ปรอทแก้ว จำนวน 30 อัน Canula จำนวน 1,000 ชิ้น หน้ากากอนามัย 300 ชิ้น ถุงแรกรับ จำนวน 255 ถุง ชุด PPE จำนวน 279 ชุด ATK จำนวน 2,000 อัน N95 จำนวน 200 ชิ้น CPE จำนวน 240 ชุด Legcover จำนวน 280 อัน ยาพารา จำนวน 3,000 ชุด Dextro จำนวน 3,000 ชุด Bromhex จำนวน 3,000 ชุด โฮมีโอ จำนวน 100 ถุงแดง จำนวน 1 ลัง โดยจะได้ส่งมอบให้แก่ผู้แทนจากโรงพยาบาลศูนย์ยะลา ก่อนจะนำไปแจกจ่ายแก่ โรงพยาบาลนราธิวาส โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก โรงพยาบาลปัตตานี โรงพยาบาลมายอ และโรงพยาบาลหนองจิก นอกจากนี้ยังได้นำรวมไว้ที่ศูนย์ยะลาต้องรอด ซึ่งเป็นทีมอาสาอิสระเพื่อช่วยส่งต่อให้กับจุดที่ต้องการต่อไป