โควิดชายแดนใต้ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ติดชาร์ตประเทศครบทั้ง 4 จังหวัดอีกรอบ ยะลาพุ่งขึ้นอันดับ 2 ผู้ว่าฯปัตตานีคนใหม่สั่งเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยเข้มงวดมาตรการคุมโรคระบาด
วันศุกร์ที่ 8 ต.ค.64 สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และจังหวัดสงขลา ยังไม่มีที่ท่าว่าจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันจะลดลง
ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ในวันนี้ยังทำให้ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้กลับเข้ามาอยู่ในชาร์ต 10 อันดับจังหวัดที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากที่สุดของประเทศ โดยเฉพาะ จ.ยะลา จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่อยู่ในอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยขึ้นอันดับ 2 ต่อเนื่องกัน 3 วัน ระหว่างวันที่ 2 – 4 ต.ค.
ข้อมูลจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ที่เผยแพร่ผ่านศูนย์ข้อมูล COVID-19 ประจำวันที่ 8 ต.ค. พบว่า จ.ยะลา ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 776 ราย จากอันดับ 4 ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 2, จ.นราธิวาส ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 592 ราย จากอันดับ 8 ขยับขึ้นมาอันดับ 4, จ.ปัตตานี ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 503 ราย จากเดิมที่หลุดชาร์ตไป กลับเข้ามาอยู่อันดับที่ 6 และ จ.สงขลา มีตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ ลดลงมาอยู่ที่ 444 จากอันดับ 5 ลงมาเป็นอันดับ 7
ขณะที่รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จากในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ จ.สงขลา วันที่ 8 ต.ค.64 มีรายละเอียดดังนี้
จ.ยะลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 776 ราย ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มเป็น 28,017 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 6,549 ราย รักษาหายแล้ว 21,262 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 1 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 206 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 600 ราย ซึ่งจำนวนผู้ป่วยแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.เมืองยะลา 9,820 ราย, อ.กรงปินัง 1,991 ราย, อ.เบตง 2,069 ราย, อ.รามัน 3,750 ราย, อ.บันนังสตา 4,786 ราย, อ.กาบัง 800 ราย, อ.ธารโต 1,794 ราย และ อ.ยะหา 3,007 ราย
ผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 6,499 ราย แยกเป็นโรงพยาบาลยะลา 207 ราย, โรงพยาบาลเบตง 173 ราย, โรงพยาบาลชุมชน (รพช.) 6 แห่ง 521 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 101 ราย, โรงพยาบาลสนาม อ.เมือง 818 ราย, โรงพยาบาลสนามเบตง 268 ราย, โรงพยาบาลสนามรามัน 443 ราย, โรงพยาบาลสนามบันนังสตา 339 ราย, โรงพยาบาลสนามยะหา 108 ราย, โรงพยาบาลสนามธารโต 88 ราย, โรงพยาบาลสนามกรงปินัง 218 ราย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ศอ.12 ยะลา 28 ราย, ผู้ป่วยแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation) 1,359 ราย , ผู้ป่วยแยกกักตัวในชุมชน (Community Isolation) 558 ราย อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าระบบ 1,270 ราย
จ.นราธิวาส มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 592 ราย แยกเป็นพื้นที่ อ.เมือง 117 ราย, อ.ยี่งอ 6 ราย, อ.จะแนะ 2 ราย, อ.แว้ง 21 ราย, อ.สุคิริน 12 ราย, อ.รือเสาะ 24 ราย, อ.บาเจาะ 67 ราย, อ.ระแงะ 180 ราย, อ.ศรีสาคร 68 ราย, อ.เจาะไอร้อง 58 ราย, อ.สุไหงปาดี 36 ราย และ อ.สุไหงโก-ลก 1 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 28,016 ราย รักษาหายสะสม 23,953 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 6 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 310 ราย
ผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ได้ดังนี้ อ.เมือง 5,703 ราย, อ.ระแงะ 2,921 ราย, อ.รือเสาะ 1,667 ราย, อ.บาเจาะ 2,109 ราย, อ.จะแนะ 1,135 ราย, อ.ยี่งอ 2,104 ราย, อ.ตากใบ 2,218 ราย, อ.สุไหงโก-ลก 2,160 ราย, อ.สุไหงปาดี 2,370 ราย, อ.ศรีสาคร 1,513 ราย, อ.แว้ง 1,789 ราย, อ.สุคิริน 833 ราย และ อ.เจาะไอร้อง 1,494 ราย
จ.ปัตตานี มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 514 ราย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 25,581 ราย รักษาหายแล้ว 16,491 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 6 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 320 ราย ผู้ป่วยแยกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานี 184 ราย, โรงพยาบาลสนามจังหวัด 327 ราย, โรงพยาบาลประจำอำเภอ 1,353 ราย, โรงพยาบาลชุมชน 562 ราย, โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร 7 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส 45 ราย, สิโรรส-ปาร์ควิว ฮอสพิเทล 175 ราย, โรงพยาบาลสิโรรส เรนโบว์ ฮอสพิเทล 128 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์สะพานปูน 12 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์โรงยิมบานา 64 ราย, โรงพยาบาลธัญรักษ์ เซาท์เทิร์น วิว 228 ราย และ Home Isolation 132 ราย
จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 อยู่ระหว่างรักษารวม 5,467 ราย แยกรายอำเภอ ได้แก่ อ.เมือง 1,302 ราย, อ.หนองจิก 358 ราย, อ.โคกโพธิ์ 228 ราย, อ.ยะหริ่ง 542 ราย, อ.สายบุรี 887 ราย, อ.ไม้แก่น 156 ราย, อ.แม่ลาน 47 ราย, อ.ยะรัง 476 ราย, อ.ปะนาเระ 143 ราย, อ.ทุ่งยางแดง 338 ราย, อ.มายอ 521 ราย และ อ.กะพ้อ 241 ราย
จ.สงขลา มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 456 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็น 34,935 ราย ติดเชื้อภายในประเทศ 34,912 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 23 ราย เป็นผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษา 6,308 ราย รักษาหายแล้ว 28,467 ราย มีผู้เสียชีวิตใหม่ 2 ราย ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 160 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 1,328 ราย
จำนวนผู้ติดเชื้อแยกตามพื้นที่ ได้แก่ อ.หาดใหญ่ 9,078 ราย, อ.เมืองสงขลา 5,027 ราย, อ.สิงหนคร 3,856 ราย, อ.จะนะ 3,324 ราย, อ.สะเดา 2,839 ราย, อ.สะบ้าย้อย 2,144 ราย, อ.เทพา 1,912 ราย, อ.รัตภูมิ 1,729 ราย, อ.บางกล่ำ 710 ราย, อ.นาทวี 652 ราย, สทิงพระ 582 ราย, อ.ระโนด 570 ราย, อ.นาหม่อม 399 ราย, ควนเนียง 313 ราย, อ.คลองหอยโข่ง 212 ราย, อ.กระแสสินธุ์ 52 ราย, เป็นกรณีเรือนจำ รวม 1,117 ราย เป็นคนต่างจังหวัด 396 ราย และจากต่างประเทศ 23 ราย
@@ พ่อเมืองปัตตานีคนใหม่สั่ง จนท.เข้มคุมโควิด
ที่ห้องประชุมพญาตานี ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดปัตตานี นายนิพันธ์ บุญหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เรียกประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปัตตานี เป็นครั้งแรก หลังที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีคนใหม่ เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เป็นรายอำเภอของ จ.ปัตตานี พบว่า สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นหลัก 500 และยังคงเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม หลังจากได้มีมาตรการผ่อนคลาย ทำให้มีการทำกิจกรรมในชุมชน มีการรวมกลุ่มกัน ร้านอาหาร ร้านน้ำชา และในชุมชน ส่งผลต่อการติดเชื้อและมีการแพร่กระจายเชื้อโควิดลงไปสู่ครอบครัวมากขึ้น
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้เร่งปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะการประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจให้กับประชาชนปฏิบัติตามมาตรการที่ได้ประกาศ / คำสั่งจังหวัดปัตตานี ที่ออกไปแล้วอย่างเคร่งครัด หลังพบว่า ประชาชนการ์ดตก ไม่ปฏิบัติตามมาตรการของสาธารณสุข D-M-H-T-Tและให้ระมัดระวังป้องกันตนเอง เมื่อรู้ว่าตนเองมีความเสี่ยง ต้องกักตัวดูแลตนเองและครอบครัว ควบคู่กับการตรวจหาเชื้อในกลุ่มเสี่ยง Antigen Test Kit (ATK)
@@ เมืองยะลารับวัคซีนแล้วกว่า 65%
ที่โรงเรียนบ้านลำใหม่ ต.ลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา ประชาชนชาวยะลาใน 2 ตำบล ประกอบด้วย ต.ลำใหม่ และ ต.ลำพะยา จำนวนกว่า 600 คน เดินทางเพื่อเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด -19 เข็มที่ 2 กันอย่างอย่างคึกคัก ภายหลังจากที่สถานการณ์การระบาดของโควิด -19 ในพื้นที่เขตอำเภอเมืองยะลายังสูงเป็นอันดับ 1 ของจังหวัด ขณะที่นายธราวุธ ช่วยเกิด นายอำเภอเมืองยะลา ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมพร้อมทั้งการประชาสัมพันธ์การฉีดวัคซีนเชิงรุกของประชาชนเพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ตามนโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา
นายอำเภอเมืองยะลา เปิดเผยว่า สถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดยะลา ยังพบผู้ติดเชื้อสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้สั่งปรับระบบการทำงานเชิงรุก ร่วมบูรณาการทุกภาคส่วน เพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดยะลา โดยได้สั่งการให้ทางอำเภอทุกอำเภอ ระดมเร่งฉีดวัคซีนป้องกันประชาชนให้มากที่สุด ซึ่งขณะนี้ประชาชนในเขตอำเภอเมืองดำเนินการฉีดวัคซีนแล้ว กว่า 65 เปอร์เซ็นต์ พร้อมทั้งการประชาสัมพันธ์เร่งตรวจหาเชื้อเชิงรุกด้วย ATK เพื่อนำผู้ติดเชื้อเข้าสู่ระบบ Ci ศูนย์พักคอยตามกระบวนรักษา
@@ เทศบาลเมืองเบตงเตรียมเปิดศูนย์ LQ แห่งใหม่
ที่ อ.เบตง จ.ยะลา นายสกุล เล็งลัคน์กุล นายกเทศมนตรีเมืองเบตง พร้อมด้วยนายศิริ มงคลประจักษ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองเบตง สมาชิกสภาเทศบาล และผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่เข้าเตรียมความพร้อมศูนย์ LQ เทศบาลเมืองเบตงแห่งใหม่ ณ บริเวณอาคารหอพักนักศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา ศูนย์อำเภอเบตง และเข้าเยี่ยมศูนย์ Community Isolation (CI) ศูนย์พักคอยในชุมชน ณ อาคารสถาบันพัฒนาอุดมศึกษาเพื่อการขยายโอกาส ซึ่งจัดตั้งขึ้นสำหรับรองรับผู้ป่วยโควิดสีเขียวที่มีอาการไม่หนัก
ส่วนที่โรงพยาบาลเบตง นายกิตติภณ เปรมรัชชานนท์ ปลัดอาวุโส ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเบตงพร้อมทั้งเดินดูการปฏิบัติงานขั้นตอนการฉีดวัคซีนของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเบตงและยังพูดคุยให้กำลังใจ เด็กนักเรียนที่มาฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด19 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวันแรกของเด็กนักเรียน โดยมีเด็กนักเรียนที่ศึกษาอยู่ในพื้นที่ อ.เบตง ที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในวันนี้ จำนวน 1,200 คน ทางโรงพยาบาลจึงได้จัดวางระบบการฉีดวัคซีนให้เด็กเป็นช่วงเวลา
ส่วนที่บริเวณที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง มีพ่อค้าแม่ค้าเกือบ 300 คน มาคอยรับบัตรคิว เพื่อให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอเบตง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองเบตง ตรวจ ATK เพื่อหาเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังจากที่มีพ่อค้าแม่ค้าในตลาดสดติดเชื้อหลายราย เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 พร้อมทั้งสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่จะมาซื้อข้าวของในตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง ก่อนที่จะเปิดตลาดสดตามปกติ